พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๐๙
สัญญาสูตรที่ ๑
สัญญา๑๐ สูตร
๑
[๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญา ๑๐ ประการ นี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตธรรม มีอมตธรรมเป็นที่สุด ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ
๑
อสุภสัญญา
๒
มรณสัญญา
๓
อาหาเรปฏิกูลสัญญา
๔
สัพพโลเกอนภิรตสัญญา
๕ อนิจจสัญญา
๖
อนิจเจทุกขสัญญา
๗
ทุกเขอนัตตสัญญา
๘ ปหานสัญญา
๙ วิราคสัญญา
๑๐ นิโรธสัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญา ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มีมากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๐๙
สัญญาสูตรที่ ๒
สัญญา๑๐ สูตร ๒
[๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญา ๑๐ ประการ นี้ อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด ๑๐ ประการเป็นไฉน คือ
๑ อนิจจสัญญา
๒ อนัตตสัญญา
๓ มรณสัญญา
๔ อาหาเรปฏิกูลสัญญา
๕ สัพพโลเกอนภิรตสัญญา
๖ อัฏฐิกสัญญา
๗ ปุฬุวกสัญญา
๘ วินีลกสัญญา
๙ วิฉิททกสัญญา
๑๐ อุทธุมาตกสัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัญญา ๑๐ ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๐-๑๑๑
ปัพพชิตสูตร
จิตที่ได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา
[๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้ว ด้วยสิ่งสมควรแก่บรรพชา อกุศลธรรม อันลามกที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่รัดรึงจิตตั้งอยู่
๑ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยอนิจจสัญญา ๒ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยอนัตตสัญญา ๓ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยอสุภสัญญา
๔ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยอาทีนวสัญญา ๕ จิตของพวกเราจักเป็นจิตรู้ความประพฤติชอบ และความประพฤติไม่ชอบของ สัตวโลกแล้ว ได้รับอบรมด้วยสัญญานั้น ๖ จิตของพวกเราจักเป็นจิตรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตวโลกแล้ว ได้รับ อบรมด้วยสัญญานั้น ๗ จิตของพวกเราจักเป็นจิตรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้ว ได้รับอบรม ด้วยสัญญานั้น
๘ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้ว ด้วยปหานสัญญา
๙ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยวิราคสัญญา ๑๐ จิตของพวกเราจักเป็นจิตได้รับอบรมแล้วด้วยนิโรธสัญญา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล จิตของภิกษุเป็นจิตได้รับอบรมแล้ว ด้วยสิ่ง สมควรแก่ บรรพชา อกุศลธรรมอันลามกที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมไม่รัดรึงจิตตั้งอยู่
๑ จิตได้รับอบรมแล้วด้วยอนิจจสัญญา
๒ จิตได้รับอบรมแล้วด้วยอนัตตสัญญา
๓ จิตได้รับอบรมแล้วด้วยอสุภสัญญา
๔ จิตได้รับอบรมแล้วด้วยอาทีนวสัญญา
๕ จิตรู้ความประพฤติชอบ และความประพฤติไม่ชอบของสัตวโลกแล้ว ได้รับอบรม แล้วด้วยสัญญานั้น
๖ จิตรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตวโลกแล้ว ได้รับอบรมแล้วด้วยสัญญานั้น ๗ จิตรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้ว ได้รับอบรมแล้วด้วยสัญญานั้น ๘ จิตได้รับอบรมด้วยปหานสัญญา
๙ จิตได้รับอบรมด้วยวิราคสัญญา
๑๐ และจิตได้รับอบรมด้วยนิโรธสัญญา
เมื่อนั้น ภิกษุนั้นพึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คืออรหัตผล ในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมี อุปาทานเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี
|