เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

(พุทธอุทาน อุทานสูตร) นาคสูตร 2400
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕

๕. นาคสูตร
ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า
จิตของพระยาช้างผู้มีงาเช่นกับงอนรถนี้ ย่อมสมกับจิตที่ ประเสริฐของ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ เพราะพระพุทธเจ้า พระองค์เดียว ทรงยินดีอยู่ในป่า

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๖-๑๑๘

๕. นาคสูตร

             [๙๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้เมืองโกสัมพีก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเกลื่อนกล่นอยู่ด้วย ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระราชา มหาอำมาตย์ ของพระราชา เดียรถีย์ สาวกแห่งเดียรถีย์ ประทับอยู่ลำบากไม่ผาสุก

             ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงดำริว่า บัดนี้ เราแลเกลื่อนกล่นอยู่ด้วยภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระราชา มหาอำมาตย์ของพระราชา เดียรถีย์ สาวกแห่ง เดียรถีย์ อยู่ลำบากไม่ผาสุก ถ้ากระไรเราพึงหลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียวเถิด

             ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาค ทรงอันตรวาสกแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังเมืองโกสัมพี ครั้นเสด็จเที่ยวบิณฑบาตในเมืองโกสัมพี เสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัตแล้ว ทรงเก็บเสนาสนะด้วยพระองค์เอง ทรงถือ บาตร และจีวร ไม่ทรงบอกลาอุปัฏฐาก ไม่ทรงบอกเล่าภิกษุสงฆ์ พระองค์เดียว ไม่มีเพื่อนสอง เสด็จหลีกจาริกไปทางป่า ปาลิไลยกะ เสด็จจาริกไปโดยลำดับ ถึงป่าปาลิไลยกะแล้ว

             [๙๘] ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่ควงไม้ภัททสาละ ในราวไพรรักขิตวัน ในป่าปาลิไลยกะ แม้พระยาช้างเชือกหนึ่ง เกลื่อนกล่นอยู่ด้วยเหล่า ช้างพลาย ช้างพัง ช้างสะเทิ้น ลูกช้าง กินหญ้าที่ช้างทั้งหลายเล็มยอดเสียแล้ว และ ช้างทั้งหลาย กินกิ่งไม้ที่พระยาช้างนั้นหักลงๆ พระยาช้างนั้นดื่มน้ำที่ขุ่น และเมื่อ พระยาช้าง นั้นลงและขึ้นจากน้ำ เหล่าช้างพังเดินเสียดสีกายไป พระยาช้างนั้น เกลื่อนกล่น อยู่ลำบากไม่ผาสุก

             ลำดับนั้นแล พระยาช้างนั้นดำริว่า บัดนี้ เราแลเกลื่อนกล่นอยู่ด้วยเหล่า ช้างพลาย ช้างพัง ช้างสะเทิ้นลูกช้าง เรากินหญ้าที่ช้างทั้งหลายเล็มยอดเสียแล้ว และช้างทั้งหลายกินกิ่งไม้ที่เราหักลงๆ เราดื่มน้ำที่ขุ่น และเมื่อเราลงและขึ้นจากน้ำ เหล่าช้างพังทั้งหลายเดินเสียดสีกายไป เราเกลื่อนกล่นอยู่ลำบากไม่ผาสุก ถ้ากระไร เราพึงหลีกออกจากโขลงอยู่แต่ผู้เดียว

             ลำดับนั้นแล พระยาช้างนั้นหลีกออกจากโขลง แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มี พระภาคที่ควงไม้ภัททสาละ ในราวป่ารักขิตวัน ณ ป่าปาลิไลยกะที่พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ ได้ยินว่า พระยาช้างนั้นกระทำประเทศ ที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในรักขิต วันนั้นให้ปราศจากของเขียว และเข้าไปตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้สำหรับพระผู้มีพระภาคด้วยงวง

             [๙๙] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงหลีกเร้นอยู่ในที่ลับ ทรงเกิดความปริวิตก แห่งพระทัยอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราแลเกลื่อนกล่นอยู่ด้วยภิกษุ ภิกษุณีอุบาสก อุบาสิกา พระราชา มหาอำมาตย์ของพระราชา เดียรถีย์ สาวกแห่งเดียรถีย์ เราเกลื่อนกล่น อยู่ลำบาก ไม่ผาสุก บัดนี้ เรานั้นไม่เกลื่อนกล่นอยู่ด้วยภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระราชา มหาอำมาตย์ของพระราชา เดียรถีย์สาวกแห่งเดียรถีย์ เราไม่เกลื่อนกล่น เป็นอยู่สุขสำราญ

             พระยาช้างนั้นเกิดความปริวิตกแห่งใจอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราแลเกลื่อนกล่น อยู่ด้วยเหล่าช้างพลาย ช้างพัง ช้างสะเทิ้น ลูกช้าง เรากินหญ้าที่ช้างทั้งหลาย เล็มยอดเสียแล้ว และช้างทั้งหลายกินกิ่งไม้ที่เราหักลงๆ เราดื่มน้ำที่ขุ่น และเมื่อเราลง และขึ้นจากน้ำ ช้างพังทั้งหลาย เดินเสียดสีกายไป เราเกลื่อนกล่นอยู่ลำบากไม่ผาสุก บัดนี้ เราไม่เกลื่อนกล่นอยู่ด้วยเหล่าช้างพลาย ช้างพัง ช้างสะเทิ้น ลูกช้าง เราไม่กินหญ้า ที่ช้างทั้งหลายเล็มยอดแล้ว และช้างทั้งหลายไม่กินกิ่งไม้ที่เราหักลงๆ เราดื่มน้ำที่ไม่ขุ่น และเมื่อเราลงและขึ้นจากน้ำ ช้างพังทั้งหลายก็ไม่เดินเสียดสีกายไป เราไม่เกลื่อนกล่นอยู่เป็นสุขสำราญ

             ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาค ทรงทราบความสงัดกายของพระองค์ และทรง ทราบ ความปริวิตกแห่งใจ ของพระยาช้างนั้น ด้วยพระหฤทัยแล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า จิตของพระยาช้างผู้มีงาเช่นกับงอนรถนี้ ย่อมสมกับจิตที่ ประเสริฐของ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ เพราะพระพุทธเจ้า พระองค์เดียว ทรงยินดีอยู่ในป่า

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์