(โดยย่อ)
พระศาสดาเห็นนรก
พระศาสดาเห็นเอง ด้วยทิพย์จักษุ
เปรียบเหมือนผู้ยืนอยู่ระหว่างเรือน ๒ หลัง(คติ๕) เห็นมนุษย์ กำลังเข้า เรือนบ้าง กำลังออกจากเรือนบ้าง กำลังเดินมาบ้าง กำลังเดินไปบ้าง ฉันใด เรามองเห็น หมู่สัตว์กำลัง จุติ กำลังอุบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุ อันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมทราบชัดซึ่งหมู่สัตว์ ผู้เป็นไปตามกรรม (นัยยะคำว่าบ้าน 2 หลัง หลังหนึ่งน่าจะเป็น บ้านของผู้ที่ทำแต่ กุศลกรรม อีกหลังหลัง ทำแต่ อกุศลกรรม และแดนนรกก็น่า จะอยู่ในบ้านหลังนี้)
ในภพนรก(บ้าน2หลัง) นั้น
1.ผู้มีกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ..เป็นสัมมาทิฐิ เมื่อตาย(จากนรก) เข้าสู่สุคติโลกสวรรค์ ก็มี
2.ผู้มีกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ..เป็นสัมมาทิฐิ เมื่อตายแล้ว บังเกิดในหมู่มนุษย์ ก็มี
3.ผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ..เป็นมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว เข้าถึงปิตติวิสัย ก็มี
4.ผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ..เป็นมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว เข้าถึงสัตว์เดียรัจฉาน ก็มี
5.ผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ..เป็นมิจฉาทิฐิ เมื่อตายไปแล้ว เข้าถึงอบายทุคติวินิบาตนรก ก็มี
นายนิรบาล(ผู้ไต่สวน) จะสอบถามถึงเทวทูตทั้ง๕ สมัยเป็นมนุษย์
ถาม เทวทูตที่ ๑ (เกิด)
พยายม.ท่านไม่ได้เห็น เทวทูตที่ ๑ ปรากฏในหมู่มนุษย์ หรือ /
สัตว์นั้น.ไม่เห็นเลยเจ้าข้า
พยายม. ท่านไม่เห็นเด็กแดงๆยังอ่อนนอนแบ เปื้อนมูตรคูถอยู่ในหมู่มนุษย์หรือ/
สัตว์นั้น. เห็นเจ้าข้า
พระยายม. ท่านนั้นรู้ความ มีสติ มีความดำริบ้างไหมว่า แม้ตัวเราก็มีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความเกิดไปได้ ควรที่เราจะทำความดีทางกาย วาจา ใจ /
สัตว์นั้น. ข้าพเจ้าไม่อาจ เพราะมัวประมาท
พระยายม.ท่านไม่ได้ทำความดีเพราะมัวประมาท ดังนั้นจักถูกลงโทษ จักเสวยวิบากของบาปกรรมนั้น
ถาม เทวทูตที่ ๒ (แก่)
พยายม. ท่านไม่ได้เห็น เทวทูตที่ ๒ ปรากฏในหมู่มนุษย์ หรือ/
สัตว์นั้น. ข้าพเจ้าไม่เห็นเลย เจ้าข้าฯ
พยายม. ท่านไม่เห็นหญิงหรือชาย มีอายุ ๘๐ ปี ๙๐ ปี ผู้แก่ ซี่โครงคด หลังงอ ถือไม้ เท้า งกเงิ่น ฟันหักผมหงอก หนังย่น เหี่ยว ตัวตกกระ ในหมู่มนุษย์หรือ/ สัตว์นั้น.เห็นเจ้าข้า
พยายม. ท่านนั้นรู้ความมีสติ มีความดำริบ้างไหมว่า แม้ตัวเราแล ก็มีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้น ความแก่ไปได้ ควรที่จะทำความดีทางกาย วาจาใจ/ สัตว์นั้น.ข้าพเจ้าไม่อาจ เพราะมัวประมาทเจ้าข้า
พยายม. ท่านไม่ได้ทำความดีเพราะมัวประมาท ดังนั้นจักถูกลงโทษ จักเสวยวิบากของบาปกรรมนั้น
ถาม เทวทูตที่ ๓ (เจ็บ)
พยายม. ท่านไม่ได้เห็น เทวทูตที่ ๓ ปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ/
ไม่เห็นเลย เจ้าข้า
พยายม. ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชาย ผู้ป่วย ทนทุกข์ เป็นไข้หนัก นอนเปื้อนมูตรคูถของตน มีคนอื่นคอยพยุงลุก พยุงเดิน ในหมู่มนุษย์หรือ / สัตว์นั้นทูลอย่างนี้ว่า เห็นเจ้าข้า
พยายม. ท่านรู้ความมีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความดำริบ้างไหมว่า แม้ตัวเราแล ก็มีความเจ็บป่วยเป็น ธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บป่วยไปได้ ควรที่เราจะทำความดี ทางกาย ทางวาจา และทางใจ
พระยายม.ท่านไม่ได้ทำความดีเพราะมัวประมาท ดังนั้นจักถูกลงโทษ จักเสวยวิบากของบาปกรรมนั้น
ถาม เทวทูตที่ ๔ (ถูกลงทัณฑ์)
พยายม. ปลอบโยน เอาอกเอาใจ ไต่ถามถึงเทวทูตที่ ๓ กะสัตว์นั้น
ว่า ท่านไม่ได้เห็น เทวทูตที่ ๔ ปรากฏในหมู่ มนุษย์หรือ/ สัตว์นั้น.ทูลว่าไม่เห็นเลย เจ้าข้า
พยายม. ท่านไม่ได้เห็นราชา จับโจรผู้ทำผิดแล้วสั่งลงโทษ ต่างชนิดกัน ๒๖ ชนิด/ เห็นเจ้าข้า
พยายม. สัตว์ที่ทำกรรมลามก ย่อมถูกลงกรรมกรณ์ต่างชนิดในปัจจุบัน จะป่วยกล่าวไปไยถึงชาติหน้า ควรที่เราจะทำความดีทางกายวาจาใจ / สัตว์นั้น.ข้าพเจ้าไม่อาจ เพราะมัวประมาทเสียเจ้าข้า
พระยายม.ท่านไม่ได้ทำความดีเพราะมัวประมาท ดังนั้นจักถูกลงโทษ จักเสวยวิบากของบาปกรรมนั้น
ถาม เทวทูตที่ ๕ (ตาย)
พยายม. ปลอบโยน เอาอกเอาใจ จึงไต่ถามถึง เทวทูตที่ ๕ ว่า ท่านไม่ได้เห็น เทวทูตที่ ๕ ปรากฏ ในหมู่ มนุษย์หรือ/สัตว์นั้น. ข้าพเจ้าไม่เห็นเลย เจ้าข้า ฯ
พยายม. ท่านไม่ได้เห็นหญิงหรือชาย ที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวัน ขึ้นพอง เขียวช้ำ มีน้ำเหลืองเยิ้ม ในหมู่มนุษย์หรือ/ สัตว์นั้น.เห็นเจ้าข้า
พยายม. ท่านรู้ความมีสติ เป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความดำริบ้างไหมว่าแม้ตัวเราแลก็มีความตายเป็นธรรมดา
ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ควรที่เราจะทำความดีทางกาย ทางวาจา และทางใจ / สัตว์นั้น. ข้าพเจ้า ไม่อาจ เพราะมัวประมาทเสียเจ้าข้า
พระยายม.ท่านไม่ได้ทำความดีเพราะมัวประมาท ดังนั้นจักถูกลงโทษ จักเสวยวิบากของบาปกรรมนั้น
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การลงทัณฑ์ในชั้น นรก
๑) ตรึงตะปูเหล็กแดง ที่มือและเท้า และ กลางอก ...
สัตว์นั้นจะเสวยเวทนา อันเป็นทุกข์กล้า เจ็บแสบ อยู่ในนรกนั้น และ ยังไม่ตายตราบเท่าบาปกรรม ยังไม่สิ้นสุด
๒) หล่านิรยบาล
- จับสัตว์ ขึงพืด เอาเท้าขึ้นข้างบน เอาหัวลงข้างล่าง แล้วถากด้วยพร้า
- สัตว์นั้น เทียมรถแล้วให้วิ่งกลับไปกลับมา บนแผ่นดินที่มีไฟลุกโพลง
- ให้สัตว์ ปีนขึ้นปีนลง ภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่
- จับสัตว์ เอาเท้าขึ้นข้างบน เอาหัวลงข้างล่าง แล้วพุ่งลงไปในหม้อทองแดง ที่มีไฟลุกโพลง สัตว์นั้นจะเดือดพล่านเป็นฟองอยู่ในหม้อทองแดง และยังไม่ตายตราบเท่าบาป กรรมยังไม่สิ้นสุด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การลงทัณฑ์ในชั้น มหานรก
- มหานรกมีกำแพงเหล็กร้อนทั้ง ๔ ด้าน เปลวไฟลุกโพลงไปร้อยโยชน์ (๑,๖๐๐ กม.)
-บางครั้งประตูนรกด้านหน้าเปิด สัตว์จะวิ่งไปทางนั้น ไฟจะไหม้ผิว ไหม้เนื้อ ไหม้เอ็น แม้กระดูก จนควันตลบ แต่ร่างจะกลับคงรูปเดิมทันที (เพื่อชดใช้กรรมต่อไปอีก)
-บางครั้งบางคราว สัตว์จะออกทางประตูที่เปิด แล้วจะตกลงไปในบ่อคูถ หมู่สัตว์ปากดังเข็มคอย เฉือนผิวหนัง เนื้อ เอ็น จนถึงกระดูก แล้วกินเยื่อในกระดูก
- มีนรกเต็มด้วยเถ้ารึงใหญ่(กองเถ้าร้อนุ) สัตว์จะตกลงไปในนั้น ย่อมเสวยทุกข์กล้าอันเจ็บแสบ
- ในนรกเถ้ารึงนั้น มีป่างิ้วใหญ่รอบด้าน ต้นสูงชะลูดโยชน์หนึ่ง(๑๖กม.) มีหนามยาว ๑๖ องคุลี (นิ้ว) มีไฟลุกโพลง เหล่านิรยบาลจะบังคับให้สัตว์ขึ้นๆลงๆ ที่ต้นงิ้ว (จนกว่าจะหมดกรรม)
-ป่างิ้วนั้น มีป่าต้นไม้ใบเป็นดาบใหญ่อยู่รอบด้าน เมื่อสัตว์เข้าไปในป่านั้น ใบไม้ที่ถูกลมพัด จะตัดมือ บ้าง ตัดเท้า ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง
-ในป่าต้นไม้มีใบเป็นดาบนั้น มีแม่น้ำใหญ่ที่เป็นด่าง สัตว์นั้นจะตกลงไปในแม่น้ำ จะลอยอยู่ในเถ้ารึง มีขี้เถ้าปิดข้างนอกรอบด้าน
- ในแม่น้ำใหญ่นั้น เหล่านายนิรยบาล พากันเอาเบ็ดเกี่ยวสัตว์ขึ้นวางบนบก ถามว่าเจ้าต้องการอะไร สัตว์นั้นบอกว่า ข้าพเจ้าหิว เหล่านายนิรยบาลจะเอาขอเหล็กร้อนมีไฟติดเปิดปากออก แล้วใส่ก้อน โลหะร้อน มีไฟติดทั่ว ใส่เข้าในปาก ทำให้ไหม้ตั้งแต่ริมฝีปาก จนใส้ทะลักไหลออกมาทางทวาร
-เหล่านายนิรยบาลถามว่า เจ้าต้องการอะไร สัตว์นั้นบอกว่า ข้าพเจ้าระหาย เหล่านิรยบาล จึงเอา ขอเหล็กร้อนมีไฟติดทั่ว เปิดปากแล้วเอา น้ำทองแดงร้อน กรอกเข้าปาก ทำให้ริมฝีปากใหม้ ปากใหม้ ลงไปไปจนถึงคอ ถึงท้อง แล้วพาเอาไส้ใหญ่ ไส้น้อย ออกมาทางทวาร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยมบาลรำพึง นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พยายมมีความดำริ ว่าเหล่าสัตว์ที่ทำกรรมลามกไว้ในโลก ย่อมถูกนายนิรยบาลลงกรรมกรณ์ ต่างชนิด เห็นปานนี้ โอหนอ
..
- ขอเราพึงได้ความเป็นมนุษย์
- ขอพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธ พึงเสด็จอุบัติในโลก
- ขอเราพึงได้ นั่งใกล้พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
- ขอพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น พึงทรงแสดงธรรมแก่เรา
- ขอเราพึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเถิด
พระสูตรเดียวกัน P620 (แบบย่อ)
|