เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

สัมปันนสูตร ผู้มีศีลสมบูรณ์แล้วมีกิจอะไรต้องทำยิ่งขึ้นไปอีก โลกสูตร เหตุใดจึงถูกเรียกว่าพระตถาคต 2442
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

๑๒. สัมปันนสูตร ผู้มีศีลสมบูรณ์
เมื่อเธอผู้มีศีลสมบูรณ์ สำรวมแล้วด้วยปาติโมขสังวรแล้ว มีกิจอะไรต้องทำยิ่งขึ้นไปอีก...
- ละอภิชฌา พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา
- ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ตั้งสติไว้มั่น ไม่หลงลืม
- ภิกษุแม้ผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่ เป็นผู้มีความเพียรมีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร
- ภิกษุพิจารณาโดยชอบ ซึ่งความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่งขันธ์

๑๓. โลกสูตร ว่าด้วยโลก
เหตุใดพระองค์จึงได้สมญานามว่าพระตถาคต
-พระตถาคตตรัสรู้โลกแล้ว ตรัสรู้เหตุเกิดโลกแล้ว ..บัณฑิต จึงกล่าวว่าพระตถาคต
-พระตถาคตย่อมตรัสรู้ อนุตตรสัมมา สัมโพธิญาณ..บัณฑิต จึงกล่าวว่าพระตถาคต
-พระตถาคตตรัสอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใดตรัสอย่างนั้น...บัณฑิตจึงกล่าวว่าพระตถาคต
-พระตถาคตทรงครอบงำโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก...บัณฑิตจึงกล่าวว่า พระตถาคต

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๗-๒๙๘

๑๒. สัมปันนสูตร
ผู้มีศีลสมบูรณ์

 

            [๒๙๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์ สมบูรณ์ สำรวมแล้วด้วยปาติโมขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระ และโคจร มีปรกติเห็นภัย ในโทษมีประมาณน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลายเถิด

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลายมีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์ สำรวม แล้ว ด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษอันมี ประมาณน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย จะมีกิจอะไรที่เธอทั้งหลาย พึงกระทำให้ยิ่งขึ้นไป

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้ อภิชฌา พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ ของ ภิกษุ ผู้เที่ยวไปอยู่ เป็นธรรมชาติปราศไปแล้ว อันภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่ ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ตั้งสติไว้มั่น ไม่หลงลืม กายระงับแล้ว ไม่ระส่ำระส่าย ตั้งจิตมั่น มีอารมณ์อันเดียว ภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่อย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้มี ความเพียร มีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้อภิชฌาพยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ ของ ภิกษุผู้ยืนอยู่ เป็นธรรมชาติปราศไปแล้ว...ถ้าแม้อภิชฌา พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ ของภิกษุผู้นั่งอยู่เป็นธรรมชาติปราศไปแล้ว ... ถ้าแม้อภิชฌา พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะของภิกษุผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่ เป็นธรรมชาติปราศไปแล้ว อันภิกษุผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ปรารภความเพียร ไม่ย่อหย่อน ตั้งสติไว้มั่น ไม่หลงลืมกายระงับแล้ว ไม่ระส่ำระสาย ตั้งจิตไว้มั่น มีอารมณ์อันเดียว

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุแม้ผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่เป็นอยู่แล้วอย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้มีความเพียรมีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            ภิกษุเพียรอยู่ พึงเดิน ยืน นั่ง นอน คู้เข้าเหยียดออก ซึ่งอวัยวะมีมือและเท้า เป็นต้นนี้ อนึ่งภิกษุพิจารณาโดยชอบ ซึ่งความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปแห่ง ธรรมขันธ์ ในเบื้องบน เบื้องขวาง เบื้องต่ำ จนตลอดภูมิเป็นที่ไปแห่งสัตว์ผู้สัญจร ไปบนแผ่นดิน พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าวภิกษุผู้มีปรกติอยู่อย่างนั้น มีความเพียร มีความ ประพฤติสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน มีญาณทัศนวิสุทธิสมควรแก่ธรรม เป็นเครื่องสงบใจ ศึกษาอยู่ มีสติทุกเมื่ออย่างนั้นว่า เป็นผู้ มีใจเด็ดเดี่ยวตลอดกาล เป็นนิตย์


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๘-๓๐๐

๑๓. โลกสูตร
ว่าด้วยโลก

            [๒๙๓] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคตตรัสรู้โลกแล้ว พรากแล้วจากโลก ตรัสรู้เหตุเกิด โลกแล้ว ละเหตุเกิดโลก ได้แล้ว ตรัสรู้ความดับแห่งโลกแล้ว ทำให้แจ้งความดับโลก แล้ว ตรัสรู้ปฏิปทาเครื่อง ให้ถึงความดับแห่งโลกแล้ว เจริญปฏิปทาเครื่องให้ถึง ความ ดับ แห่งโลกแล้ว

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่โลกพร้อมทั้งเทวโลกมารโลก พรหมโลก ที่หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์เห็นแล้ว ฟังแล้ว ทราบแล้ว รู้แจ้งแล้ว ถึงแล้ว แสวงหาแล้ว ใคร่ครวญแล้วด้วยใจ เพราะสิ่งนั้นพระตถาคต ตรัสรู้แล้ว ฉะนั้น บัณฑิต จึงกล่าวว่าพระตถาคต

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคตย่อมตรัสรู้ อนุตตรสัมมา สัมโพธิญาณ ในราตรีใดและย่อมปรินิพพาน ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในราตรีใด ย่อมตรัสบอก แสดง ซึ่งพุทธพจน์ อันใดในระหว่างนี้ พุทธพจน์นั้นทั้งหมด ย่อมเป็นอย่างนั้น นั่นแล ไม่เป็นอย่างอื่น ฉะนั้น บัณฑิตจึงกล่าวว่า พระตถาคต

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคต ตรัสอย่างใด ทำอย่างนั้น ทำอย่างใด ตรัสอย่างนั้น เพราะเหตุดังนั้น บัณฑิตจึงกล่าวว่า พระตถาคต

            
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคตทรงครอบงำโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์ พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ อันใครๆ ครอบงำไม่ได้ ทรงเห็นโดยถ่องแท้ ยังอำนาจให้เป็นไปเพราะเหตุนั้น บัณฑิตจึงกล่าวว่า พระตถาคต

            พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา ประพันธ์ดังนี้ว่า พระพุทธเจ้าทรงรู้โลกทั้งหมดในโลกทั้งปวงด้วยพระปัญญา อันยิ่ง ตามความเป็นจริง ทรงพรากแล้วจากโลกทั้งหมด ไม่มี ผู้เปรียบในโลกทั้งปวง เป็นนักปราชญ์ ทรงครอบงำมาร ทั้งหมด สังขารทั้งหมด ทรงปลดเปลื้องกิเลส เครื่องร้อยรัดได้ ทั้งหมด ความสงบอย่างยวดยิ่ง คือ นิพพาน ซึ่งไม่มีภัยแต่ ไหนๆ พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ทรงถูกต้องแล้ว พระพุทธเจ้า พระองค์นี้ทรงมีอาสวะสิ้นแล้ว ไม่ทรงมีทุกข์ ทรงตัดความ สงสัยได้แล้ว ทรงถึงความสิ้นไปแห่งกรรมทั้งหมด ทรง น้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอุปธิ

            พระผู้มีพระภาค พระองค์นั้น ชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคพระองค์ นั้น ชื่อว่าเป็นสีหะผู้ยอดเยี่ยม ทรงประกาศพรหมจักรแก่ โลกพร้อมทั้งเทวโลก เพราะ เหตุดังนั้น เทวดาและมนุษย์ ทั้งหลายผู้ถึงพระพุทธเจ้าว่า เป็นสรณะย่อมมาประชุม กันน้อม นมัสการพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระคุณใหญ่ ผู้ปราศจาก ความครั่นคร้าม บรรดาบุคคลผู้ฝึกหัดอยู่ พระพุทธเจ้าผู้ทรง ฝึกแล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด บรรดาบุคคล ผู้สงบอยู่ พระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณ ผู้สงบแล้ว เป็นผู้ประเสริฐสุด บรรดาบุคคลผู้พ้นอยู่

            พระพุทธเจ้าผู้ทรงพ้นแล้วเป็นผู้เลิศ บรรดาบุคคลผู้ข้ามอยู่ พระพุทธเจ้าผู้ทรง ข้ามพ้นแล้ว เป็นผู้ ประเสริฐ เพราะเหตุนั้นแล เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อม นอบน้อม พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ผู้มีพระคุณใหญ่ ผู้ปราศจาก ความครั่นคร้ามด้วยคิดว่า บุคคล ผู้เปรียบด้วยพระองค์ย่อม ไม่มีในโลกพร้อมทั้งเทวโลก

            เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์