เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

กามโภคีสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้ยังบริโภคกาม กามโภคีบุคคลที่ควรสรรเสริญ - กามโภคีบุคคลที่ควรติเตียน 2350
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔

กามโภคีสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้ยังบริโภคกาม

กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญ
๑ ควรสรรเสริญ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
๒ ควรสรรเสริญ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
๓ ควรสรรเสริญว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
๔ ควรสรรเสริญว่า เป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพัน เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก

กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียน
๑ ควรติเตียน ว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
๒ ควรติเตียน ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
๓ ควรติเตียน ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๔ ควรติเตียน ว่า เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๗๖-๑๘๑

กามโภคีสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้ยังบริโภคกาม

            [๙๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วน ข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า

            ดูกรคฤหบดี กามโภคีบุคคลมีอยู่ในโลก ๑๐ จำพวก ๑๐ จำพวกเป็นไฉน คือ

          กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ

          กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดย ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม และ ไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม และไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตน ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม และ ไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตน ให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำ บุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อม แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ

           กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดย ไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่อง สลัดออก บริโภค โภคทรัพย์นั้น

          ๑๐ กามโภคีบุคคลบางคนในโลกนี้ แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดย ไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่นไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่อง สลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น

-----------------------------------------------------------------------------------------------

            ดูกรคฤหบดี ในกามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนั้น กามโภคีบุคคลผู้แสวงหา โภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ
-ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
-ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
-ควรติเตียนโดยสถานที่ ๓ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
            กามโภคีบุคคลนี้ควรติเตียนโดย ๓ สถานนี้

           2 กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคล นี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถาน ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานคือ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ควรสรรเสริญโดยสถานเดียวว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่ทำบุญ
            กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถานนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานนี้

            กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถาน ควรสรรเสริญโดยสถาน ๒ คือ
- ควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ควรติเตียนโดย ๑ สถานควรสรรเสริญโดย ๒ สถานนี้

            กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุขให้ อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้
ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ
- ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่าแสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่าไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๓ ว่า ไม่แจกจ่ายไม่กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๓ สถานนี้

           กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒ สถาน ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดย ชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดย ไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถานนี้

           กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้
ควรสรรเสริญโดย ๓ สถาน ควรติเตียนโดย ๑ สถาน
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรติเตียนโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์ โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้

           กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้
ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ
- ควรสรรเสริญโดย ๑ สถานว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๑ ว่า ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรติเตียนโดยสถานที่ ๒ ว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย๑ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถานนี้

            กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒ สถาน ควรติเตียนโดย ๑ สถานคือ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรสรรเสริญ โดย สถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรติเตียน โดย ๑ สถานว่า ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๒ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้

            กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ แต่เป็นผู้ กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออกบริโภคโภคทรัพย์นั้น
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถาน ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ
- ควรสรรเสริญ โดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
- ควรติเตียน โดย ๑ สถานว่า เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญา เป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถานนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถานนี้

         ๑๐ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ และไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออกบริโภคโภคทรัพย์นั้น
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๔ สถาน คือ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๑ ว่า แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๒ ว่า ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๓ ว่า แจกจ่าย กระทำบุญ
- ควรสรรเสริญโดยสถานที่ ๔ ว่า เป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพัน เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น
             กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๔ สถานนี้

            ดูกรคฤหบดี กามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกบรรดา กามโภคี บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ กามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำ บุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น นี้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐ เป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวกนี้

            ดูกรคฤหบดี นมสดเกิดจากแม่โคนมส้มเกิดจากนมสด เนยข้นเกิดจากนมส้ม เนยใสเกิดจากเนยข้น หัวเนยใสเกิดจากเนยใส หัวเนยใสโลกกล่าวว่า เลิศกว่านมสด เป็นต้นเหล่านั้น ฉันใดกามโภคีบุคคลผู้แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ ครั้นแสวงหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่จดจ่อ เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภค ทรัพย์ นั้น นี้เป็นผู้เลิศ ประเสริฐ เป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคี บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ ฉันนั้น

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์