พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๕
ปัญจังคิกวรรคที่ ๓
๑. คารวสูตรที่ ๑
[๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุผู้ไม่มีที่เคารพ ไม่มีที่ยำเกรง ไม่มีความประพฤติเสมอ ในเพื่อน พรหมจรรย์ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตร ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญ ธรรมของพระเสขะให้บริบูรณ์นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม ของพระเสขะให้บริบูรณ์แล้ว จักรักษาศีลให้ บริบูรณ์ นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่รักษาศีล ให้บริบูรณ์แล้ว จักอบรมสัมมาทิฐิ ให้บริบูรณ์นั้น ไม่ใช่ ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่อบรมสัมมาทิฐิ ให้บริบูรณ์แล้ว จักเจริญสัมมาสมาธิ ให้บริบูรณ์ ได้นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุผู้มีที่เคารพ มีที่ยำเกรง มีความประพฤติเสมอ ในเพื่อนพรหมจรรย์ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตร ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะ ที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตร ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญธรรม ของพระเสขะ ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุบำเพ็ญธรรม ของพระเสขะ ให้บริบูรณ์แล้ว จักรักษาศีล ให้บริบูรณ์ ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุรักษาศีล ให้บริบูรณ์แล้ว จักอบรมสัมมาทิฐิ ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุอบรมสัมมาทิฐิ ให้บริบูรณ์แล้ว จักเจริญ สัมมาสมาธิให้บริบูรณ์ ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๕ - ๑๖
๒. คารวสูตรที่ ๒
[๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุผู้ไม่มีที่เคารพ ไม่มีที่ยำเกรง ไม่มีความ ประพฤติเสมอในเพื่อน พรหมจรรย์ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ ได้ นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญธรรม ของพระ เสขะให้บริบูรณ์ได้นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่บำเพ็ญธรรม ของพระเสขะให้ บริบูรณ์แล้ว จักรักษาศีลขันธ์ ให้บริบูรณ์ได้นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุไม่รักษาศีลขันธ์ ให้บริบูรณ์แล้ว จักเจริญสมาธิขันธ์ ให้บริบูรณ์ได้นั้น ไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ ภิกษุไม่เจริญสมาธิขันธ์ ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญปัญญาขันธ์ ให้บริบูรณ์ ได้นั้น ไม่ใช่ฐานะ ที่จะมีได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ข้อที่ภิกษุมีที่เคารพ มีที่ยำเกรง มีความประพฤติเสมอ ในเพื่อนพรหมจรรย์ จักบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุบำเพ็ญธรรม คือ อภิสมาจาริกวัตรให้บริบูรณ์แล้วจักบำเพ็ญธรรม ของพระเสขะ ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุบำเพ็ญธรรม ของพระเสขะ ให้บริบูรณ์แล้ว จักรักษาศีลขันธ์ให้ บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ภิกษุรักษา ศีลขันธ์ ให้บริบูรณ์แล้ว จักเจริญสมาธิขันธ์ให้บริบูรณ์ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
ข้อที่ ภิกษุเจริญสมาธิขันธ์ ให้บริบูรณ์แล้ว จักบำเพ็ญปัญญาขันธ์ ให้บริบูรณ์ ได้นั้น เป็นฐานะที่จะมีได้
----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๐-๒๑
๕. อนุคคหสูตร
[๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมาทิฐิ อันองค์ ๕ อนุเคราะห์แล้ว ย่อมเป็นธรรม มีเจโตวิมุติเป็นผล มีเจโตวิมุติเป็นผลานิสงส์ และเป็นธรรมมีปัญญาวิมุติเป็นผล มีปัญญาวิมุติ เป็นผลานิสงส์ องค์ ๕ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ สัมมาทิฐิ
อันศีล อนุเคราะห์แล้ว
อันสุตะ อนุเคราะห์แล้ว
อันการสนทนาธรรม อนุเคราะห์แล้ว
อันสมถะอนุเคราะห์แล้ว
อันวิปัสสนา อนุเคราะห์แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมาทิฐิอันองค์ ๕ เหล่านี้แล อนุเคราะห์แล้ว
ย่อมมี เจโตวิมุติ เป็นผล มีเจโตวิมุติ เป็นผลานิสงส์
และมี ปัญญาวิมุตติ เป็นผล มีปัญญาวิมุติ เป็นผลานิสงส์ |