เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

วิตักกสูตร เขมวิตก-วิเวกวิตก, เทศนาสูตร จงเห็นบาปโดยความเป็นบาป, วิชชาสูตร อวิชชาเป็นหัวหน้าแห่งอกุศล 2421
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

๑. วิตักกสูตร ว่าด้วยวิตก
วิตก ๒ ประการ คือ เขมวิตก และ วิเวกวิตก ของพระตถาคต ย่อมเป็นไป เนืองๆ... พระตถาคต มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน วิตกนี้นั่นแล ของพระตถาคต ... พระตถาคต มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด วิตกนี้นั่นแล ของพระตถาคตนี้

๒. เทศนาสูตร ว่าด้วยธรรมเทศนา
ธรรมเทศนา ๒ ประการ ของพระตถาคต ย่อมมีโดยปริยาย(นัยยะ)
- ธรรมเทศนาประการที่ ๑ นี้ว่า เธอทั้งหลาย จงเห็นบาป โดยความเป็นบาป
- ธรรมเทศนาประการที่ ๒ ครั้นเห็นบาปโดยความเป็นบาปแล้ว จงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด จงปลดเปลื้องในบาปนั้น

๓. วิชชาสูตร ว่าด้วยวิชชา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
- อวิชชา เป็นหัวหน้าแห่งอกุศลธรรม
- อหิริกะ อโนตตัปปะ เป็นไปตาม
ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกนี้และในโลกหน้า ทั้งหมด มี อวิชชา เป็นมูล เพราะเหตุนั้น ภิกษุสำรอก ฉันทะ โลภะ และอวิชชา ได้ ให้วิชชาบังเกิดขึ้นอยู่ พึงละทุคติ ทั้งปวง เสียได้

๔. ปัญญาสูตร สัตว์ผู้เสื่อม-ไม่เสื่อม จากปัญญา
ผู้เสื่อมจาก อริยปัญญา ชื่อว่าเสื่อมสุด ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน มีความคับแค้น มีความเร่าร้อน ในปัจจุบันทีเดียว เมื่อตายไปแล้ว พึงหวังได้ทุคติ
ผู้ไม่เสื่อมจาก อริยปัญญา ชื่อว่าไม่เสื่อม ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีความคับแค้น ไม่มีความเร่าร้อนในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวังได้สุคติ

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๕-๒๒๖

๑. วิตักกสูตร
ว่าด้วยวิตก

           [๒๑๖] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิตก ๒ ประการ คือ เขมวิตก ๑ วิเวกวิตก ๑ ของพระตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นไปเนืองๆ

เขมวิตก หมายถึงความตรึกที่ประกอบด้วยเมตตา กรุณา และมุทิตา หรือหมายถึ งอพยาบาทวิตก และ อวิหิงสาวิตก วิเวกวิตก หมายถึงความตรึกที่ประกอบด้วยผลสมาบัติ หรือความตรึกที่ประกอบด้วยวิเวก ๓ ประการ คือ กายวิเวก จิตตวิเวก อุปธิวิเวก (ฉบับมหาจุฬา)

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคต มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้ว ในความไม่เบียดเบียน วิตกนี้นั่นแล ของพระตถาคตนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มา ยินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่าเราจะไม่เบียดเบียนสัตว์ อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคงให้ลำบากด้วยการกระทำนี้

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระตถาคตผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด วิตกนี้นั่นแล ของพระตถาคตนี้ ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่า อกุศลเราละได้แล้ว

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล แม้เธอทั้งหลาย ก็จงเป็นผู้มีความไม่ เบียดเบียน เป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียนอยู่เถิด วิตกนี้นั่นแลของเธอ ทั้งหลายนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน จักเป็นไปเนืองๆ ว่า เราทั้งหลายจะไม่เบียดเบียนสัตว์อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคง ให้ลำบากด้วยการกระทำนี้

           ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้ว ในความสงัดอยู่เถิด วิตกนี้นั่นแลของเธอทั้งหลายนั้น ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด จักเป็นไปเนืองๆ ว่า อะไรชื่อว่าอกุศล อกุศลอะไรๆ ที่เราทั้งหลายยังละไม่ได้แล้ว เราทั้งหลายจะละอกุศลอะไร

           พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา ประพันธ์ดังนี้ว่า

           วิตก ๒ ประการของพระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้า ผู้ครอบงำ มารอันผู้อื่น ไม่พึงครอบงำได้ ย่อมเป็นไปเนืองๆ พระ ตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้านั้น ได้แสดง เขมวิตกข้อที่ ๑ ลำดับ นั้นได้ประกาศวิเวกวิตกข้อที่ ๒ เรากล่าวมุนีผู้บรรเทาความ มืด ผู้ถึงฝั่ง ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง ผู้ถึงคุณอันพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพึงถึง ผู้มีความชำนาญ ผู้ไม่มี อาสวะ ผู้ข้ามวัฏฏทุกข์อันเป็นยาพิษ ผู้น้อมไปแล้วในธรรมเป็น ที่สิ้นตัณหา ผู้ทรงไว้ซึ่งร่างกายอันมีในที่สุดนั้นแลว่า ผู้ละมาร ผู้ถึงฝั่งแห่งชรา

           พระผู้มีพระภาคผู้มีปัญญาดี มีพระจักษุรอบ คอบ ผู้ปราศจากความโศก ขึ้นสู่ ปราสาทอันสำเร็จด้วย (ปัญญา) ธรรม ย่อมพิจารณาเห็นหมู่ชนผู้ยังข้ามความโศกไม่ ได้ ผู้ถูกชาติและชราครอบงำ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีจักษุ ยืนอยู่บนยอดภูเขาหิน พึงเห็น หมู่ชนได้โดยรอบฉะนั้น

           เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๖-๒๒๗

๒. เทศนาสูตร
ว่าด้วยธรรมเทศนา

           [๒๑๗] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนา ๒ ประการ ของพระตถาคต อรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ย่อมมีโดยปริยาย(นัยยะ) ๒ ประการเป็นไฉน คือ
- ธรรมเทศนาประการที่ ๑ นี้ว่า เธอทั้งหลาย จงเห็นบาป โดยความเป็นบาป
- ธรรมเทศนาประการที่ ๒ แม้นี้ว่า เธอทั้งหลายครั้นเห็นบาปโดยความเป็นบาป แล้ว จงเบื่อหน่าย จงคลายกำหนัด จงปลดเปลื้องในบาปนั้น
            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเทศนา ๒ ประการนี้ ของพระตถาคตอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ย่อมมีโดยปริยาย

           พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสคาถา ประพันธ์ดังนี้ว่า

           เธอจงเห็นการแสดงโดยปริยายของพระตถาคตพระพุทธเจ้า ผู้อนุเคราะห์สัตว์ ทุกหมู่เหล่า ก็ธรรม ๒ ประการ พระตถาคต พระพุทธเจ้า ผู้อนุเคราะห์สัตว์ทุกหมู่เหล่า ประกาศแล้ว เธอ ทั้งหลายผู้ฉลาดจงเห็นบาป จงคลายกำหนัดในบาปนั้น เธอ ทั้งหลาย ผู้มีจิตคลายกำหนัดจากบาปนั้นแล้ว จักกระทำที่สุด แห่งทุกข์ได้

           เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๗-๒๒๘

๓. วิชชาสูตร
ว่าด้วยวิชชา

           [๒๑๘] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย
- อวิชชา เป็นหัวหน้าแห่งอกุศลธรรม
- อหิริกะ อโนตตัปปะ เป็นไปตาม

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนวิชชาแลเป็นหัวหน้าแห่งการถึงพร้อม แห่งกุศลธรรมหิริ และโอตตัปปะเป็นไปตาม

           พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้นพระผู้มีพระภาค ตรัสคาถา ประพันธ์ดังนี้ว่า

           ทุคติอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกนี้และในโลกหน้า ทั้งหมด มี อวิชชา เป็นมูล อันความปรารถนาและความโลภก่อขึ้น ก็ เพราะเหตุที่บุคคลเป็นผู้มีความปรารถนาลามก ไม่มีหิริ ไม่ เอื้อเฟื้อ ฉะนั้นจึงย่อมประสบบาปต้องไปสู่อบายเพราะบาป นั้น เพราะเหตุนั้น ภิกษุสำรอก ฉันทะ โลภะ และอวิชชา ได้ ให้วิชชาบังเกิดขึ้นอยู่ พึงละทุคติ ทั้งปวง เสียได้

           เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๘-๒๒๙

๔. ปัญญาสูตร
สัตว์ที่เสื่อมจากปัญญา

           [๒๑๙] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาค ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้เสื่อมจาก อริยปัญญา ชื่อว่าเสื่อมสุด สัตว์เหล่านั้น ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน มีความคับแค้น มีความเร่าร้อน ในปัจจุบัน ทีเดียว เมื่อตายไปแล้ว พึงหวังได้ทุคติ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายผู้ไม่เสื่อมจาก อริยปัญญา ชื่อว่าไม่เสื่อม สัตว์เหล่านั้น ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่มีความเดือดร้อน ไม่มีความคับแค้น ไม่มีความ เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียวแล เมื่อตายไป พึงหวังได้สุคติ

           พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสคาถา ประพันธ์ดังนี้ว่า

           จงดูโลกพร้อมด้วยเทวโลก ผู้ตั้งมั่นลงแล้วในนามรูป เพราะ ความเสื่อมไปจาก ปัญญา โลกพร้อมด้วยเทวโลกย่อมสำคัญ ว่า นามรูปนี้เป็นของจริง ปัญญาอันให้ถึง ความชำแรกกิเลส นี้แล ประเสริฐที่สุดในโลก ด้วยว่าปัญญานั้นย่อมรู้ชัดโดยชอบ ซึ่งความสิ้นไปแห่งชาติ และภพ เทวดาและมนุษย์ ทั้งหลาย ย่อมรักใคร่ต่อพระสัมมา สัมพุทธเจ้าเหล่านั้น ผู้มี สติ มีปัญญาร่าเริง ผู้ทรงไว้ซึ่งสรีระอันมีในที่สุด

           เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์