เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

มงคลสูตรที่ ๔ ว่าด้วยมงคล (มงคล ๓๘ ประการ) สูจิโลมสูตรที่ ๕ สูจิโลมยักษ์ทูลถามปัญหา 2453
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

มงคลสูตรที่ ๔ ว่าด้วยมงคล (๓๘ ประการ)... สาวกภาษิต (แต่งใหม่)
พระสูตรนี้่สาวกน่าแต่งขึ้นมาภายหลัง ผสมผสานกับหลักคำสอนของพระศาสดา แม้จะไม่ขัดแย้ง กับคำสอนของพระองค์ แต่เชื่อว่าพระศาสดาคงไม่ได้กล่าวเป็นข้อๆแบบนี้ คำว่ามงคล ทรงตรัสไว้ กว้างๆ แต่เพียงว่า "สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็น ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี..." สุปุพพัณหสูตร ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ หน้าที่ ๓๓๕-๓๓๖

สูจิโลมสูตรที่ ๕
สูจิโลมยักษ์ทูลถามปัญหา สาวกภาษิต (แต่งใหม่)

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๒-๓๔๔
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

มงคลสูตรที่ ๔
ว่าด้วยมงคล ตรัสกับเทวดา

             [๓๑๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เทวดาตนหนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีอัน งดงาม ยิ่ง ทำพระวิหารเชตวัน ทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึง ที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูล พระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า

             [๓๑๘] เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดีได้พากันคิด มงคล ทั้งหลาย ขอพระองค์ ได้โปรดตรัสอุดมมงคล (๓๘ ประการ)

             พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถาตอบว่า

             การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ ควรบูชา ๑ นี้เป็น อุดมมงคล

             การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้วในกาลก่อน ๑ การ ตั้งตนไว้ชอบ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             พาหุสัจจะ ๑ ศิลป ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ๑ วาจาสุภาษิต ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรภรรยา ๑ การงานอันไม่อากูล ๑ นี้เป็นอุดมมงคลทาน ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะห์ ญาติ ๑ กรรมอันไม่มี โทษ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             การงดเว้นจากบาป ๑ ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา* ๑ ความไม่ประมาท ในธรรมทั้งหลาย ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

* (สำรวมจากการดึ่มน้ำเมา น่าจะแปลไม่ตรงมากกว่า ส่วนใหญ่พระศาสดาจะกล่าวว่า งดเว้น - เว้นขาด -ไม่ )

              ความเคารพ ๑ ความประพฤติถ่อมตน ๑ ความสันโดษ ๑ ความกตัญญู ๑ การฟังธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             ความอดทน ๑ ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑ การได้เห็นสมณะทั้งหลาย ๑ การ สนทนา ธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             ความเพียร ๑ พรหมจรรย์ ๑ การเห็นอริยสัจ ๑ การกระทำนิพพาน ให้แจ้ง ๑ นี้เป็นอุดมมงคล

             จิตของผู้ใดอันโลกธรรม ทั้งหลายถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก ปราศจากธุลี เป็นจิตเกษม นี้เป็นอุดมมงคล

             เทวดา และมนุษย์ทั้งหลายทำมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่ปราชัย ในข้าศึกทุกหมู่ เหล่า ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน นี้เป็นอุดมมงคลของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น


---------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๔-๓๔๕
๒ จูฬวรรค (หมวดว่าด้วยเรื่องเล็กน้อย)

สูจิโลมสูตรที่ ๕
สูจิโลมยักษ์ทูลถามปัญหา

            [๓๑๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่บน (แท่นหิน) เตียงมีแม่แคร่ในที่อยู่ของ สูจิโลม ยักษ์ ใกล้ (เท่า) บ้านคยา ก็สมัยนั้นแล ขรยักษ์ และสูจิโลมยักษ์ เดินผ่านไป ในที่ ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค

            ลำดับนั้น ขรยักษ์ได้กล่าวกะสูจิโลมยักษ์ว่า นั่นสมณะ สูจิโลมยักษ์ ได้กล่าว กะขรยักษ์ว่า นั่นไม่ใช่สมณะ นั่นเป็นสมณะเทียม เราทราบชัดว่าสมณะ หรือ สมณะเทียมเพียงไร

            ลำดับนั้น สูจิโลมยักษ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วน้อมกาย ของตนเข้าไปใกล้ พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงเบนกาย (ของสูจิโลมยักษ์) ออกไป สูจิโลมยักษ์ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ท่านกลัวข้าพเจ้าหรือสมณะ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เราไม่กลัวท่านดอกผู้มีอายุ แต่สัมผัสของท่านลามก

            สู. ดูกรสมณะ ข้าพเจ้าจักถามปัญหากะท่าน ถ้าท่านไม่พยากรณ์ไซร้ ข้าพเจ้า จักควักดวงจิตของท่าน ออกโยนทิ้งเสีย หรือจักฉีกหทัยของท่านเสีย หรือจักจับที่เท้า ทั้งสองแล้วขว้างไป ในแม่น้ำคงคาฝั่งโน้น

            พ. เราไม่เห็นบุคคลในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ ผู้ซึ่งจะควักดวงจิตของเราออกโยนทิ้ง หรือจะฉีกหทัย ของเราเสีย หรือจะจับที่เท้า ทั้งสองแล้วขว้างไปในแม่น้ำคงคาฝั่งโน้น ผู้มีอายุ ก็แลท่าน ปรารถนาจะถามปัญหาข้อใด ก็จงถาม เถิด

            ลำดับนั้นแล สูจิโลมยักษ์ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า

            [๓๒๐] ราคะ และ โทสะ มีอะไรเป็นเหตุเกิด ความไม่ยินดี ความยินดี ขนลุก ขนพอง เกิดแต่อะไร วิตกทั้งหลายเกิดแต่อะไร แล้วจึงปล่อยลงไปหาใจ ที่เป็นกุศล เหมือนพวก เด็กน้อยเอา ด้ายผูกตีนกาแล้วปล่อยลงไป ฉะนั้น

            พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า

            ราคะ และ โทสะ มีอัตภาพเป็นเหตุเกิด ความไม่ยินดี ความยินดี ขนลุกขนพอง เกิดแต่อัตภาพนี้ วิตกทั้งหลายเกิดแต่อัตภาพนี้ แล้วปล่อยลงไปหาใจที่เป็นกุศล เหมือนพวกเด็ก น้อยเอาด้าย ผูกตีนกา แล้วปล่อยลงไป ฉะนั้นกิเลสทั้งหลาย มีราคะ เป็นต้น เกิดแต่ความเยื่อใย เกิดในตน เหมือน ย่านไทรเกิดแต่ต้นไทร ฉะนั้น

            กิเลสเป็นอันมาก ซ่านไป แล้วในกามทั้งหลาย เหมือนเถาย่านทราย รึงรัด ไปแล้ว ในป่า สัตว์เหล่าใด ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่กิเลสนั้นว่ามีกิเลสใดเป็นเหตุ สัตว์เหล่านั้น ย่อมบรรเทา ซึ่งหมู่กิเลสนั้นได้ ท่านจงฟังเถิด ยักษ์ สัตว์เหล่าใด ย่อมบรรเทา ซึ่งหมู่กิเลสได้ สัตว์เหล่านั้น ย่อมข้ามพ้นซึ่งโอฆะ อันข้ามได้โดยยาก ที่ยังไม่เคย ข้ามแล้ว เพื่อความ ไม่เกิดอีก

พระสูตรเดียวกันกับ พระไตรปิฎก ฉบับที่ ๑๕
สูจิโลมสูตรที่ ๓ (ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๗- ๒๘๘)

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์