เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
  พระสูตร : สุตตะ(คำสอนพระศาสดา)
ค้นหาคำที่ต้องการ      

 

   
   

  พระสูตรชุดเต็ม ชุด 10    
1001 เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า บำเพ็ญบารมี การประสูติ เสด็จอุทยาน การออกบวช บำเพ็ญสมาบัติ ทุกรกิริยา เทศนา ปรินิพพาน
1002 ถูปารหบุคคล บุคคล ๔ จำพวก ผู้สมควรสร้างสถูป เพื่อผู้เห็นจะยังจิตให้เลื่อมใส ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
1003 สุภัททะ สาวกองค์สุดท้าย ขอเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค และ ปัญหาธรรมะเรื่องสุดท้าย ก่อนเสด็จปรินิพพาน
1004 บุคคล ๒ จำพวก เมื่อเกิดขึ้นในโลกย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์เกื้อกูลของชนมาก... ๒ จำพวกนี้ ฟ้าผ่าย่อมไม่สะดุ้ง
1005 เหตุปัจจัยให้เข้าถึงสุคติ คือผู้ประพฤติเรียบร้อย ตามกุศลกรรมบท ๑๐ ... ส่วนผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย ย่อมเข้าถึง อบาย-นรก
1006

จักรพรรดิ์ มี ๓ พระสูตร 1.พระจักรพรรดิ์ ทัลหเนมิ 2.มหาสุทัสสนะ เมืองกุสาวดี (พระพุทธเจ้า) 3.พระเจ้ามฆเทวะ เมืองมิถิลา

1007 ผู้ไม่ประมาทในชีวิต รวม 19 พระสูตร..วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่.. สังขารมีความเสื่อมไป จงยังความไม่ประมาทเถิด
 
1008 ธรรมบท-อุทาน 1 หมวดว่าด้วยธรรมเป็นคู่กัน หมวดว่าด้วยความไม่ประมาท (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1009 ธรรมบท-อุทาน 2 หมวดว่าด้วยการฝึกจิต หมวดว่าด้วยดอกไม้ (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)

1010

ธรรมบท-อุทาน 3 หมวดว่าด้วยคนพาล หมวดว่าด้วยบัณฑิต (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1011 ธรรมบท-อุทาน 4 หมวดว่าด้วยพระอรหันต์ หมวดว่าด้วยหนึ่งในร้อยในพัน (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1012 ธรรมบท-อุทาน 5 หมวดว่าด้วยบาป (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1013 ธรรมบท-อุทาน 6 หมวดว่าด้วยความชรา หมวดว่าด้วยตน (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1014 ธรรมบท-อุทาน 7 หมวดว่าด้วยเรื่องโลก หมวดว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้า (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1015 ธรรมบท-อุทาน 8 หมวดว่าด้วยความสุข หมวดว่าด้วยสิ่งเป็นที่รัก (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1016 ธรรมบท-อุทาน 9 หมวดว่าด้วยความโกรธ หมวดว่าด้วยมลทินทางใจ (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1017 ธรรมบท-อุทาน 10 หมวดว่าด้วยผู้ตั้งอยู่ในธรรม หมวดว่าด้วยมรรค (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1018 ธรรมบท-อุทาน 11 หมวดว่าด้วยเรื่องเบ็ดเตล็ด หมวดว่าด้วยคนทำกรรมชั่วตกนรก (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1019 ธรรมบท-อุทาน 12 หมวดว่าด้วยช้าง หมวดว่าด้วยตัณหา (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1020 ธรรมบท-อุทาน 13 หมวดว่าด้วยภิกษุ หมวดว่าด้วยพราหมณ์ (อรรถกถา-คำแต่งใหม่)
1021 จักรวาลหนึ่ง พระพุทธเจ้านับจาก มีดวงจันทร์โคจร มีดวงอาทิตย์โคจร และมีแสงอาทิตย์ส่องถึง
1022 ทรงเปล่งอุทานคาถา เมื่อแรกตรัสรู้ ..รวมพุทธคาถา พุทธอุทานคาถา ในเวลาต่างกั
1023 ต้นไม้ ๕ ชนิด ที่ทรงประทับเมื่อแรกตรัสรู้ ต้นโพธิ์ (เสวยวิมุติ๗วัน) ต้นอชปาลนิโครธ ต้นมุจจลินท์ ราชายตนะ อชปาลนิโครธ
1024 อาฏานาฏิยสูตร (ฉบับหลวง) ท้าวเวสวัณมหาราช เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค เทียบเคียงกับ ของท่านพุทธทาส ที่คัดมาเฉพาะพุทธจน
1025 วินัยสงฆ์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย จุลศีล 26 ประเภท มัชฌิมศีล 10 ประเภท มหาศีล 149 ประเภท รวม 185 ประเภท
1026 อำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ แห่งการบัญญัติสิกขาบท เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ เพื่อป้องกันอาสวะจะบังเกิด เพื่อกำจัดอาสวะ
1027 อานิสงส์ ๖ ประการ ในการฟังธรรมโดยกาลอันควร ผัคคุณสูตร ได้ฟังตถาคต สาวกตถาคตแสดงธรรม ระลึกบทแห่งธรรมได้เอง
1028 สนทนาธรรมเรื่องผู้ทำให้ป่างาม (มหาโคสิงคสาลสูตร) พระสารีบุตร ตั้งหัวข้อถามกับพระเถระว่า "ป่าโคสิงคสาลวัน น่ารื่นรมย์
1029 เวรย่อมไม่ระงับด้วยการผูกเวร ทรงห้ามภิกษุเมืองโกสัมพีทะเลกัน ทรงตรัสสอน การผูกโกรธ กับการไม่ผูกโกรธ
1030 มิตรดี มิตรชั่ว มีมิตรชั่ว อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมเกิด กุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเสื่อม..มิตรดี กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิด
1031 โลกธรรม ๘ (12 นัยยะ) ฤทธิเดชของลาภสักการะ อันตรายทารุณเผ็ดแสบ ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ
1032

การตั้งอยู่ในอรหัตตผล มีได้ด้วยการศึกษาโดยลำดับ กุลบุตรในธรรมวินัยนี้ เกิดศรัทธาแล้ว เข้าไปใกล้ นั่งใกล้ เงี่ยโสต ลงสดับ

   
  กองกุศล-กองอกุศลที่แท้จริง
1033 สติปัฎฐาน ๔ คือ กองกุศล (กุศลราสี) (พระสูตรเต็ม)
1033-1 สติปัฎฐาน ๔ คือ กองกุศล (กุศลราสี) (แบบย่อ)
1034 นิวรณ์ ๕ คือ กองอกุศล (อกุศลราสี) เปรียบแม่น้ำที่ไหลลงจากภูเขาสู่ที่ไกล จักไม่ซัดไม่ส่ายไหลไม่ผิดทาง
   
1035 บุคคล ๓ จำพวก (10 นัยยะ) กายสักขี สัมมาทิฐิ.. ปรุงแต่งสังขาร..พวกรู้อริยสัจสี่.. ควรเข้าใกล้. คนตาบอด-ตาดี..มีปัญญา-ไม่มี
1036 บุคคล ๗ จำพวก1.อุภโตภาควิมุต 2.ปัญญาวิมุต 3.กายสักขี 4.ทิฏฐิปัตต 5.สัทธาวิมุต 6.ธัมมานุสารี 7.สัทธานุสารี
1037 ปริพาชกวัจฉโคตร วัจฉะเข้าใจผิดเรื่องญาณทัศนะของพระผู้มีพระภาค สิ่งที่เข้าใจถูกคือ พระองค์มีวิชชา ๓ (เตวิชชะ)
1038

ความเพียรซึ่งเกิดได้ยาก ๒ อย่าง คือ 1.ความเพียรเพื่อทำให้เกิดจีวรบิณฑบาต(เข้ามาบวช) 2.ความเพียรเพื่อสละคืนอุปธิ

1039 สมชีวิสูตร คู่บุพเพสันนิวาส สามีภรรยาหวังพบกันทั้งปัจจุบันและสัมปรายภพ ทั้งสองพึงมี ศรัทธา-ศีล-จาคะ-ปัญญา เสมอกัน
1040 สังวาสสูตร ชายผี หญิงผี ..ชายผี หญิงเทวดา..ชายเทวดา หญิงผี ..ชายเทวดา หญิงเทวดา
1041

คุณธรรม ๗ ประการ เพื่อความเป็นท้าวสักกะ(พระอินทร์-ดาวดึงส์) เลี้ยงมารดาบิดา อ่อนน้อม พูดอ่อนหวาน ละความตระหนี่

1042 มหาสมัยสูตร ประชุมเทวดา เทวดาจากโลกธาตุทั้ง ๑๐ ประชุมกันเพื่อทัศนา พระผู้มีพระภาค และ ภิกษอรหันต์ ๕๐๐ รูป
1043 ความมีขึ้นแห่งภพ (นัยที่ ๑) เนื้อนา คือภพ คือกรรม... (นัยที่ ๒) เจตนา คือภพ คือกรรม
1044 ตารางเปรียบเทียบ วิชชา3.. ญาณ3... ปฏิหาริย์ 3.. อภิญญา 6..วิชชา 8 (แบบย่อ)
1045 วิชชา ๘ : วิปัสสนาญาณ- มโนมยิทธิญาณ- อิทธิวิธญาณ ทิพยโสต- เจโต- ปุพเพนิวาสา- จุตูปปาตญาณ- อาสวักขยญาณ
   
1046 คาถาธรรมบท ๒๒ : ผู้กล่าวคำไม่จริงย่อมเข้าถึงนรก..ผู้ทำบาปแล้วกล่าวว่ามิได้ทำย่อมเข้าถึงนรก ผู้มีมิจฉาทิฐิย่อมไปสู่ทุคติ
1047 คาถาธรรมบท ๒๓ : เราจักอดกลั้น ความไม่ประมาท ความอดกลั้นซึ่งคำล่วงเกิน ดุจช้างอดทนซึ่งลูกศร ที่ออกมาจากแล่ง
1048 คาถาธรรมบท ๒๔ : ตัณหา ย่อมเจริญแก่มนุษย์ผู้ประมาท ทาน ที่บุคคลถวายในท่าน ผู้ปราศจาก ราคะ โทสะ โมหะย่อมมีผลมาก
1049 คาถาธรรมบท ๒๕ : ความสำรวม ความสำรวมด้วยจักษุ ด้วยหู ด้วยจมูก ด้วยลิ้น ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เป็นความดี
1050 คาถาธรรมบท ๒๖ : ความเป็นพราหมณ์ 28 นัยยะ เธอจงเปลื้องราคะ และ โทสะเสีย เหมือนมะลิที่ปล่อยดอกเหี่ยวแห้ง
1051 คาถาธรรมบท ๒๐ : มรรคแปด ประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย อริยสัจจ์ประเสริฐกว่าสัจจะทั้งหลาย วิราคธรรมประเสริฐกว่าธรรมทั้ง-
   
  พระสูตรตรัสกับราธะ (ฉบับหลวง)
1052
ราธะ
: พระสูตรตรัสกับราธะ
1.การไม่มี อหังการ มมังการ มานานุสัย
2.ว่าด้วยขันธมาร..
3.ว่าด้วยเหตุที่เรียกว่าสัตว์
4.กิเลสเครื่องนำไปในภพ
5.ว่าด้วยธรรมที่ควรกำหนดรู้
6.สมณะพราหมณ์ที่ควรยกย่อง
7.ผู้ควรยกย่องว่าเป็นสมณพราหมณ์


1053 ราธะ : พระสูตรตรัสกับราธะ (ฉบับหลวง)
8. ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน รู้ชัดเหตุเกิด ..
9. ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ..
10. ว่าด้วยการละฉันทราคะในขันธ์ ๕ เธอจงสละ ความพอใจ ..
11. ว่าด้วยการละฉันทราคะในขันธ์ ๕ ขันธ์๕ เธอละได้แล้ว ..
12. มารเป็นไฉน..
13. ว่าด้วยธรรมของมาร รูป เป็นมารธรรม ..
14. ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนิจจัง ..
15. สิ่งที่เป็นอนิจจธรรม รูป เป็นอนิจธรรม..
16. อะไรหนอเป็นทุกข์ รูป ..
17. ว่าด้วยสิ่งที่เป็นทุกข์ ..
18. อะไรหนอเป็นอนัตตา? รูปเป็นอนัตตา ..
19. อะไรหนอเป็นอนัตตธรรม? รูป เป็นอนัตตธรรม ..
20. อะไรหนอเป็นขยธรรม? ..
21. วยธัมมสูตร ว่าด้วยสภาพที่รู้จักเสื่อม ..
22. สมุทยธัมมสูตร ว่าด้วยสภาพที่รู้จักเกิดขึ้น ..
23. นิโรธธัมมสูตร ว่าด้วยสภาพที่รู้จัก..
1054 ราธะ : พระสูตรตรัสกับราธะ (ฉบับหลวง)
24. การละความพอใจในขันธมาร
25. ว่าด้วยการละความพอใจใน มารธรรม
26. สิ่งใดเป็น อนิจจัง พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
27. สิ่งใดเป็น อนิจจธรรม พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
28. สิ่งใดเป็น ทุกข์ พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
29. สิ่งใดเป็น ทุกขธรรม พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
30. สิ่งใดเป็น อนัตตา พึงละพอใจในสิ่งนั้นเสีย
31. สิ่งใดเป็น อนัตตธรรม พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
32. สิ่งใดเป็น ขยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย
33. สิ่งใดเป็น วยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) พึงละความในสิ่งนั้นเสีย
34. สิ่งใดเป็น สมุทยธรรมเสีย (เหตุเกิด) พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้น
35. สิ่งใดเป็น นิโรธธรรม เธอพึงละ ความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย

36. รูป เวทนา เป็นมาร พึงละความพอใจ ในรูปนั้นเสีย
37. สิ่งใดเป็น มารธรรม พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
38. สิ่งใดเป็น อนิจัง พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
39. สิ่งใดเป็น อนิจจธรรม พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
40. สิ่งใด เป็นทุกข์ พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย ฯลฯ
41. สิ่งใด เป็นทุกขธรรม พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
42. สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
43. สิ่งใดเป็น อนัตตธรรม พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
44. สิ่งใดเป็น ขยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป) พึง ละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
45. สิ่งใดเป็น วยธรรม (เสื่อมไปสิ้นไป)พึงละความพอใจ ในสิ่งนั้นเสีย
46. สิ่งใดเป็น สมุทยธรรม (สิ่งที่รู้จักเกิดขึ้น) พึงละความในสิ่งนั้นเสีย
47. สิ่งใด เป็นนิโรธธรรม (สิ่งที่รู้จักดับ )เธอพึงละความพอใจ

48. สิ่งใดไม่เที่ยง พึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย จักษุไม่เที่ยง รูปไม่เที่ยง
49. สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอพึงละความพอใจในสิ่งนั้นเสีย 
50. สภาพใดแลไม่ใช่ตัวตน เธอพึงละความพอใจใน สภาพนั้นเสีย
51. ว่าด้วยพูดเพ้อเจ้อเพราะความเขลา
52. ว่าด้วยกาวิดน้ำด้วยปาก
53. เป็นทุกข์เพราะภรรยาไม่ได้ผ้าย้อมดอกคำ ทุกข์เพราะถูกเสียบหลาว
54. ว่าด้วยสุนัขเข้าอยู่ในท้องช้าง เราจะไม่เข้าไปสู่ท้องช้างบ่อยๆ
55. ว่าด้วยต้นไม้ใบเดียว ต้นไม้นี้มีเพียงใบเดียว จากพื้นสูงไม่เกิน ๔ นิ้ว
56. ว่าด้วยโทษที่ยกย่องอสัตบุรุษ
1055 พระสูตรตรัสกับราธะ (จากอริยสัจจ์จากพระโอษฐ์) (ตรัสกับ ราธะ และตรัสกับ ภิกษุ ท.)

หน้าที่ ๒๓๓ เบญจขันธ์ไม่เที่ยง
หน้าที่ ๒๓๔ สมุทยธรรม วยธรรม นิโรธธรรม 
หน้าที่ ๒๓๖ เบญจขันธ์เป็นทุกข์
หน้าที่ ๒๓๗ นั่นไม่ใช่ของเรา นั่น ไม่ใช่เรา นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา 
หน้าที่ ๒๓๘ เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์
หน้าที่ ๒๓๙ เบญจขันธ์เป็นอนัตตา
หน้าที่ ๒๔๐ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนัตตา
หน้าที่ ๒๔๓ สิ่งใดมิใช่ของเรา
หน้าที่ ๒๔๕ เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นอนัตตา
หน้าที่ ๒๔๖-๑ เบญจขันธ์เป็นภาระที่หนัก
หน้าที่ ๒๔๖ เบญจขันธ์เป็นทั้ง ผู้ฆ่า และ ผู้ตาย
หน้าที่ ๒๔๗ เบญจขันธ์เป็นกองถ่านเถ้ารึง
หน้าที่ ๒๔๘ เบญจขันธ์เป็นเครื่องผูกพันสัตว์
หน้าที่ ๒๔๙ เรียกกันว่า “สัตว์” เพราะติดเบญจขันธ์
หน้าที่ ๒๕๑ ไม่รู้จักเบญจขันธ์ชื่อว่ามีอวิชชา
หน้าที่ ๒๕๑-๑ เพลินในเบญจขันธ์เท่ากับเพลินในทุกข์
หน้าที่ ๒๕๒ ต้องละฉันทราคะ ในเบญจขันธ์
หน้าที่ ๒๕๖ ทรงแสดงลักษณะความทุกข์ (อีกปริยายหนึ่ง)
หน้าที่ ๒๘๒ เครื่องจูงใจสู่ภพ
หน้าที่ ๒๘๓ พืชของภพ (ตรัสกับอานนท์)
หน้าที่ ๔๑๙ ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้
หน้าที่ ๔๒๐ ละฉันทราคะแห่งสิ่งใด ก็คือการละซึ่งสิ่งนั้น
หน้าที่ ๔๒๑ ความสิ้นตัณหา คือ นิพพาน
หน้าที่ ๔๒๒ ที่สุดของพรหมจรรย์ คือนิพพาน

1056 สักกายะทิฎฐิ : สักกายะคือ สักกายสมุทัยคือ สักกายนิโรธคือ สักกายนิโรธคามินี- สักกายะทิฐิมีได้อย่างไร อย่างไรจึงจะไม่มี
1057 พระสูตร เรื่องมนุษย์ในโลกธาตุ มี 2 พระสูตร ฐานสูตร : จูฬนีสูตร : โกศลสูตรที่๑
1058 ว่าด้วยเรื่องเทวดา พระเจ้าปเสนทิโกศล ถามพระพุทธเจ้า ว่าเทวดามีจริงหรือ พรหมมีจริงหรือ
1059 พระเจ้าปเสนทิโกศล ให้ รู้จักประมาณในโภชนะ ย่อมมีเวทนาเบาบาง แก่ช้า อายุยืน ผู้ชำนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์
1060

คุณธรรมของราชา กษัตริย์แม้มีทรัพย์มากก็ไม่พ้นชรามรณะ.. ต้องมีธรรมราชา...โสดาบันประเสริฐกว่าจักรพรรดิ

1061 ภิกษุไม่ควรไหว้บุคคล ๑๐ จำพวก และ ควรไหว้บุคคล ๓ จำพวก
1062 ที่สุดแห่งทุกข์..เมื่อเห็นอยู่ย่อมเบื่อหน่าย..ที่สุดแห่งทุกข์ ไม่มีการไปแต่อยู่ในกายและใจนี้ กระทำที่สุดแห่งทุกข์ด้วยวิชชา-จรณะ
1063 ปัจจัยสูตร เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชราและมรณะ ... เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
1064 พระเสขะ และพระอเสขะ เสขภูมิ อเสขภูมิ เสขบุคคล อเสขบุคคล
1065 อรหันต์ ๗ องค์ พระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก ๗ องค์..พระพุทธเจ้า โกณทัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ ยสกุลบุตร
1066

กรรมเก่า – กรรมใหม่ 1.กรรมเก่า(ปุราณกัมม) 2.กรรมใหม่(นวกัมม) 3.ความดับแห่งกรรม (กัมมนิโรธ) 4.ข้อปฏิบัติ (มรรคแปด)

1067 ภูตสัตว์ สัตว์ผู้ได้ภพใหม่ ภูตสัตว์ : มิได้อยู่ที่ไหน แต่หลง(ยึดติด) อยู่ในขันธ์5 (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
1068

กาลิก .. ของฉัน ๔ อย่าง ๑.ยามกาลิก-น้ำปานะ ๒.ยาวกาลิก-อาหาร ๓. สัตตาหกาลิก-น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ๔. ยาวชีวิก-ยารักษาโรค

1069 พระอนุรุทธะ ถามพระสารีบุตร เรื่องการสิ้นอาสวะ... พระสารีบุตร แนะนำให้ละธรรม 3 ประการ 1.มานะ 2.อุทธัจจะ 3.กุกกุจจะ
1070

ธรรมสมาทาน ๔ อย่าง สุข-ทุกข์ปัจจุบัน สุข-ทุกข์เป็นวิบาก เหตุเพราะไม่รู้ธรรม-รู้ธรรมที่ควรเสพ และเห็นอย่างถูกต้อง

1071

อุปมา ๕ ข้อ (ธรรมสมาทาน ๔) เหมือนน้ำเต้าขมปนด้วยยา.. น้ำหวานปนยาพิษ.. ของมูตรเน่า..น้ำผึ้งเนยใส ..อากาศอันโปร่ง

1072 การตรวจดูธรรม (วีมังสกสูตร) การตรวจสอบความเป็นพระพุทธเจ้า พระสูตรนี้เป็นอรรถกถา ไม่ใช่คำสอนของพระศาสดา
1073 มิจฉาทิฐิของ มักขลิ (เจ้าลัทธิ) มีทิฐิว่า กรรมไม่มี ...แต่คิดว่ากรรมเหมือนกลุ่มด้ายยุ่ง เมื่อคลี่ไปก็จะหมด (กรรมไปเอง)
1074 เวรสูตร คือศีล ๕ หรือ ภัยเวร ๕ ประการ ตรัสไว้ ๒ พระสูตร ตรัสกับอนาถบิณฑิก และตรัสกับภิกษุ ท. โดยเนื้อความตรงกัน
1075 อาฆาตสูตร ธรรมเป็นที่ระงับความอาฆาต๕ ประการ เจริญเมตตา กรุณา อุเบกขา ไม่นึกถึงบุคคลนั้น..นึกถึงว่าเป็นกรรมของตน
1076 อนุปุพพสังขารนิโรธ : ลำดับแห่งการดับของสังขาร (ของสรรพสิ่ง) อนุปุพพนิโรธสูตร (ความดับไปตามลำดับ ๙ ขั้นตอน)
1077 มหาสุญญตสูตร (วิหารธรรม เครื่องอยู่ของตถาคต) ตถาคตตรัสรู้ในที่นั้นๆ นี้แล คือ ตถาคตบรรลุ สุญญตสมาบัติภายใน
1078 สูญญตาวิหาร คือ วิหารธรรมที่ทรงอยู่มากที่สุด... แม้กำลังแสดงธรรมกถา จิตก็ยังน้อมไปในวิเวก..นี้คือ "ปรมานุตตรสุญญตา"
1079 สุญญตวิหารธรรม พิจารณาความว่าง (สูญญตา) ตามลำดับ เมื่อก่อนว่างเปล่าจากช้าง โค ม้า ไม่ว่างอยู่สิ่งเดียวเฉพาะภิกษุสงฆ์
1080 เถรสูตร : ธรรม ๕ ประการ ของภิกษุผู้ปฎิบัติเพื่อความฉิบหาย และ ภิกษุผู้ปฎิบัติเพื่อความสุขความเจริญ แก่มหาชน
1081 นิโรธสูตร : อุทายี เห็นแย้งกับ พระสารีบุตร ผู้ที่เข้า สัญญาเวทยิตนิโรธ เมื่อกายแตกดับแล้วจะไปสู่ภพไหน
1082 บุคคล ๔ จำพวก (ปุคคลวรรคที่ ๔) จำนวน ๘ พระสูตร (๘ นัยยะ)
1083 โลกันตนรก มีแต่ความทุกข์ มืดคลุ้มมัว เป็นหมอก สัตว์ในโลกันตนรกนั้น ไม่ได้รับรัศมีพระจันทร์ และพระอาทิตย์
1084 จินตสูตร อย่าคิดเรื่องโลก เพราะไม่ได้เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ พึงคิดว่า นี้ทุกข์ ฯลฯนี้ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
1085 กฬารขัตติยสูตร (๑) กฬารขัตติยภิกษุ กล่าวหาว่าพระสารีบุตรอวดอ้างพระอรหัตผล "รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้วพรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
1086 กฬารขัตติยสูตร (๒) พระกฬารขัตติยภิกษุ ฟ้องพระผู้มีพระภาค ว่าพระสารีบุตรบันลือสีหนาท
1087 มหากัปปินสูตร (พระมหากัปปินะ) เพราะอานาปานสติกระทำเจริญให้มาก กายย่อมไม่ไหวหรือเอนเอียง ใจก็ไม่ไหวหรือดิ้นรน
1088 อรหันต์นิพพานแล้วไปไหน อัคคิวัจฉโคตตสูตร วัจฉะ.. พระอรหันต์ ไปเกิดก็ไม่ใช่ ไม่เกิดก็ไม่ใช่..ไปเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่ใช่
   
  รวมเรื่อง กายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขาร
1089 ๑) กรรมดำกรรมขาว ๔ (กุกกุโรวาทสูตร) ก็กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาว ย่อมเป็นไปเพื่อความ สิ้นกรรมนั้นเป็นไฉน
1090 ๒) เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย บุคคลย่อมปรุงแต่งสังขารทั้งหลาย.. เมื่อกาย วาจา ใจมีอยู่ สุขและทุกข์ ย่อมบังเกิดขึ้น
1091 ๓) สังขารสูตร บุคคลย่อมปรุงแต่งกายสังขาร วจีสังขาร มโนสังขาร ที่มีความเบียดเบียน ไม่เบียดเบียน ทั้งเบียดเบียนและไม่เบียด
1092 ๔) สัญเจตนิยวรรคที่ ๓ เมื่อกายมีอยู่ เมื่อวาจามีอยู่ เมื่อใจมีอยู่ สุขทุกข์ภายในย่อมเกิดขึ้น เพราะกายสัญเจตนา เป็นเหตุ ...
1093 ๕) กรรมวรรคที่ ๔ มรรควิธีเพื่อความสิ้นกรรม (ไม่มีทั้งกรรมดำ-ขาว) คือเจตนาเพื่อละกรรมดำ- อริยมรรคมีองค์แปด-โพชฌงค์ ๗
   
1094 เรื่องพระฉัพพัคคีย์ : ห้ามติเตียนวินัยของตถาคต ตรัสกับพระฉัพพัคคีย์ว่า เป็นโมฆบุรุษ ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
1095 ปฏิสัลลาณสูตร (ผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาท) เลื่อมใสและไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศีลไม่ขาด และทำยิ่งๆขึ้นไป
1096 รถสูตร ธรรม ๓ ประการ เพื่อความสุขในปัจจุบันและสิ้นอาสวะคือ 1.ครองทวารอินทรีย์ 2.ประมาณในโภชนะ 3.มีความเพียรตื่นอยู่
1097 โกศลสูตรที่ ๑ สิ่งที่ว่าเลิศทั้งหลาย ก็ยังมีความแปรปรวน แม้ท้าวมหาพรหมผู้เป็นเลิศ ผู้ได้กสิณ ๑๐ ผู้เข้าถึงเนวสัญญา
1098 ฉันนสูตร (พระฉันนะฆ่าตัวตาย) พระสารีบุตรและจุนทะสอนธรรม ..ส.นั่นไม่ใช่ของเรา .จ.สอนที่สุดแห่งทุกข์ ไม่มีการมาการไป
1099 วิญญาณฐิติ ๗ และอายตนะ ๒ สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน .... สัตว์มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน ฯลฯ
1100 สัญญา ๖ พึงรู้จักสัญญา.. แดนเกิดของสัญญา ความต่างของสัญญา ความดับของสัญญา ทางดำเนินใหเถึงความดับไม่เหลือ
   
   
   



พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์