เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่ พุทธวจน คำสอนของพระศาสดา คำสอนตถาคต รวมพระสูตรสำคัญ อนาคามี เว็บไซต์เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
 ว่าด้วยเรื่องเทวดา พระเจ้าปเสนทิโกศล ถามพระพุทธเจ้า ว่าเทวดามีจริงหรือ พรหมมีจริงหรือ 1058
 
 
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทูลถามพระพุทธเจ้า ว่า
1. เทวดามีจริงหรือ
2. ถ้าเทวดามีจริง เทวดาเหล่านั้น มาสู่โลกนี้ หรือ ไม่มาสู่โลกนี้ พระเจ้าข้า?
(มาสู่โลกนี้ คือมาปรากฎกายที่โลกมนุษย์)

พระพุทธเจ้าตอบว่า

ดูกรมหาบพิตร เทวดาเหล่าใดมีทุกข์ เทวดาเหล่านั้น มาสู่โลกนี้
เทวดาเหล่าใดไม่มีทุกข์ เทวดาเหล่านั้นไม่มาสู่โลกนี้


ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พรหมมีจริงหรือ?
ถ้าพรหมมีจริง พรหมนั้นมาสู่โลกนี้ หรือไม่มาสู่โลกนี้ พระเจ้าข้า.

พ. ดูกรมหาบพิตร พรหมใดมีทุกข์ พรหมนั้นมาสู่โลกนี้
พรหมใดไม่มีทุกข์ พรหมนั้น ก็ไม่มาสู่โลกนี้ ขอถวายพระพร.

   เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
   การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
   การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
   แสวงหาสัจจะ บำเพ็ญทุกรกิริยา
   ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
   ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
   ปลงสังขาร ปรินิพพาน
   ลำดับขั้นการปรินิพพาน
   เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
   แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 


ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓ สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ หน้าที่ ๓๙๗

ว่าด้วยเรื่องเทวดา

        [๕๘๐] ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคตรัสสภาพอันเป็นเหตุ และตรัสสภาพ อันเป็นผลพร้อมกับเหตุ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็เทวดามีจริงหรือ พระเจ้าข้า?

     พ. ดูกรมหาบพิตร ก็เพราะเหตุอะไรมหาบพิตรจึงตรัสถามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็เทวดามีจริงหรือ?

     ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเทวดามีจริง เทวดาเหล่านั้น มาสู่โลกนี้ หรือ ไม่มาสู่โลกนี้ พระเจ้าข้า?

     พ. ดูกรมหาบพิตร เทวดาเหล่าใดมีทุกข์ เทวดาเหล่านั้น มาสู่โลกนี้ เทวดาเหล่าใดไม่มีทุกข์ เทวดาเหล่านั้นไม่มาสู่โลกนี้ ขอถวายพระพร.

        [๕๘๑] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว วิฑูฑภเสนาบดี ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เทวดาเหล่าใดมีทุกข์ มาสู่โลกนี้ เทวดาเหล่านั้นจัก ยังเทวดาทั้งหลายผู้ไม่มีทุกข์ ไม่มาสู่โลกนี้ ให้จุติ หรือจักขับไล่เสียจากที่นั้น. (เทวดาผู้มีทุกข์ จะทำให้เทวดาไม่มีทุกข์ตาย หรือขับไล่ออก ไปเสีย)

     ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้มีความดำริว่า วิฑูฑภเสนาบดีนี้ เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปเสนทิโกศล เราเป็นโอรสของพระผู้มีพระภาค บัดนี้เป็นกาลอันสมควรที่โอรส กับโอรสจะพึงสนทนากัน.

ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ จึงกล่าวกะวิฑูฑภเสนาบดีว่า ดูกรเสนาบดีถ้าเช่นนั้น ในข้อนี้ อาตมาจะขอย้อนถามท่านก่อน ปัญหาใดพึงพอใจแก่ท่านฉันใด ท่านพึง พยากรณ์ปัญหานั้น ฉันนั้น

ดูกรเสนาบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน พระราชอาณาจักรของพระเจ้า ปเสนทิโกศล มีประมาณเท่าใด และในพระราชอาณาจักรใด พระเจ้าปเสนทิโกศล เสวยราชสมบัติเป็นอิศราธิบดี ในพระราชอาณาจักรนั้น ท้าวเธอย่อมทรงสามารถยัง สมณะ หรือพราหมณ์ ผู้มีบุญ หรือผู้ไม่มีบุญ ผู้มีพรหมจรรย์ หรือผู้ไม่มีพรหมจรรย์ ให้เคลื่อนหรือทรง ขับไล่เสียจากที่นั้นได้มิใช่หรือ?

วิฑูฑภเสนาบดีตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พระราชอาณาจักร ของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีประมาณเท่าใด และในพระราชอาณาจักรใด พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยราชสมบัติ เป็นอิศราธิบดี ในพระราชอาณาจักรนั้น ท้าวเธอย่อมทรงสามารถยังสมณะ หรือพราหมณ์ ผู้มีบุญ หรือผู้ไม่มีบุญ ผู้มีพรหมจรรย์ หรือผู้ไม่มีพรหมจรรย์ ให้เคลื่อน หรือทรงขับไล่เสีย จากที่นั้นได้.

     อา. ดูกรเสนาบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ที่อันมิใช่พระราชอาณาจักร ของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีประมาณเท่าใด และในที่ใด พระเจ้าปเสนทิโกศล มิได้เสวยราชสมบัติ เป็นอิศราธิบดี ในที่นั้น ท้าวเธอย่อมทรงสามารถยังสมณะ หรือพราหมณ์ ผู้มีบุญหรือผู้ไม่มีบุญผู้มีพรหมจรรย์ หรือผู้ไม่มีพรหมจรรย์ ให้เคลื่อน หรือทรงขับไล่เสียจากที่นั้นได้หรือ?

     วิ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ในที่อันมิใช่พระราชอาณาจักรของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีประมาณเท่าใด และ ในที่ใด พระเจ้าปเสนทิโกศลมิได้เสวยราชสมบัติเป็นอิศราธิบดี ในที่นั้นท้าวเธอย่อมไม่ทรงสามารถ จะยัง สมณะหรือพราหมณ์ ผู้มีบุญหรือผู้ไม่มีบุญ ผู้มีพรหมจรรย์หรือผู้ไม่มีพรหมจรรย์ ให้เคลื่อนหรือทรงขับไล่ จากที่นั้นได้.

     อา. ดูกรเสนาบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เทวดาทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ ท่านได้ฟังมาแล้วหรือ?

     วิ. อย่างนั้น ท่านผู้เจริญ  เทวดาทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้ว แม้ในบัดนี้ เทวดาทั้งหลาย ชั้นดาวดึงส์ พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ได้ทรงสดับมาแล้ว.

     อา. ดูกรเสนาบดี ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน พระเจ้าปเสนทิโกศลย่อม ทรงสามารถ จะยังเทวดาทั้งหลายชั้นดาวดึงส์  ให้เคลื่อนหรือจะทรงขับไล่เสียจาก ที่นั้นได้หรือ?

     วิ. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ แม้แต่จะทอดพระเนตรเทวดาทั้งหลายชั้นดาวดึงส์ พระเจ้าปเสนทิโกศล ก็ไม่ทรงสามารถ ที่ไหนเล่าจักทรงยังเทวดาทั้งหลาย ชั้นดาวดึงส์ให้เคลื่อนหรือจักทรงขับไล่ เสียจากที่นั้นได้.

     อา. ดูกรเสนาบดี ฉันนั้นเหมือนกันแล เทวดาเหล่าใดมีทุกข์ยังมาสู่โลกนี้ เทวดาเหล่านั้น ก็ย่อมไม่สามารถ แม้เพื่อจะเห็นเทวดาผู้ไม่มีทุกข์ ผู้ไม่มาสู่โลกนี้ได้ ที่ไหนเล่าจักให้จุติหรือจักขับไล่เสียจากที่นั้นได้.

     ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ภิกษุรูปนี้ชื่ออะไร พระเจ้าข้า? พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภิกษุรูปนี้ชื่อ อานนท์ ขอถวายพระพร.

        [๕๘๒] ป. ชื่อของท่านน่ายินดีหนอ สภาพของท่านน่ายินดีจริงหนอ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านพระอานนท์กล่าวสภาพอันเป็นเหตุ และกล่าวสภาพ อันเป็นผลพร้อมด้วยเหตุ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พรหมมีจริงหรือ?

     พ. ดูกรมหาบพิตร ก็เพราะเหตุไรมหาบพิตรจึงตรัสถามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญก็พรหมมีจริงหรือ?

     ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพรหมมีจริง พรหมนั้นมาสู่โลกนี้ หรือไม่มาสู่โลกนี้ พระเจ้าข้า.

     พ. ดูกรมหาบพิตร พรหมใดมีทุกข์ พรหมนั้นมาสู่โลกนี้ พรหมใดไม่มีทุกข์ พรหมนั้น ก็ไม่มาสู่โลกนี้ ขอถวายพระพร.

     ลำดับนั้นแล บุรุษคนหนึ่งได้กราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ข้าแต่มหาราชา พราหมณ์สญชัยอากาส โคตร มาแล้ว พระเจ้าข้า.

     ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรัสถามพราหมณ์สญชัยอากาสโคตรว่า ดูกรพราหมณ์ ใครหนอกล่าวเรื่องนี้ ภายในพระนคร พราหมณ์สญชัยอากาสโคตร กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชา วิฑูฑภเสนาบดี พระพุทธเจ้าข้า.

     วิฑูฑภเสนาบดี ได้กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่มหาราชา พราหมณ์สญชัย อากาสโคตร พระพุทธเจ้าข้า.

     ลำดับนั้นแล บุรุษคนหนึ่งได้กราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ข้าแต่มหาราชา บัดนี้ ยานพาหนะพร้อมแล้ว พระพุทธเจ้าข้า.

    พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงชื่นชมภาษิตของพระพุทธเจ้า

        [๕๘๓] ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ถึงความเป็นสัพพัญญู พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์ ความเป็นสัพพัญญูแล้ว และข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น ย่อมชอบใจ และควรแก่หม่อมฉัน และหม่อมฉันมีใจชื่นชม ด้วยข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคถึงคนที่จัดเป็นวรรณะ ๔ จำพวกที่บริสุทธิ์ พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์คนที่จัดเป็นวรรณะ ๔ จำพวกที่ บริสุทธิ์แล้ว และข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น ย่อมชอบใจ และควรแก่หม่อมฉัน และ หม่อมฉัน มีใจชื่นชมด้วยข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคถึงเทวดาที่ยิ่ง พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์ เทวดาที่ยิ่งแล้ว และข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น ย่อมชอบใจและควรแก่หม่อมฉัน และหม่อมฉันมีใจชื่นชม ด้วยข้อที่ทรงพยากรณ์ นั้น

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคถึงพรหมที่ยิ่ง พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์พรหม ที่ยิ่งแล้ว และข้อที่ทรงพยากรณ์นั้น ย่อมชอบใจและควรแก่หม่อมฉัน และหม่อมฉันมีใจชื่นชม ด้วยข้อที่ทรง พยากรณ์นั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ

อนึ่ง หม่อมฉันได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคถึงข้อใดๆ พระผู้มีพระภาคก็ทรงพยากรณ์ ข้อนั้นๆ แล้ว และข้อที่ ทรงพยากรณ์นั้นๆ ย่อมชอบใจและควรแก่หม่อมฉัน และ หม่อมฉันมีใจชื่นชม ด้วยข้อที่ทรงพยากรณ์นั้นๆ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉัน ขอทูลลาไป ณ บัดนี้ หม่อมฉันมีกิจมาก มีกรณียะมาก.

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มหาบพิตรจงทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ขอถวายพระพร.

ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงชื่นชมอนุโมทนา พระภาษิตของพระผู้มีพระภาค เสด็จลุกจากที่ประทับ ทรงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค ทรงกระทำประทักษิณ แล้วเสด็จกลับไปฉะนี้แล.


 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90  
 
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์
อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
 
   
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน อานา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์