พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙-๒๕
ขีลสูตร
ว่าด้วยกิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู
[๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ หรือ ภิกษุณี ก็ตาม ยังละไม่ได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ หรือภิกษุณีก็ตาม ยังตัดไม่ขาดแล้ว กลางคืนหรือกลางวัน ที่ผ่านมาถึง บุคคลนั้น บุคคลนั้น พึงหวังความเสื่อมอย่างเดียว ในกุศลธรรมทั้งหลายไม่มีความเจริญ เลย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการ ที่บุคคลนั้นยังละไม่ได้แล้ว เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อไม่ เลื่อมใสในศาสดา จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อการ กระทำ ติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๑ นี้ อันภิกษุผู้มีจิต ไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อเพื่อบำเพ็ญเพียร ยังละไม่ได้แล้ว ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสใน พระธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเพื่อ ประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๒ นี้ อันภิกษุ ผู้มีจิตไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังละไม่ได้แล้ว ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสใน พระสงฆ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๓ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังละไม่ได้แล้ว ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสใน สิกขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบ เนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๔ นี้ อันภิกษุผู้มีจิต ไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังละไม่ได้แล้ว ด้วยประการนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมโกรธ ไม่พอใจ มีจิตอันโทสะประทุษร้าย มีจิต กระด้างในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไป เพื่อ ความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๕ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตไม่น้อมไป เพื่อความเพียรเพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังละไม่ได้แล้ว ด้วยประการอย่างนี้ ตาปูตรึงใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลนั้นยังละไม่ได้แล้ว
เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการ อันบุคคลนั้น ยังตัดไม่ขาดแล้วเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่ปราศจาก ความพอใจ ไม่ปราศจากความรัก ไม่ปราศจากความกระหาย ไม่ปราศจากความเร่าร้อน ไม่ปราศจาก ความอยาก ในกามทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความ เพียร เพื่อ ประกอบ เนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจประการที่ ๑ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังตัดไม่ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่ปราศจากความพอใจ ไม่ปราศจาก ความรัก ไม่ปราศจากความกระหาย ไม่ปราศจากความเร่าร้อนไม่ปราศจาก ความอยาก ในกาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความ ความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจ ประการที่ ๒ นี้ อันภิกษุผู้มีจิต ไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำ ติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังตัดไม่ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุยังเป็นผู้ไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่ปราศจากความ พอใจ ไม่ปราศจากความรัก ไม่ปราศจากความกระหาย ไม่ปราศจากความเร่าร้อน ไม่ปราศจาก ความอยาก ในรูป จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจ ประการที่ ๓ นี้ อันภิกษุผู้มีจิต ไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังตัดไม่ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุฉันอาหารเต็มท้อง ตามต้องการแล้ว ย่อมประกอบ ความสุข ในการนอน ความสุข ในการเอน ความสุขในการหลับอยู่ จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อเพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจ ประการที่ ๔ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตไม่น้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อความประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียรยังตัดไม่ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุประพฤติพรหมจรรย์ ด้วยความปรารถนาเป็นเทพนิกาย หมู่ใดหมู่หนึ่งว่า เราจักเป็นเทพเจ้าหรือเป็นเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีลพรต ตบะ หรือพรหมจรรย์นี้ จิตของภิกษุนั้น ย่อมไม่น้อมไปเพื่อความเพียรเพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจประการที่ ๕ นี้ อันภิกษุผู้มีจิต ไม่น้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ยังตัดไม่ได้ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลนั้น ยังตัดไม่ขาดแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุ หรือเป็น ภิกษุณี ก็ตาม ยังละไม่ได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใด ผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ หรือภิกษุณีก็ตาม ยังตัดไม่ขาดแล้ว กลางคืนหรือกลางวันที่ผ่านมา ถึงบุคคลนั้น บุคคลนั้นพึงหวังความเสื่อมอย่างเดียว ในกุศลธรรมทั้งหลายไม่มี ความเจริญเลย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนกลางคืน หรือกลางวันที่ผ่านมาถึงพระจันทร์ ในกาล ปักษ์ พระจันทร์นั้นย่อมเสื่อมไปจากสี ย่อมเสื่อมจากมณฑล ย่อมเสื่อมจาก แสงสว่าง ย่อมเสื่อมจาก ความยาว และความกว้าง แม้ฉันใด ตาปูตรึงใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคล ผู้ใด ผู้หนึ่งเป็นภิกษุหรือภิกษุณี ก็ตามยังละไม่ได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ยังตัดไม่ขาดแล้ว กลางคืน หรือกลางวัน ที่ผ่านมาถึงบุคคลนั้น บุคคลนั้นพึงหวังความเสื่อมอย่างเดียว ในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีความเจริญเลยฉันนั้นเหมือนกันแล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุหรือ ภิกษุณีก็ตาม ละได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุหรือ ภิกษุณีก็ตาม ตัดได้ขาดแล้ว กลางคืนหรือกลางวันที่ผ่านมาถึงบุคคลนั้น บุคคลนั้น พึงหวังความเจริญ อย่างเดียวในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่มีความเสื่อมเลย
ตาปูตรึงใจ ๕ ประการ ที่บุคคลนั้นละได้แล้ว เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรม วินัยนี้ ย่อมไม่เคลือบแคลงสงสัย ย่อมน้อมใจเชื่อเลื่อมใสในพระศาสดา จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจประการที่ ๑ นี้อันภิกษุผู้มีจิตน้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อเพื่อบำเพ็ญเพียร ละได้แล้ว ด้วยประการอย่างนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมไม่เคลือบแคลง ไม่สงสัย ย่อมน้อมใจเชื่อย่อม เลื่อมใส ในพระธรรม ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมไม่เคลือบแคลง ไม่สงสัย ย่อมน้อมใจเชื่อย่อม เลื่อมใส ในพระสงฆ์ ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมไม่เคลือบแคลง ไม่สงสัย ย่อมน้อมใจเชื่อย่อม เลื่อมใส ในสิกขา ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมไม่โกรธ พอใจ มีจิตอันโทสะไม่ประทุษร้ายมีจิต ไม่กระด้าง ในเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบ เนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตาปูตรึงใจ๕ ประการ นี้ อันภิกษุมีจิตน้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญ เพียร ละได้แล้ว ด้วยประการอย่างนี้ ตะปูตรึงใจ ๕ประการนี้ อันบุคคลนั้นละได้แล้ว
เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการ อันบุคคลนั้นตัดได้ขาดแล้ว เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ปราศจากความ พอใจ ปราศจาก ความรัก ปราศจากความกระหาย ปราศจากความเร่าร้อน ปราศจาก ความอยาก ในกามทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไปเพื่อ ความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจ ประการที่ ๑ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตน้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำ ติดต่อ เพื่อบำเพ็ญ เพียร ตัดได้ขาดแล้ว ด้วยประการฉะนี้
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ปราศจากความพอใจ ปราศจาก ความรัก ปราศจากความกระหาย ปราศจากความเร่าร้อน ปราศจาก ความอยาก ในกาย ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุเป็นผู้ปราศจากความกำหนัด ปราศจากความพอใจ ปราศจาก ความรัก ปราศจากความกระหาย ปราศจากความเร่าร้อน ปราศจาก ความอยาก ในรูป ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุฉันอาหารเต็มท้องตามต้องการแล้ว ไม่ประกอบความสุข ในการนอน ความสุขในการเอน ความสุขในการหลับอยู่ ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง ภิกษุไม่ประพฤติพรหมจรรย์ ด้วยความปรารถนาเป็นเทพนิกาย หมู่ใด หมู่หนึ่งว่า เราจักเป็นเทพเจ้า หรือเทพองค์ใดองค์หนึ่ง ด้วยศีล พรตตบะ หรือ พรหมจรรย์นี้ จิตของภิกษุนั้น ย่อมน้อมไปเพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อ กระทำ ติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร เครื่องผูกพันใจประการที่ ๕ นี้ อันภิกษุผู้มีจิตน้อมไป เพื่อความเพียร เพื่อประกอบเนืองๆ เพื่อกระทำติดต่อ เพื่อบำเพ็ญเพียร ตัดได้ขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้ เครื่องผูกพันใจ ๕ประการนี้ อันบุคคลนั้นตัดได้ขาดแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุ หรือเป็น ภิกษุณี ก็ตาม ละได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ หรือภิกษุณีก็ตาม ตัดได้ขาดแล้ว กลางคืนหรือกลางวันที่ผ่านมา ถึงบุคคลนั้น บุคคลนั้น พึงหวังความเจริญอย่างเดียว ในกุศลธรรมทั้งหลายไม่มีความเสื่อมเลย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนกลางคืน หรือกลางวันที่ผ่านมาถึงพระจันทร์ ใน ชุณหปักษ์ พระจันทร์นั้นย่อมเจริญด้วยสี ย่อมเจริญด้วยมณฑล ย่อมเจริญด้วย แสงสว่าง ย่อมเจริญด้วยส่วนยาว และส่วนกว้าง แม้ฉันใด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตาปูตรึงใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุ หรือเป็นภิกษุณีก็ตาม ละได้แล้ว เครื่องผูกพันใจ ๕ ประการนี้ อันบุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุ หรือภิกษุณีก็ตาม ตัดได้ขาดแล้ว กลางคืน หรือกลางวันที่ผ่านมาถึงบุคคลนั้น บุคคลนั้น พึงหวังความเจริญ อย่างเดียวในกุศลธรรม ทั้งหลาย ไม่มีความเสื่อมเลย ฉันนั้นเหมือนกันแล
|