เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ธรรมเป็นเครื่องอยู่ อนุปุพพนิโรธสูตร ..วิหารสูตรที่ ๑ (อนุปุพพวิหาร) วิหารสูตรที่ ๒ (อนุปุพพวิหารสมาบัติ) 2310
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓

อนุปุพพนิโรธสูตร : ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพนิโรธ ๙)
อามิสสัญญาของ ผู้เข้าปฐมฌานย่อมดับไป
วิตกวิจารของ ผู้เข้าทุติยฌานย่อมดับไป
ปีติของ ผู้เข้าตติยฌานย่อมดับไป
ลมอัสสาสปัสสาสะของ ผู้เข้าจตุตถฌานย่อมดับไป
รูปสัญญาของ ผู้เข้าอากาสานัญจายตนฌานย่อมดับไป
...

วิหารสูตรที่ ๑ : ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพวิหาร ๙)
คือสมาธิ ๙ ระดับ
รูปสัญญา ๔ ระดับ- ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน
อรูปสัญญา ๕ ระดับ- อากาสานัญจา.. วิญญาณัญจา..อากิญจัญญา..เนวสัญญา.. สัญญาเวทยิต

วิหารสูตรที่ ๒ : ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๙)
(๑) บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุข... กามทั้งหลายย่อมดับในปฐมฌานนี้
(๒) บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิต .. วิตกวิจารย่อมดับ ในองค์ฌานนี้
(๓) บรรลุตติยฌาน เป็นผู้มีอุเบกขา..ปีติย่อมดับในองค์ฌานนี้
(๔) บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข .. อุเบกขาและสุขดับใน องค์ฌาน นี้
(๕) บรรลุอากาสานัญจายตน .. รูปสัญญาย่อมดับในองค์ฌานนี้
(๖) บรรลุวิญญาณัญจายตน... อากาสานัญจายตนสัญญาดับในองค์ฌานนี้
(๗) บรรลุอากิญจัญญายตน ...วิญญาณัญจายตนสัญญาย่อมดับในองค์ฌานนี้
(๘) บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตน... อากิญจัญญายตนสัญญาดับในองค์ฌานนี้
(๙) บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธ... เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาดับ ในนิโรธนี้

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๗๗-๓๗๘

อนุปุพพนิโรธสูตร
ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพนิโรธ ๙ )

            [๒๓๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพนิโรธ ๙ ประการนี้ ๙ ประการเป็นไฉน คือ
อามิสสัญญาของ ผู้เข้าปฐมฌานย่อมดับไป ๑
วิตกวิจารของ
ผู้เข้าทุติยฌานย่อมดับไป ๑
ปีติของ
ผู้เข้าตติยฌานย่อมดับไป ๑
ลมอัสสาสปัสสาสะของ
ผู้เข้าจตุตถฌานย่อมดับไป ๑
รูปสัญญาของ
ผู้เข้าอากาสานัญจายตนฌานย่อมดับไป ๑
อากาสานัญจายตนสัญญาของ
ผู้เข้าวิญญาณัญจายตนฌานย่อมดับไป ๑
วิญญาณัญจายตนสัญญาของ
ผู้เข้าอากิญจัญญายตนฌานย่อมดับไป ๑
อากิญจัญญายตนสัญญาของ
ผู้เข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌานย่อมดับไป ๑
สัญญาและเวทนาของ
ผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธย่อมดับไป ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพนิโรธ ๙ ประการนี้แล


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๗๙

วิหารสูตรที่ ๑
ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพวิหาร ๙)

            [๒๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพวิหาร (ธรรมเป็นเครื่องอยู่ตามลำดับ) ๙ ประการนี้ ๙ ประการเป็นไฉน คือ
ปฐมฌาน ๑
ทุติยฌาน ๑
ตติยฌาน ๑
จตุตถฌาน ๑
อากาสานัญจายตนฌาน ๑
วิญญาณัญจายตนฌาน ๑
อากิญจัญญายตนฌาน ๑
เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ๑
สัญญาเวทยิตนิโรธ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพวิหาร ๙ ประการนี้แล


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๗๙-๓๘๓

วิหารสูตรที่ ๒
ธรรมเป็นเครื่องอยู่ (อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๙)

             [๒๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๙ ประการนี้ เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๙ ประการเป็นไฉน เรากล่าวว่า กามทั้งหลายย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับกามทั้งหลายได้แล้วๆ อยู่ ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้น เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า กามทั้งหลายย่อมดับในที่ไหน และใครดับกามทั้งหลาย ได้แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า

            ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรม (๑) บรรลุ ปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ กามทั้งหลายย่อมดับในปฐมฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับกามได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอไม่เป็นผู้โอ้อวดไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิต ว่าดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้  เรากล่าวว่า วิตกและวิจาร ย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับวิตกวิจารได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มี ความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้วถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌาน นั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถาม อย่างนี้ว่า วิตกและวิจารย่อมดับในที่ไหน และใครดับวิตกวิจาร แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ (๒) บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิต ในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแก่ สมาธิอยู่ วิตกวิจารย่อมดับ ในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับวิตกวิจารได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดีภาษิต ว่า ดีแล้ว ครั้นแล้วพึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า ปีติย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับปีติได้แล้วๆ อยู่ท่านเหล่านั้น ไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถาม อย่างนี้ว่า ก็ปีติดับในที่ไหน และใครดับ ปีติ ได้แล้วๆ อยู่เราไม่รู้ผู้นี้ ไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป (๓) บรรลุตติยฌาน ที่พระอริยเจ้า ทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข ปีติย่อมดับใน องค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับปีติ ได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า อุเบกขา และสุขดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับอุเบกขาและสุข ได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้น ไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า ก็อุเบกขาและสุขย่อมดับในที่ไหน และใครดับอุเบกขาและสุข ได้แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบ ผู้นั้น อย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ (๔) บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับ โสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อุเบกขาและสุขดับใน องค์ฌาน นี้แล ท่านเหล่านั้นดับอุเบกขาและสุขได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้วพึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า รูปสัญญาดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับรูปสัญญาได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้น ไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้น เป็นแน่ ผู้ใดพึงถาม อย่างนี้ว่า รูปสัญญาดับในที่ไหนและใครดับ รูปสัญญาได้แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะดับ ปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึง นานัตตสัญญา (๕) บรรลุอากาสานัญจายตนฌาน เพราะคำนึง เป็นอารมณ์ว่า อากาศไม่มีที่สุด รูปสัญญาย่อมดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้น ดับรูปสัญญา ได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้วครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า อากาสานัญจายตนสัญญาดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับอากาสา นัญจายตนสัญญา ได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิวดับสนิทแล้ว ข้าม ได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนั้นเป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่าอากาสา นัญจายตน สัญญาดับในที่ไหน และใครดับอากาสานัญจายตนสัญญาได้แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลายพึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรม วินัยนี้ เพราะล่วงอากาสา นัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง (๖) บรรลุวิญญาณัญจายตน ฌาน โดยคำนึง เป็นอารมณ์ว่า วิญญาณไม่มีที่สุด อากาสานัญจายตนสัญญาดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับอากาสานัญจายตนสัญญา ได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า วิญญาณัญจายตนสัญญา ดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับวิญญา ณัญจายตนสัญญา ได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิว ดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่าวิญญาณัญจายตน สัญญาดับในที่ไหน และใครดับวิญญาณัญจายตนสัญญาได้แล้วๆอยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโสภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงวิญญาณัญจายตนฌาน โดยประการทั้งปวง (๗) บรรลุอากิญจัญญายตนฌาน โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อะไรๆ หน่อยหนึ่งไม่มี วิญญาณัญจายตนสัญญาย่อมดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้น ดับวิญญาณัญจายตนสัญญาได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า อากิญจัญญายตนสัญญา ดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับอากิญ จัญญายตนสัญญา ได้แล้วๆ อยู่ในที่นั้น ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิวดับสนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้ว ด้วยองค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า อากิญจัญญาตน สัญญาดับในที่ไหน และใครดับอากิญจัญญายตนสัญญาได้แล้วๆอยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงอากิญจัญญายตนฌาน โดยประการทั้งปวง (๘) บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตน ฌาน อากิญจัญญายตน สัญญาดับในองค์ฌานนี้ และท่านเหล่านั้นดับอากิญจัญญายตน สัญญาได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่า ดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการ กระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้ เรากล่าวว่า เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา ดับในที่ใด และท่านเหล่าใด ดับเนว สัญญานา สัญญายตน สัญญา ได้แล้วๆ อยู่ ท่านเหล่านั้นไม่มีความหิวดับ สนิทแล้ว ข้ามได้แล้ว ถึงฝั่งแล้วด้วยองค์ฌานนี้เป็นแน่ ผู้ใดพึงถามอย่างนี้ว่า เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา ดับในที่ไหน และใครดับเนวสัญญานาสัญญายตน สัญญาได้แล้วๆ อยู่ เราไม่รู้ผู้นี้ เราไม่เห็นผู้นี้ เธอทั้งหลาย พึงตอบผู้นั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน โดยประการ ทั้งปวง (๙) บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธ เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาดับ ในนิโรธนี้ และท่าน เหล่านั้น ดับเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญาได้แล้วๆ อยู่

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเป็นผู้ไม่โอ้อวด ไม่มีมารยาเป็นแน่ พึงชื่นชมยินดี ภาษิตว่าดีแล้ว ครั้นแล้ว พึงนมัสการกระทำอัญชลีเข้าไปนั่งใกล้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปุพพวิหารสมาบัติ ๙ ประการนี้แล


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์