เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

กุหนาสูตร ภิกษุประกอบด้วยกิเลสเป็นผู้ไม่นับถือเรา ปุริสสูตร เหมือนบุรุษถูกปิยรูป-สาตรูป จรสูตร 2441
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

๙. กุหนาสูตร ภิกษุผู้หลอกลวง
ภิกษุเป็นผู้หลอกลวง มีใจกระด้าง ประจบประแจง ประกอบด้วยกิเลส...
  - ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้ไม่นับถือเรา
  - ภิกษุเหล่านั้นปราศไปแล้วจากธรรมวินัยนี้
  - ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่งอกงามในธรรมของพระพุทธเจ้า

๑๐. ปุริสสูตร
เปรียบเหมือนบุรุษ พึงถูกกระแสแห่งแม่น้ำคือ ปิยรูป และ สาตรูป พัดไป บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ฝั่ง เห็นบุรุษนั้นแล้ว พึงกล่าวอย่างนี้ว่า แน่ะบุรุษผู้เจริญ ท่านถูกกระแสแห่งแม่น้ำ คือ ปิยรูป และ สาตรูป พัดไปแม้โดยแท้ แต่ท่านถึงห้วงน้ำที่มีอยู่ภายใต้แห่งแม่น้ำนี้ ซึ่งมีคลื่น มีความวนเวียน มีสัตว์ร้าย มีผีเสื้อน้ำ ย่อมเข้าถึงความตายหรือความทุกข์ปางตาย

๑๑. จรสูตร
หากว่าภิกษุรับ กามวิตก พยาบาทวิตก หรือ วิหิงสาวิตก นั้นไว้ ไม่ละเสีย ไม่บรรเทาเสีย ไม่ทำให้สิ้นสุดเสีย ภิกษุแม้เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่แล้วอย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้ไม่มีความเพียร

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๔-๒๙๕

๙. กุหนาสูตร
ภิกษุผู้หลอกลวง

            [๒๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้หลอกลวง มีใจ กระด้าง ประจบประแจง ประกอบด้วยกิเลส อันปรากฏดุจเขา มีกิเลสดุจไม้อ้อสูงขึ้น มีใจไม่ตั้งมั่น ภิกษุเหล่านั้นเป็นผู้ไม่นับถือเรา ภิกษุเหล่านั้นปราศไปแล้ว จากธรรมวินัยนี้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนภิกษุเหล่าใด เป็นผู้ไม่หลอกลวง ไม่ประจบประแจง เป็นนักปราชญ์ มีใจ ไม่กระด้าง มีใจตั้งมั่นดี ภิกษุเหล่านั้นแลเป็นผู้นับถือเรา ไม่ปราศ ไปแล้วจากธรรม วินัยนี้ และย่อมถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ ในธรรมวินัยนี้

            ภิกษุเหล่าใด เป็นผู้หลอกลวง มีใจกระด้าง ประจบประแจง ประกอบด้วยกิเลส อันปรากฏดุจเขา มีกิเลสดุจไม้อ้อสูงขึ้น มีใจไม่ตั้งมั่น ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่งอกงาม ในธรรมอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว

            ภิกษุเหล่าใด เป็นผู้ไม่หลอกลวง ไม่ประจบประแจง เป็นนักปราชญ์ มีใจไม่ กระด้าง มีใจตั้งมั่นดี ภิกษุเหล่านั้นแล ย่อมงอกงามในธรรม อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงแล้ว


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๕-๒๙๖

๑๐. ปุริสสูตร
กิเลสเปรียบด้วยกระแสน้ำ

            [๒๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษ พึงถูกกระแสแห่งแม่น้ำคือ ปิยรูป* และ สาตรูป* พัดไป บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ฝั่งเห็นบุรุษนั้นแล้ว พึงกล่าวอย่างนี้ว่า แน่ะบุรุษผู้เจริญ ท่านถูกกระแสแห่งแม่น้ำ คือ ปิยรูป และ สาตรูป พัดไปแม้โดยแท้ แต่ท่านถึงห้วงน้ำที่มีอยู่ภายใต้แห่งแม่น้ำนี้ซึ่งมีคลื่น มีความวนเวียนมีสัตว์ร้าย มีผีเสื้อน้ำ ย่อมเข้าถึงความตายหรือความทุกข์ปางตาย ลำดับนั้นแลบุรุษนั้น ได้ฟังเสียง ของบุรุษนั้นแล้ว พึงพยายามว่ายทวนกระแสน้ำด้วยมือทั้ง ๒และด้วยเท้าทั้ง ๒             ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราแสดงข้ออุปมานี้แล เพื่อจะให้รู้แจ่มแจ้งซึ่งเนื้อความ ก็ในอุปมานี้มีเนื้อความดังต่อไปนี้

*ปิยรูป (สิ่งอันเป็นที่รัก) สาตรูป (สิ่งอันเป็นที่ยินดี) ที่เกิดจากอายตนะภายใน๖ ภายนอก ๖

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย
คำว่า กระแสแห่งแม่น้ำนี้แล เป็นชื่อแห่งตัณหา
คำว่า ปิยรูปและสาตรูป เป็นชื่ออายตนะภายใน ๖
คำว่า ห้วงน้ำในภายใต้ เป็นชื่อแห่ง โอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕
คำว่า มีคลื่น เป็นชื่อแห่งความโกรธและความแค้นใจ
คำว่า มีความวนเวียนเป็นชื่อแห่งกามคุณ ๕
คำว่า มีสัตว์ร้าย มีผีเสื้อน้ำ เป็นชื่อของมาตุคาม
คำว่าทวนกระแสน้ำ เป็นชื่อของเนกขัมมะ
คำว่า พยายามด้วยมือทั้งสองและ ด้วยเท้า ทั้งสอง เป็นชื่อแห่งการปรารภความเพียร คำว่า บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ฝั่ง เป็นชื่อของ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

            ภิกษุพึงละกามทั้งหลายแม้กับด้วยทุกข์ เมื่อปรารถนาซึ่งความ เกษมจากโยคะ ต่อไป พึงเป็นผู้มีสัมปชัญญะ มีจิตหลุดพ้น แล้วด้วยดี ถูกต้องวิมุตติในกาลเป็นที่บรรลุ มรรคและผลนั้น ภิกษุนั้นผู้ถึงเวท อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ถึงที่สุดแห่งโลก เรากล่าวว่า เป็นผู้ถึงฝั่งแล้ว


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๖-๒๙๗

๑๑. จรสูตร
ว่าด้วยอิริยาบถเดิน

            [๒๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่ หากว่าภิกษุย่อมรับกามวิตก พยาบาทวิตก หรือ วิหิงสาวิตกนั้นไว้ ไม่ละเสีย ไม่บรรเทาเสีย ไม่ทำให้สิ้นสุดเสีย ไม่ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่แล้วอย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้ไม่มีความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เกียจคร้าน มีความเพียรเลว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้น แก่ ภิกษุผู้ยืนอยู่ ... ผู้นั่งอยู่ ... ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่

            หากว่าภิกษุย่อมรับกามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกนั้นไว้ ไม่ละเสีย ไม่บรรเทาเสีย ไม่กระทำให้สิ้นสุดเสีย ไม่ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้นอนอยู่ ตื่นอยู่ เป็นอยู่แล้วอย่างนี้ เรากล่าวว่าเป็นผู้ไม่มีความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เกียจคร้าน มีความเพียรอันเลว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            [๒๙๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้เที่ยวไปอยู่ หากว่าภิกษุย่อมไม่รับกามวิตก พยาบาทวิตก หรือ วิหิงสาวิตกนั้นไว้ ละเสีย บรรเทาเสีย ทำให้สิ้นสุดเสีย ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้ เที่ยวไปอยู่เป็นอยู่อย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            ถ้าแม้กามวิตกพยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ยืนอยู่ ... ผู้นั่งอยู่ ... ถ้าแม้กามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้นอนอยู่ ตื่นอยู่หากว่าภิกษุย่อมไม่รับกามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกนั้นไว้ ละเสีย บรรเทาเสีย ทำให้สิ้นสุดเสีย ให้ถึงความไม่มีไซร้ ภิกษุแม้นอนอยู่ ตื่นอยู่เป็นอยู่แล้ว อย่างนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้มีความเพียร มีโอตตัปปะ ปรารภความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ตลอดกาลเป็นนิตย์

            ภิกษุใดเที่ยวไปอยู่ ยืนอยู่ นั่งอยู่ หรือนอนอยู่ ย่อมตรึก ถึงวิตกอันลามก อันอาศัยแล้วซึ่งเรือนไซร้ ภิกษุนั้นชื่อว่า ดำเนินไปตามทางผิด หมกมุ่นอยู่ในอารมณ์ อันเป็นที่ตั้งแห่ง ความหลง ภิกษุเช่นนั้น เป็นผู้ไม่ควรเพื่อจะถูกต้องซึ่ง สัมโพธิญาณ อันสูงสุด ภิกษุใดเที่ยวไปอยู่ ยืนอยู่ นั่งอยู่ หรือนอนอยู่ สงบระงับวิตกได้แล้ว ยินดี ในธรรมเป็นที่ สงบวิตก ภิกษุเช่นนั้น เป็นผู้ควรเพื่อจะถูกต้องซึ่งสัมโพธิ ญาณอันสูงสุด

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์