เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

เสนาสนสูตร อังคสูตร ภิกษุเป็นผู้ละองค์ ๕ สังโยชนสูตรสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ เบื้องสูง ๕ อาหุเนยยสูตร 2300
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔

เสนาสนสูตร องค์ประกอบของเสนาสนะ
๑ เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของตถาคต
๒ เป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง
๓ เป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยา
๔ ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม
๕ เป็นผู้มีปัญญา คือ ประกอบด้วยปัญญา ที่เห็นความเกิด และความดับ

อังคสูตร
ภิกษุเป็นผู้ละองค์ ๕ (นิวรณ์) ได้แล้วอย่างไร
๑ เป็นผู้ละกามฉันทะได้แล้ว
๒ ละพยาบาทได้แล้ว
๓ ละถีนมิทธะได้แล้ว
๔ ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว
๕ ละวิจิกิจฉาได้แล้ว

สังโยชนสูตร
สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ คือ สักกายทิฐิ วิจิกิจฉา สีลพัตตปรามาส กามฉันทะ พยาบาท
สังโยชน์เบื้องบน ๕ คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา

อาหุเนยยสูตร บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ
เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ
๑ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒ พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า ๓ ผู้เป็นอุภโตภาควิมุต
๔ ผู้เป็นปัญญาวิมุตติ ๕ ผู้เป็นกายสักขี ๖ ผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ ๗ ผู้เป็นสัทธาวิมุต
๘ ผู้เป็นธัมมานุสารี ๙ ผู้เป็นสัทธานุสารี ๑๐ผู้เป็นโคตรภู

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๗-๑๘

เสนาสนสูตร
องค์ประกอบของเสนาสนะ

            [๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ เสพอยู่ คบอยู่ซึ่ง เสนาสนะ อันประกอบด้วยองค์ ๕ ไม่นานนัก พึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะ มิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้
             เป็นผู้มีศรัทธา คือ เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของตถาคต ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาค พระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชา และจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก ทรงเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดา ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม ๑

            เป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง ประกอบด้วยไฟธาตุสำหรับย่อยอาหาร สม่ำเสมอ ไม่เย็นจัด ไม่ร้อนจัด เป็นปานกลางควรแก่การบำเพ็ญเพียร ๑

            เป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยา ทำตนให้เปิดเผยตามความเป็นจริง ในศาสดาหรือ ในเพื่อนพรหมจรรย์ ที่เป็นวิญญู ๑

            ๔ ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ๑

             เป็นผู้มีปัญญา คือ ประกอบด้วยปัญญา ที่เห็นความเกิด และความดับ เป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างนี้แล

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสนาสนะอันประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างไร

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสนาสนะในธรรมวินัยนี้ อยู่ไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นัก สมบูรณ์ ด้วยทางไปมา กลางวันไม่เกลื่อนกล่น กลางคืนเงียบเสียง ปราศจากเสียงอึกทึกมี เหลือบ ยุง ลม แดด และสัมผัสแห่งสัตว์เลื้อยคลานน้อย ๑

            จีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และเภสัชบริขารอันเป็นปัจจัยแห่งคนไข้ ย่อมเกิดขึ้น โดยไม่ฝืดเคืองแก่ภิกษุผู้อยู่ในเสนาสนะนั้น ๑

            ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพระเถระ เป็นพหูสูต ชำนาญคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรง มาติกา อยู่ในเสนาสนะนั้น ๑

            ภิกษุนั้นเข้าไปหาพระเถระเหล่านั้นตามกาลอันสมควร แล้วย่อมสอบถาม ไต่ถาม ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้อนี้เป็นอย่างไร เนื้อความของข้อนี้เป็นอย่างไร ๑

            ท่านพระเถระเหล่านั้น ย่อมเปิดเผยข้อที่ยังไม่ได้เปิดเผย ย่อมทำให้ง่ายซึ่งข้อ ที่ยังไม่ได้ทำให้ง่าย ย่อมบรรเทาความสงสัยในธรรม เป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยแก่ภิกษุ นั้น ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสนาสนะอันประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างนี้แล

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ เสพอยู่ คบอยู่ ซึ่งเสนาสนะ อันประกอบด้วยองค์ ๕ ไม่นานนัก ก็พึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะ มิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๘-๑๙

อังคสูตร

            [๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ละองค์ ๕ ได้แล้ว เป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ บัณฑิตเรียกว่า ผู้ประกอบด้วยคุณทั้งมวล ผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ ในธรรมวินัยนี้

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ละองค์ ๕ (นิวรณ์) ได้แล้วอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ละกามฉันทะได้แล้ว ๑
ละพยาบาทได้แล้ว ๑
ละถีนมิทธะได้แล้ว ๑
ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ๑
ละวิจิกิจฉาได้แล้ว ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละองค์ ๕ ได้แล้วอย่างนี้แล

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบด้วย ศีลขันธ์ อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑
ประกอบด้วย สมาธิขันธ์ อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑
ประกอบด้วย ปัญญาขันธ์ อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑
ประกอบด้วย วิมุตติขันธ์ อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑
ประกอบด้วย วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ อันเป็นของพระอเสขบุคคล ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ประกอบ ด้วยองค์ ๕ อย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ละองค์ ๕ ได้แล้ว ผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ บัณฑิต เรียกว่า ผู้ประกอบด้วยคุณทั้งมวล ผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นอุดมบุรุษ ในธรรมวินัยนี้

            กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ และ วิจิกิจฉา ย่อมไม่มีแก่ภิกษุ โดยประการทั้งปวงเทียว ภิกษุผู้ เช่นนั้นสมบูรณ์ด้วยศีลอันเป็นของพระอเสขะ ด้วยสมาธิ อันเป็นของพระอเสขะ ด้วยปัญญาอันเป็นของพระอเสขะ ด้วยวิมุตติอันเป็นของพระ อเสขะ และด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ อันเป็นของพระอเสขะ ภิกษุนั้นแล เป็นผู้ละองค์ ๕ สมบูรณ์ แล้วด้วยองค์ ๕ ภิกษุนั้นแล บัณฑิตเรียกว่า ผู้ประกอบ ด้วยคุณทั้งมวล ในธรรมวินัยนี้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙

สังโยชนสูตร

            [๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๑๐ ประการนี้ ๑๐ ประการเป็นไฉนคือ สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการ สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน๕ ประการ

            สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือ สักกายทิฐิ ๑ วิจิกิจฉา ๑ สีลพัตตปรามาส ๑ กามฉันทะ ๑ พยาบาท ๑ สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องต่ำ ๕ ประการนี้

            สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน ๕ ประการเป็นไฉน คือ รูปราคะ ๑ อรูปราคะ ๑ มานะ ๑ อุทธัจจะ ๑ อวิชชา ๑ สังโยชน์เป็นไปในส่วนเบื้องบน ๕ ประการนี้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์ ๑๐ ประการนี้แล


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗-๒๘

อาหุเนยยสูตร

            [๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญ ของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

๑๐ จำพวกเป็นไฉน คือ
พระตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑
พระปัจเจกสัมพุทธเจ้า ๑
ท่านผู้เป็นอุภโตภาควิมุต ๑
(พระอรหันต์)
ท่านผู้เป็นปัญญาวิมุต ๑
(ผู้หลุดพ้นด้วยปัญญา)
ท่านผู้เป็นกายสักขี ๑
(สัมผัสวิโมกข์)
ท่านผู้เป็นทิฏฐิปัตตะ ๑
(อริยบุคคลทั้ง๔)
ท่านผู้เป็นสัทธาวิมุต ๑
(หลุดพ้นด้วยศรัทธา)
ผู้เป็นธัมมานุสารี ๑
(ผู้แล่นไปตามธรรม)
ท่านผู้เป็นสัทธานุสารี ๑ (ผู้แล่นไปตามศรัทธา)
ท่านผู้เป็นโคตรภู ๑
(ภิกษุประเภทปุถุชน)

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑๐ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

 

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์