เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ปัพพชาสูตรที่ ๑ ว่าด้วยการสรรเสริญการบรรพชา ปธานสูตรที่ ๒ ความเพียรอย่างเด็ดเดี่ยว 2458
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

ปัพพชาสูตรที่ ๑ ว่าด้วยการสรรเสริญการบรรพชา

ปธานสูตรที่ ๒
ความเพียรอย่างเด็ดเดี่ยว

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าท๊๋ ๓๖๗-๓๖๘

ปัพพชาสูตรที่ ๑
ว่าด้วยการสรรเสริญการบรรพชา

            ท่านพระอานนท์กล่าวคาถาว่า

            [๓๕๔] ข้าพเจ้าจักสรรเสริญบรรพชา อย่างที่พระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ ทรง บรรพชา ข้าพเจ้าจักสรรเสริญบรรพชา อย่างที่พระพุทธ เจ้าพระองค์นั้นทรงทดลองอยู่ ทรงพอพระทัยบรรพชา ด้วยดี พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า ฆราวาสนี้คับแคบ เป็นบ่อ เกิดแห่งธุลี และทรงเห็นว่า บรรพชาปลอดโปร่ง จึงทรง บรรพชา

            พระพุทธเจ้าครั้นทรงบรรพชาแล้ว ทรงเว้นบาปกรรม ทางกาย ทรงละวจีทุจริต ทรงชำระอาชีพให้หมดจด พระ พุทธเจ้ามีพระลักษณะอันประเสริฐมากมาย ได้เสด็จถึง กรุง ราชคฤห์ เสด็จเที่ยวไปยังคิริพชนคร แคว้นมคธ เพื่อ บิณฑบาตพระเจ้าพิมพิสาร ประทับยืนอยู่บนปราสาท ได้ทอด พระเนตรเห็นพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้สมบูรณ์ด้วย ลักษณะ จึงได้ตรัสเนื้อความนี้ว่า แน่ะท่านผู้เจริญทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย จงดูภิกษ ุรูปนี้เถิด ภิกษุรูปนี้มีรูปงามสมบูรณ์ มีฉวีวรรณ บริสุทธิ์ ถึงพร้อมด้วยการเที่ยวไป และเพ่งดูเพียงชั่วแอก มีจักษุทอดลง มีสติ ภิกษุรูปนี้หาเหมือนผู้บวชจากสกุลต่ำ ไม่ ราชทูตทั้งหลายจงรีบไปเถิด เพื่อทราบว่าภิกษุรูปนี้จัก ไป ณ ที่ไหน ราชทูตที่พระเจ้า พิมพิสารส่งไปเหล่านั้น ได้ติดตามไปข้างหลังเพื่อทราบว่า ภิกษุรูปนี้จะไปที่ไหน จักอยู่ ณ ที่ไหน

            พระพุทธเจ้าเสด็จไปตามลำดับตรอก ทรง คุ้มครองทวาร สำรวมดีแล้ว มีพระสติ สัมปชัญญะ ได้ทรง ยังบาตรให้เต็มเร็ว พระองค์ผู้เป็นมุนี เสด็จเที่ยวบิณฑบาต แล้ว เสด็จออกจากพระนคร เสด็จไปยังปัณฑวบรรพต ด้วยทรงพระดำริว่า จักประทับอยู่ ณ ที่นั้น ราชทูตทั้ง ๓ เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปสู่ที่ประทับ จึงพากันเข้าไปเฝ้า คนหนึ่งกลับมากราบทูลแต่พระราชาว่า ขอเดชะ ภิกษุรูปนั้น นั่งอยู่เบื้องหน้าภูเขา ปัณฑวะ เหมือนเสือโคร่ง โคอุสุภราช และราชสีห์ในถ้ำ ฉะนั้น

            พระมหากษัตริย์ ทรงสดับคำของ ราชทูตแล้ว รีบด่วนเสด็จไปยังปัณฑวบรรพต ด้วยยานอันอุดม ท้าวเธอเสด็จไปตลอดพื้นที่แห่งยานแล้ว เสด็จลงจากยาน เสด็จ พระราชดำเนินด้วยพระบาท เข้าไปถึงปัณฑวบรรพตนั้น แล้ว ประทับนั่ง ครั้นแล้วได้ทรง สนทนาปราศรัย ครั้นผ่าน การปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้ตรัสเนื้อความนี้ว่า ท่านยังหนุ่มแน่น ตั้งอยู่ในปฐมวัย สมบูรณ์ด้วยความเฟื่อง ฟูแห่งวรรณะ เหมือนกษัตริย์ ผู้มีพระชาติ ท่านยังหมู่พล ให้งามอยู่ ผู้อันหมู่ประเสริฐห้อมล้อมแล้ว ข้าพเจ้าจะให้ โภคสมบัติ ขอเชิญท่านบริโภคโภคสมบัติเถิด ท่านอัน ข้าพเจ้าถามแล้วขอจงบอกชาติ แก่ข้าพเจ้าเถิด

            พระพุทธเจ้าตรัสพระคาถาตอบว่า ดูกรมหาบพิตร ชนบทแห่งแคว้นโกศล ซึ่งเป็นที่อยู่ข้าง หิมวันตประเทศ สมบูรณ์ด้วยทรัพย์และความเพียร อาตมภาพ โดยโคตร ชื่ออาทิตย์ โดยชาติชื่อศากยะ ไม่ปรารถนากาม เป็นผู้ออกบวชจากสกุลนั้น อาตมภาพเห็นโทษในกาม ทั้งหลาย เห็นการบรรพชาเป็นที่ปลอดโปร่ง จักไปเพื่อความ เพียร ใจของอาตมภาพยินดีในความเพียรนี้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๖๙-๓๗๑

ปธานสูตรที่ ๒
ความเพียรอย่างเด็ดเดี่ยว

            [๓๕๕] มารได้เข้ามาหาเราผู้มีตนส่งไปแล้วเพื่อความเพียร บากบั่น อย่างยิ่ง เพ่งอยู่ ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อบรรลุนิพพาน อันเกษมจากโยคะ กล่าววาจา น่าเอ็นดูว่า ท่านผู้ซูบผอม มีผิว พรรณเศร้าหมอง ความตายของท่านอยู่ในที่ใกล้ เหตุแห่ง ความตายของท่านมีตั้งพันส่วน ความเป็นอยู่ของท่านมีส่วน เดียว ชีวิต ของท่านผู้ยังเป็นอยู่ประเสริฐกว่า เพราะว่าท่าน เป็นอยู่จักกระทำบุญได้ ท่านประพฤติ พรหมจรรย์ และบูชา ไฟอยู่ ย่อมสั่งสมบุญได้มาก ท่านจักทำประโยชน์อะไรด้วย ความเพียร ทางเพื่อความเพียรพึงดำเนินไปได้ยาก กระทำได้ ยาก ให้เกิดความยินดี ได้ยาก มารได้ยืนกล่าวคาถาเหล่านี้ใน สำนักของพระพุทธเจ้า

            พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ นี้กะมารผู้กล่าวอย่างนั้นว่า แน่ะมารผู้มีบาป ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ ของคนประมาท ท่านมาในที่นี้ด้วยความต้องการอันใด ความ ต้องการ อันนั้นด้วยบุญ แม้มีประมาณน้อย ก็ไม่มีแก่เรา ส่วน ผู้ใดมีความต้องการบุญ มารควร จะกล่าวกะผู้นั้น เรามีศรัทธา ตบะ วิริยะ และปัญญา ท่านถามเราแม้ผู้มีตนส่งไปแล้ว ผู้เป็นอยู่อย่างนี้เพราะเหตุไร ลมนี้พึงพัดกระแสแม่น้ำทั้ง หลายให้เหือดแห้งไปได้ เลือดน้อยหนึ่งของเราผู้มีใจเด็ด เดี่ยวไม่พึงเหือดแห้ง เมื่อโลหิตเหือดแห้งไปอยู่ ดีและเสลษม์ ย่อมเหือดแห้งไป เมื่อเนื้อสิ้นไปอยู่ จิตย่อมเลื่อมใสโดยยิ่ง สติปัญญา และสมาธิของเรา ย่อมตั้งมั่นโดยยิ่ง

            เรานั้นถึงจะ ได้รับเวทนาอันแรงกล้าอยู่อย่างนี้ จิตย่อมไม่เพ่งเล็งกาม ทั้งหลาย ท่านจงดูความที่สัตว์เป็นผู้บริสุทธิ์ กามทั้งหลาย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๑ ของท่าน ความไม่ยินดีเรากล่าวว่า เป็นเสนาที่ ๒ ของท่าน ความหิวและความระหาย เรากล่าว ว่าเป็นเสนาที่ ๓ ของท่าน ตัณหา เรากล่าวว่าเป็นเสนา ที่ ๔ ของท่าน ถีนมิทธะ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๕ ของ ท่าน ความขลาดกลัว เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๖ ของท่าน ความสงสัย เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๗ ของท่าน ความลบหลู่ ความหัวดื้อ เรากล่าวว่า เป็นเสนาที่ ๘ ของท่าน ลาภ สรร เสริญ สักการะ เรากล่าวว่าเป็นเสนาที่ ๙ ของท่าน และยศ ที่ได้มาผิดซึ่งเป็นเหตุ ให้บุคคลยกตนและดูหมิ่นผู้อื่น เรากล่าว ว่าเป็นเสนาที่ ๑๐ ของท่าน

            แน่ะมาร เสนาของท่านนี้มีปกติ กำจัดซึ่งคนผู้มีธรรมดำ คนผู้ไม่กล้าย่อม ไม่ชนะซึ่งเสนาของ ท่านนั้น ส่วนคนผู้กล้าย่อมชนะได้ ครั้นชนะแล้วย่อมได้ ความสุข ก็เพราะเหตุที่ได้ความสุขนั้น แม้เรานี้ก็พึงรักษา หญ้ามุงกระต่ายไว้ น่าติเตียนชีวิต ของเรา เราตายเสียใน สงครามประเสริฐกว่า แพ้แล้วเป็นอยู่จะประเสริฐอะไร สมณพราหมณ์บางพวกหยั่งลงแล้วในเสนาของท่านนี้ ย่อม ไม่ปรากฏ ส่วนผู้ที่มีวัตรงาม ย่อมไปโดยหนทางที่ชนทั้งหลาย ไม่รู้ เราเห็นมารพร้อมด้วยพาหนะยกออกแล้วโดยรอบ จึงมุ่งหน้าไปเพื่อรบ

            มารอย่าได้ยังเราให้เคลื่อนจากที่ โลก พร้อมด้วยเทวโลกย่อมครอบงำ เสนาของท่านไม่ได้ เราจะ ทำลายเสนาของท่านเสียด้วยปัญญา เหมือนบุคคลทำลาย ภาชนะดินทั้งดิบทั้งสุก ด้วยก้อนหิน ฉะนั้น เราจักกระทำ สัมมาสังกัปปะให้ชำนาญและ ดำรงสติให้ตั้งมั่นเป็นอันดี แล้ว จักเที่ยวจากแคว้นนี้ไปยังแคว้นโน้น แนะนำสาวก เป็นอันมาก สาวกผู้ไม่ประมาทเหล่านั้นมีใจเด็ดเดี่ยว กระทำตามคำสั่ง สอนของเรา จักถึงที่ซึ่งไม่มีความใคร่ ที่ชนทั้งหลายไปถึงแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก

            มารกล่าวคาถาว่า เราได้ติดตามรอยพระบาทของพระผู้มีพระภาคสิ้น ๗ ปี ไม่ได้ ประสบช่องของพระสัมพุทธเจ้าผู้มีศิริ มารได้ไปตามลม รอบๆ ก้อนหินซึ่งมีสีคล้าย ก้อนมันข้น ด้วยคิดว่า เราจะ ประสบความอ่อนโยนในพระโคดมนี้บ้าง ความสำเร็จ ประโยชน์พึงมีบ้าง มารไม่ได้ความพอใจในพระสัมพุทธเจ้า ได้กลายเป็นลมหลีกไป ด้วยคิดว่า เราถึงพระโคดมแล้ว จะทำให้ทรงเบื่อพระทัยหลีกไป เหมือนกาถึงไสล บรรพต แล้วบินหลีกไป ฉะนั้น พิณของมารผู้ถูกความโศกครอบงำ แล้ว ได้ตกจากรักแร้ ลำดับนั้น มารนั้นเสียใจ ได้หายไป ในที่นั้นนั่นแล

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์