เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

(พุทธอุทาน) สุนทรีสูตรมนุษย์ในนครสาวัตถี เห็นสมณศากยบุตรแล้ว ย่อมด่าบริภาษ ด้วยวาจาหยาบคาย 2402
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

๘. สุนทรีสูตร (พุทธอุทาน)
ก็สมัยนั้นแล มนุษย์ทั้งหลายในพระนครสาวัตถี เห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว ย่อมด่า ย่อมบริภาษ สมณศากยบุตร ด้วยวาจาอันหยาบคาย

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสียงนั่นจักมีอยู่ไม่นาน จักมีอยู่ ๗ วันเท่านั้น ล่วง ๗ วันไปแล้วก็จักหายไป...ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า ชนทั้งหลาย ผู้ไม่สำรวมแล้ว ย่อมทิ่มแทงชนเหล่าอื่นด้วยวาจา เหมือน เหล่าทหารที่เป็นข้าศึกทิ่มแทงกุญชร ผู้เข้าสงครามด้วย ลูกศรฉะนั้น ภิกษุผู้มีจิตไม่ ประทุษร้าย ฟังคำอันหยาบคาย ที่ชนทั้งหลาย เปล่งขึ้นแล้ว พึงอดกลั้น

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๙-๑๒๒

๘. สุนทรีสูตร

             [๑๐๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเป็นผู้ที่มหาชนสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ทรงได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะและคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร แม้ภิกษุสงฆ์ก็เป็นผู้ที่มหาชนสักการะเคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ส่วนพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก เป็นพวกที่ มหาชน ไม่สักการะเคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและ คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร

             [๑๐๓] ครั้งนั้นแล พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก อดกลั้นสักการะของ พระผู้มีพระภาค และสักการะของภิกษุสงฆ์ไม่ได้ เข้าไปหานางสุนทรีปริพาชิกาถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะนางสุนทรีปริพาชิกาว่า ดูกรน้องหญิง เธอสามารถ เพื่อจะทำ ประโยชน์ แก่ญาติทั้งหลายได้หรือ นางสุนทรีปริพาชิกาถามว่า ดิฉันจะทำอะไร พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันสามารถเพื่อจะทำอะไร แม้ชีวิตดิฉันก็สละ เพื่อประโยชน์ แก่ญาติทั้งหลายได้

             อัญ. ดูกรน้องหญิง ถ้าเช่นนั้นเธอจงไปสู่พระวิหารเชตวันเนืองๆ เถิด

             นางสุนทรีปริพาชิกา รับคำของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น แล้วได้ไป ยังพระวิหารเชตวันเนืองๆ เมื่อใด พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นได้ทราบว่า นางสุนทรีปริพาชิกาคนเห็นกันมามากว่า ไปยังพระวิหารเชตวันเนืองๆเมื่อนั้น ได้จ้างพวกนักเลงให้ปลงชีวิตนางสุนทรีปริพาชิกานั้นเสีย แล้วหมกไว้ในคูรอบ พระวิหารเชตวันนั้นเอง แล้วพากันเข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้กราบทูลว่า ขอถวายพระพร นางสุนทรีปริพาชิกาอาตมภาพทั้งหลาย มิได้เห็น พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสถามว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายสงสัยในที่ไหนเล่า

             อัญ. ในพระวิหารเชตวัน ขอถวายพระพร

             ป. ถ้าอย่างนั้น พระคุณเจ้าทั้งหลายจงค้นพระวิหารเชตวัน

             ครั้งนั้น พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น ค้นทั่วพระวิหารเชตวัน แล้วขุดศพ นางสุนทรีปริพาชิกาตามที่ตนสั่งให้หมกไว้ขึ้นจากคู ยกขึ้นสู่เตียงแล้วให้นำไปสู่พระนคร สาวัตถี เดินทางจากถนนนี้ไปถนนโน้น จากตรอกนี้ไปตรอกโน้น แล้วให้พวกมนุษย์ โพนทะนาว่า เชิญดูกรรมของเหล่าสมณศากยบุตรเถิดนาย

             สมณศากยบุตรเหล่านี้ไม่มี ความละอาย ทุศีล มีธรรมเลวทราม พูดเท็จ ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ก็สมณศากยบุตร เหล่านี้ถึงจักปฏิญาณว่า เป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสม่ำเสมอประพฤติพรหมจรรย์ พูดจริง มีศีล มีธรรมอันงาม

ความเป็นสมณะของสมณศากยบุตรเหล่านี้ หามีไม่
ความเป็นพรหมของสมณศากยบุตรเหล่านี้ หามีไม่
ความเป็นสมณะของสมณศากยบุตรเหล่านี้ ฉิบหายเสียแล้ว
ความเป็นพรหมของสมณศากยบุตรเหล่านี้ ฉิบหายเสียแล้ว
ความเป็นสมณะของสมณศากยบุตรเหล่านี้ จักมีแต่ไหน
ความเป็นพรหมของสมณศากยบุตรเหล่าน ี้จักมีแต่ไหน

สมณศากยบุตรเหล่านี้ปราศจากความเป็นสมณะ สมณศากยบุตรเหล่านี้ปราศจากความเป็นพรหม
ก็ไฉนเล่า บุรุษกระทำกิจของบุรุษแล้วจักปลงชีวิตหญิงเสีย

             [๑๐๔] ก็สมัยนั้นแล มนุษย์ทั้งหลายในพระนครสาวัตถี เห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว ย่อมด่า ย่อมบริภาษ ขึ้งเคียดเบียดเบียน ด้วยวาจาอันหยาบคายมิใช่ของสัตบุรุษว่า สมณศากยบุตรเหล่านี้ไม่มีความละอาย ... ก็ไฉนเล่า บุรุษกระทำกิจของบุรุษแล้ว จะปลงชีวิตหญิงเสีย

             [๑๐๕] ครั้งนั้นแล เวลาเช้า ภิกษุมากรูปด้วยกันครองผ้าอันตรวาสก ถือบาตร และจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถี ครั้นกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัตแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่งอยู่ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ มนุษย์ทั้งหลาย ในพระนครสาวัตถี เห็นภิกษุทั้งหลายแล้วย่อมด่า ...ก็ไฉนเล่า บุรุษกระทำกิจ ของบุรุษแล้ว จักปลงชีวิตหญิงเสีย พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสียงนั่นจักมีอยู่ไม่นาน จักมีอยู่ ๗ วันเท่านั้น ล่วง ๗ วันไปแล้วก็จักหายไป

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น ท่านทั้งหลายจงโต้ตอบมนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่เห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว ด่า บริภาษ ขึ้งเคียด เบียดเบียนด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษด้วยคาถานี้ว่า

             คนที่พูดไม่จริง หรือคนที่ทำบาปกรรมแล้วพูดว่า มิได้ทำ ย่อมเข้าถึงนรก คนแม้ทั้งสองพวกนั้น มีกรรมเลวทราม ละไปแล้ว ย่อมเป็นผู้เสมอกันในโลกหน้า

             [๑๐๖] ลำดับนั้นแล ภิกษุเหล่านั้นเล่าเรียนคาถานี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคแล้ว ย่อมโต้ตอบพวกมนุษย์ ผู้ที่เห็นภิกษุทั้งหลายแล้วด่า บริภาษ ขึ้งเคียดเบียดเบียนด้วยวาจาอันหยาบคาย มิใช่ของสัตบุรุษ ด้วยคาถานี้ว่า คนที่พูดไม่จริง หรือคนที่กระทำบาปกรรม แล้วพูดว่า มิได้ ทำ ย่อมเข้าถึงนรก คนแม้ทั้งสองพวกนั้นมีกรรมเลวทราม ละไปแล้ว ย่อมเป็น ผู้เสมอกันในโลกหน้า

             [๑๐๗] มนุษย์ทั้งหลายพากันดำริว่า สมณศากยบุตรเหล่านี้ไม่ได้ทำความผิด สมณศากยบุตรเหล่านี้ไม่ได้ทำบาป เสียงนั้นมีอยู่ไม่นานนัก ได้มีอยู่๗ วันเท่านั้น ล่วง ๗ วันแล้วก็หายไป ครั้งนั้นแล ภิกษุเป็นอันมากพากันไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสพระดำรัสนี้ไว้ว่า

             ดูกรภิกษุทั้งหลายเสียงนั่นจักมีอยู่ไม่นาน ล่วง ๗ วันแล้วก็จักหายไป เสียงนั้น หายไปแล้วเพียงนั้น พระเจ้าข้า

             ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า ชนทั้งหลายผู้ไม่สำรวมแล้ว ย่อมทิ่มแทงชนเหล่าอื่นด้วยวาจา เหมือน เหล่าทหารที่เป็นข้าศึกทิ่มแทงกุญชร ผู้เข้าสงครามด้วย ลูกศรฉะนั้น ภิกษุผู้มีจิตไม่ ประทุษร้าย ฟังคำอันหยาบคาย ที่ชนทั้งหลายเปล่งขึ้นแล้ว พึงอดกลั้น

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์