เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ราหุลสูตรที่ ๑๑ พระพุทโธวาทตรัสโปรดพระราหุล วังคีสสูตรที่ ๑๒ ตรัสแก้ความสงสัยของพระวังคีสะ 2456
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

ราหุลสูตรที่ ๑๑ พระพุทโธวาทที่ตรัสโปรดพระราหุล


วังคีสสูตรที่ ๑๒
พุทธพจน์ตรัสแก้ความสงสัยของพระวังคีสะ


เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๕๔-๓๕๕
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

ราหุลสูตรที่ ๑๑
พระพุทโธวาทที่ตรัสโปรดพระราหุล

             พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า

             [๓๒๘] เธอย่อมไม่ดูหมิ่นบัณฑิต เพราะการอยู่ร่วมกันเนืองๆ แล หรือ การทรง คบเพลิง เพื่อมนุษย์ทั้งหลาย เธอนอบน้อม แล้วแลหรือ

             พระราหุลกราบทูลว่า ข้าพระองค์ย่อมไม่ดูหมิ่นบัณฑิต เพราะการอยู่ร่วมกัน เนืองๆ การทรงคบเพลิง เพื่อมนุษย์ทั้งหลาย ข้าพระองค์นอบน้อม แล้วเป็นนิตย์

             พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เธอละกามคุณห้ามีรูปเป็นที่รัก เป็นที่รื่นรมย์ใจ ออกบวช ด้วย ศรัทธาแล้ว จงกระทำที่สุดทุกข์เถิด เธอจงคบกัล ยาณมิตร จงเสพ ที่นอนที่นั่งอัน สงัดเงียบ ปราศจากเสียง กึกก้อง จงรู้จักประมาณในโภชนะ เธออย่า ได้กระทำ ความอยากในวัตถุเป็นที่เกิดตัณหาเหล่านี้ คือ จีวร บิณฑบาต ที่นอน ที่นั่ง และปัจจัย

             เธออย่ากลับมาสู่โลกนี้อีก จงเป็น ผู้สำรวมในปาฏิโมกข์และในอินทรีย์ ๕ จงมีสติไปแล้ว ในกาย จงเป็นผู้มากไปด้วยความเบื่อหน่าย จงเว้นสุภนิมิต อันก่อ ให้เกิด ความกำหนัด จงอบรมจิต ให้มีอารมณ์เป็นหนึ่ง ให้ตั้ง มั่นดีแล้วในอสุภภาวนา จงอบรม วิปัสสนา จงละมานานุสัย แต่นั้นเธอจักเป็นผู้สงบ เพราะการละมานะเที่ยวไป

             ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคตรัสสอนท่านพระราหุล ด้วยพระคาถาเหล่านี้เนืองๆ ด้วยประการฉะนี้แล


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๕๕-๓๕๙
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

วังคีสสูตรที่ ๑๒
พุทธพจน์ตรัสแก้ความสงสัยของพระวังคีสะ

             [๓๒๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่อัคคาฬวเจดีย์ ใกล้เมืองอาฬวีก็สมัยนั้นแล พระเถระ ชื่อ นิโครธกัปปะ เป็นอุปัชฌายะ ของท่านพระวังคีสะปรินิพพานแล้วไม่นาน ที่อัคคาฬวเจดีย์ ครั้งนั้น ท่านพระวังคีสะหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด ได้เกิดความปริวิตก แห่งใจ ขึ้นอย่างนี้ว่า พระอุปัชฌายะของเรา ปรินิพพานแล้วหรือหนอแล หรือว่ายังไม่ปรินิพพาน ครั้นเวลาเย็น ท่านพระวังคีสะออกจากที่หลีกเร้น เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

             ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญขอประทาน วโรกาส ข้าพระองค์ หลีกออกเร้นอยู่ในที่ลับ เกิดความปริวิตกแห่งใจขึ้นอย่างนี้ว่า พระอุปัชฌายะของเรา ปรินิพพานแล้ว หรือหนอแล หรือว่ายังไม่ได้ปรินิพพาน ลำดับนั้น ท่านพระวังคีสะลุกจากอาสนะ กระทำจีวรเฉวียงบ่า ข้างหนึ่ง ประณมอัญชลีไปทาง พระผู้มีพระภาค แล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

             [๓๓๐] ข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทูลถามพระศาสดาผู้มีพระปัญญา ไม่ทราม ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ผู้ทรงเห็นธรรมอันมั่นคง พระองค์ทรงขนานนามแห่งภิกษุ ผู้เป็น พราหมณ์ ผู้ตัดความ สงสัย มีชื่อเสียง มียศ ผู้คุ้มครองตนได้ มุ่งวิมุติ ปรารภ ความเพียร กระทำกาละที่อัคคาฬวเจดีย์ ที่ข้าพระองค์ได้ ประพฤตินอบน้อมท่านอยู่ว่า นิโครธกัปปะ นิพพานแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ผู้ศากยะ มีพระจักษุรอบคอบ

             แม้ ข้าพระองค์ทั้งหมดย่อมปรารถนาเพื่อจะรู้พระสาวกนั้น ข้าพระองค์ ทั้งหลาย ตั้งโสต ไว้ ชอบแล้ว เพื่อจะฟัง พระองค์เป็น พระศาสดาผู้ยอดเยี่ยมของ ข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงโปรด ตรัสความสงสัยของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระองค์ ตรัส บอกความข้อนี้ แก่ข้าพระองค์เถิด

             ข้าแต่พระองค์ผู้มีปัญญา เสมอด้วยแผ่นดิน มีพระจักษุรอบคอบ ขอพระองค์ โปรด ตรัสบอกภิกษุ ผู้เป็นพราหมณ์ผู้ปรินิพพานแล้ว อนึ่ง ขอ พระองค์ตรัสในท่ามกลาง ข้าพระองค์ ทั้งหลาย เหมือนอย่าง ท้าวสหัสสเนตร พระนามว่าสักกะ ย่อมตรัสใน ท่ามกลาง แห่งเทวดาทั้งหลาย ฉะนั้น

             กิเลสเครื่องร้อยรัดเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในโลกนี้ เป็นทางแห่งโมหะ เป็นฝักฝ่าย แห่ง ความไม่รู้ เป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย กิเลสเครื่องร้อยรัดเหล่านั้น มา ถึงพระตถาคต ผู้มีจักษุผู้ยิ่งกว่านระ ทั้งหลายแล้วย่อมไม่มี ก็ ถ้าว่า พระผู้มีพระภาคผู้เป็นบุรุษ จะไม่พึง กำจัดเหล่ากิเลสเสีย โดยส่วนเดียว เหมือนลมไม่พึงกำจัดเมฆไซร้ สัตว์โลก ทั้งหมด ถูกความไม่รู้ปกคลุมแล้ว พึงเป็นโลกมืด เหมือน โลกที่ถูกเมฆปกคลุมแล้ว เป็นโลกมืด ฉะนั้น

             นรชนทั้งหลาย แม้มีความรุ่งเรือง จะไม่พึงเดือดร้อน ส่วนนักปราชญ์ ทั้งหลาย เป็นผู้กระทำ ความรุ่งเรือง ข้าแต่พระองค์ผู้เป็น นักปราชญ์ เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์ ย่อมสำคัญพระองค์ว่า เป็นนักปราชญ์ และว่าผู้กระทำความรุ่งเรือง เหมือนอย่าง นั้นนั่นแล

             ข้าพระองค์ทั้งหลายทราบอยู่ ซึ่งพระผู้มีพระภาค ผู้เห็นแจ่มแจ้ง จึงเข้ามาเฝ้า ขอพระองค์ โปรดตรัสบอก ทรงกระทำให้แจ่มแจ้งซึ่งภิกษุชื่อนิโครธกัปปะ แก่ข้าพระองค์ ทั้งหลายในบริษัทเถิด พระองค์ผู้มีพระดำรัสไพเราะ ขอ จงตรัสถ้อยคำ อันไพเราะเถิด

             ขอพระองค์จงค่อยเปล่งด้วย พระสุรเสียงอันพระองค์ทรงกำหนดดีแล้ว เหมือน หมู่หงส์ ยกคอขึ้นแล้ว ค่อยๆ เปล่งเสียงอันไพเราะ ฉะนั้น

             ข้าพระองค์ทั้งหมดเป็นผู้ปฏิบัติตรง จะคอยฟังพระดำรัส อันไพเราะของ พระองค์ ข้าพระองค์ ขอทูลวิงวอนให้พระองค์ ผู้ละชาติและมรณะได้แล้ว ทรงกำจัดบาป ไม่มีส่วนเหลือ ให้ทรงแสดงธรรม การกระทำความใคร่หามีแก่ปุถุชนทั้งหลายไม่ ส่วนการ กระทำความพิจารณา ย่อมมีแก่พระตถาคต ทั้งหลาย ไวยากรณ์อันสมบูรณ์นี้ เป็นของพระองค์ผู้มีพระปัญญา ผุดขึ้นดี ทรงเรียนดีแล้ว

             ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้มีพระปัญญา ไม่ทราม อัญชลีมีในภายหลังนี้ ข้าพระองค์ ประฌม ดีแล้ว พระองค์ทรงทราบอยู่ซึ่งคติของภิกษุชื่อนิโครธกัปปะ อย่าได้ ทรงทำข้าพระองค์ ให้หลงเลย ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้มีความ เพียรไม่ทราม พระองค์ ทรง รู้แจ้งอริยธรรม อันประเสริฐยิ่ง ทรงทราบอยู่ซึ่งไญยธรรมทั้งปวง อย่าได้ทรงทำ ข้าพระองค์ ให้หลงเลย ข้าพระองค์หวังจะได้สดับ พระดำรัสของพระองค์ อยู่ เหมือน บุรุษ ผู้ร้อนแล้วเพราะ ความร้อนในฤดูร้อน หวังจะ ได้น้ำ ฉะนั้น

             ขอพระองค์จงยังสัททายตนะ คือ สุตะให้ ตกเถิด ภิกษุชื่อนิโครธกัปปะได้ ประพฤติ พรหมจรรย์ ตาม ความปรารถนา พรหมจรรย์อะไรๆ ของท่านไม่เปล่า นิพพาน แล้ว ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุหรือ หรือว่าเป็นผู้พ้น วิเศษแล้วยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ข้าพระองค์ทั้งหลายจะขอ ฟังความข้อนั้น

             พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า

             ภิกษุชื่อนิโครธกัปปะ ได้ตัดตัณหาในนามรูปนี้ ที่เป็นกระแส แห่งกัณหมาร อันนอน เนื่องแล้ว สิ้นกาลนาน เธอได้ ข้ามพ้นชาติและมรณะไม่มีส่วนเหลือ ปรินิพพาน แล้วด้วย อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ พระผู้มีพระภาค ผู้ประเสริฐสุด ด้วยอินทรีย์ ๕ เป็นต้น ได้ตรัส อย่างนี้

             ท่านพระวังคีสะกราบทูลว่า

             ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์นี้ได้ฟังแล้ว ย่อมเลื่อมใส พระดำรัสของ พระองค์ ได้ยินว่า ข้าพระองค์ได้ทูลถามถึง พรหมจรรย์อันไม่เปล่า พระองค์ผู้เป็น พราหมณ์ ไม่ลวงข้า พระองค์ พระสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้มีปรกติกล่าว อย่างใด กระทำ อย่างนั้น ได้ตัดข่ายอันมั่นคงนั้นๆ ของ มัจจุราชผู้มีมายาขาดแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ภิกษุ ชื่อนิโครธกัปปะผู้สมควร ได้เห็นเบื้องต้นแห่งอุปาทาน ได้ล่วงบ่วงมารที่ข้าม ได้แสนยากแล้วหนอ


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์