พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๕-๒๓๐
อธรรมสูตรที่ ๓
พระอานนท์ขยายความแทนพระพุทธเจ้า
[๑๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรม บุคคลควรทราบ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และสิ่งที่เป็นประโยชน์ บุคคลควรทราบ ครั้นทราบสิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรม สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ และสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว พึงปฏิบัติตามสิ่งที่
เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ พระผู้มีพระภาคผู้สุคต ครั้นตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร
ลำดับนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาค ทรงหลีกไปแล้วไม่นาน ภิกษุเหล่านั้นพูดกัน ดังนี้ว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงแสดงอุเทศนี้ โดยย่อว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร ใครหนอแลพึงจำแนกอรรถแห่งอุเทศ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้
ลำดับนั้น ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นร่วมกันว่า ท่านพระอานนท์นี้แล พระศาสดา ทรงสรรเสริญแล้ว และเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ผู้เป็นวิญญูยกย่องแล้ว ท่านพระอานนท์ ย่อมสามารถ เพื่อจะจำแนกอรรถแห่งอุเทศ ที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง แล้วโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้ ไฉนหนอ เราทั้งหลายพึงเข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่
ครั้นแล้วพึงถามอรรถอันนี้กะท่านพระอานนท์ ท่านพระอานนท์จักพยากรณ์ ด้วยประการใด เราทั้งหลายจักทรงจำอรรถนั้น ไว้ด้วยประการนั้น ลำดับนั้น ภิกษุเหล่านั้น ได้เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ได้ปราศรัยกับท่าน พระอานนท์ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูกรท่านอานนท์ผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงแสดงอุเทศนี้ โดยย่อว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร
ดูกรท่านผู้มีอายุ กระผมทั้งหลายได้พูดกันดังนี้ว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงแสดงอุเทศนี้โดยย่อว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรมและสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่ พระวิหาร ใครหนอแล พึงจำแนกอรรถแห่งอุเทศ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้
ดูกรท่านผู้มีอายุกระผมทั้งหลาย ได้มีความเห็นร่วมกันว่า ท่านพระอานนท์นี้แล พระศาสดาทรงสรรเสริญแล้ว และเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ผู้เป็นวิญญูยกย่องแล้ว ท่านพระอานนท์ย่อมสามารถเพื่อจำแนกอรรถแห่งอุเทศที่พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง โดยย่อ ไม่ทรงจำแนกโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้ ไฉนหนอแล เราทั้งหลายพึง เข้าไปหา ท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่
ครั้นแล้ว พึงถามอรรถอันนี้กะท่านพระอานนท์ ท่านพระอานนท์ จักพยากรณ์ ด้วยประการใด เราทั้งหลายจักทรงจำอรรถนั้นไว้ด้วยประการนั้น ขอท่านพระอานนท์ จงจำแนกเถิด
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เปรียบเสมือนบุรุษต้องการ แก่นไม้ แสวงหาแก่นไม้ เที่ยวแสวงหาแก่นไม้อยู่ เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ก็ล่วงเลยรากไปเสีย ล่วงเลยลำต้นไปเสีย พึงสำคัญกิ่งและใบว่า เป็นแก่นไม้ที่ตน พึงแสวงหา แม้ฉันใด ข้ออุปไมยนี้ก็ฉันนั้น เมื่อพระศาสดา ประทับอยู่เฉพาะหน้า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายผ่านพ้นพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเสียแล้ว ย่อมสำคัญอรรถอันนั้นว่า ควรถามข้าพเจ้า
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้มีพระจักษุ มีพระญาณ มีธรรม ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ตรัสบอก ทรงให้เป็นไป ทรงแสดงประโยชน์ ประทานอมตธรรม เป็นเจ้าของธรรม เป็นพระตถาคต ทรงรู้ธรรมที่ควรรู้ ทรงเห็นธรรมที่ควรเห็น ก็แหละ กาลนั้น เป็นกาลสมควรที่ท่านทั้งหลายเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคนั่นเทียว แล้วพึง ทูลถาม อรรถอันนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์แก่ท่านทั้งหลาย ด้วยประการใด ท่านทั้งหลายพึงทรงจำอรรถนั้นไว้ด้วยประการนั้นเถิด
ภิกษุเหล่านั้นกล่าวว่า ดูกรท่านอานนท์ผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้มีพระจักษุ มีพระญาณ มีธรรม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ตรัสบอก ทรงให้เป็นไป ทรงแสดง ประโยชน์ ประทานอมตธรรม เป็นเจ้าของธรรม เป็นพระตถาคต ทรงรู้ธรรม ที่ควรรู้ ทรงเห็นธรรมที่ควรเห็น ก็แหละกาลนั้น เป็นกาลสมควรที่กระผมทั้งหลาย เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค นั่นเทียว แล้วพึงทูลถามอรรถอันนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงพยากรณ์แก่กระผมทั้งหลาย ด้วยประการใด กระผมทั้งหลายพึงทรงจำอรรถนั้น ไว้ด้วยประการนั้นโดยแท้
ก็แต่ว่า ท่านพระอานนท์ พระศาสดาทรงสรรเสริญแล้ว และเพื่อนสพรหมจารี ทั้งหลาย ผู้เป็นวิญญูยกย่องแล้ว ท่านพระอานนท์ย่อมสามารถ เพื่อจำแนกอรรถแห่ง อุเทศ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถ โดยพิสดารนี้ โดยพิสดาร ได้ ขอท่านพระอานนท์ไม่ทำความหนักใจแ ล้วจงจำแนกเถิด
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้นท่านทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้น รับคำท่านพระอานนท์แล้ว ท่านพระอานนท์ ก็ได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงแสดงอุเทศ โดยย่อว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ก็ในอุเทศนั้น
สิ่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นไฉน สิ่งที่เป็นธรรมเป็นไฉน
สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เป็นไฉน และสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นไฉน
(พระอานนท์ขยายความ)
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความเห็นผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความเห็นชอบเป็นสิ่งที่เป็น ธรรมอกุศลธรรม อันลามกมิใช่น้อย ที่เกิดขึ้นเพราะความเห็นผิดเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่ไม่ เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความเห็นชอบ เป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความดำริผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความดำริชอบ เป็นสิ่งที่ เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย การเจรจาผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การเจรจาชอบ เป็นสิ่งที่ เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย การงานผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การงานชอบ เป็นสิ่งที่ เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย การเลี้ยงชีพผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม การเลี้ยงชีพชอบ เป็นสิ่งที่ เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความพยายามผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความพยายามชอบ เป็นสิ่งที่เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความระลึกผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความระลึกชอบ เป็นสิ่งที่ เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความตั้งใจมั่นผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นสิ่งที่เป็นธรรม ...
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความรู้ผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความรู้ชอบเป็นสิ่งที่เป็นธรรม
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ความพ้นผิดเป็นสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ความพ้นชอบเป็นสิ่งที่ เป็นธรรม อกุศลธรรมอันลามกมิใช่น้อย ที่เกิดขึ้นเพราะความพ้นผิดเป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่ ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนกุศลธรรมมิใช่น้อย ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์ เพราะความหลุดพ้น ชอบ เป็นปัจจัย เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงแสดงอุเทศ โดยย่อ ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ...พึงปฏิบัติ ตาม สิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกอรรถ โดยพิสดาร เสด็จลุกจาก อาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร
ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เราย่อมรู้อรรถแห่งอุเทศ อันพระผู้มีพระภาคตรงแสดง โดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดารนี้ ได้โดยพิสดารด้วยประการอย่างนี้ ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ก็และท่านทั้งหลายหวังอยู่ พึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค แล้วทูลถามอรรถอันนั้นเถิด พระผู้มีพระภาคของเราทั้งหลาย ทรงพยากรณ์ด้วย ประการใด ท่านทั้งหลายพึงทรงจำ อรรถนั้นไว้ ด้วยประการนั้นเถิด
ภิกษุเหล่านั้น รับคำพระอานนท์แล้ว ชื่นชมโมทนาภาษิตของท่านพระอานนท์ ลุกจากอาสนะ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอุเทศโดยย่อว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อพระผู้มีพระภาค เสด็จหลีก ไปแล้วไม่นาน ข้าพระองค์ทั้งหลายได้พูดกันว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระผู้มีพระภาค ทรงแสดง อุเทศโดยย่อว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่ไม่เป็นธรรม และสิ่งที่เป็นธรรมบุคคลควรทราบ ... พึงปฏิบัติตามสิ่งที่เป็นธรรม ตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดังนี้ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดาร เสด็จลุกจากอาสนะเข้าไปสู่พระวิหาร ใครหนอแล พึงจำแนกอรรถแห่งอุเทศ อันพระผู้มี พระภาคทรงแสดงแล้วโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้ ดังนี้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เหล่านั้นแล ได้มีความเห็นร่วมกันว่า ท่าน พระอานนท์ นี้แล พระศาสดาทรงสรรเสริญแล้ว และเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ผู้เป็น วิญญูยกย่องแล้ว ท่านพระอานนท์ย่อมสามารถ เพื่อจำแนกอรรถแห่งอุเทศ ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโดยย่อ ไม่ทรงจำแนกอรรถโดยพิสดารนี้ โดยพิสดารได้ ไฉนหนอ เราทั้งหลายพึงเข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ครั้นแล้วพึงถามอรรถ อันนั้นกะท่านพระอานนท์ ท่านพระอานนท์ จักพยากรณ์แก่เราทั้งหลาย ด้วยประการใด เราทั้งหลายจักทรงจำไว้ด้วยประการนั้น ดังนี้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลำดับนั้นแล ข้าพระองค์ทั้งหลาย ได้เข้าไปหาท่าน พระอานนท์ถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้ถามอรรถอันนั้น กะท่านพระอานนท์ ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ท่านพระอานนท์ได้จำแนกอรรถด้วยดีแก่ข้าพระองค์เหล่านั้น ด้วยอาการเหล่านี้ ด้วยบทเหล่านี้ ด้วยพยัญชนะเหล่านี้แล พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดีแล้วๆ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานนท์เป็นบัณฑิต อานนท์เป็นผู้ มีปัญญามาก แม้หากว่าเธอทั้งหลาย พึงเข้ามาหาเราแล้วถามอรรถอันนั้น แม้เราเอง ก็พึงพยากรณ์อรรถนั้นเหมือนอย่างที่อานนท์พยากรณ์แล้วนั่นแหละ นั่นเป็นอรรถของ อุเทศนั้น และเธอทั้งหลายพึงทรงจำอรรถนั้นไว้อย่างนั้นเถิด
|