พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๖-๓๑๗
1 ปัตตสูตรที่ ๑
เหตุแห่งการคว่ำบาตร
[๑๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสก ผู้ประกอบ ด้วยองค์ ๘ ประการ องค์ ๘ ประการเป็นไฉน คือ
อุบาสกพยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
พยายามเพื่อความฉิบหายแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
พยายามเพื่อความอยู่ไม่ได้แก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
ย่อมด่าย่อมบริภาษภิกษุทั้งหลาย ๑
ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกจากภิกษุทั้งหลาย ๑
ติเตียนพระพุทธเจ้า ๑
ติเตียนพระธรรม ๑
ติเตียนพระสงฆ์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๖-๓๑๗
2 ปัตตสูตรที่ ๒
เหตุแห่งการหงายบาตร
[๑๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงหงายบาตรแก่อุบาสก ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ องค์ ๘ ประการเป็นไฉน คือ
อุบาสกไม่พยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
ไม่พยายามเพื่อความฉิบหายแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
ไม่พยายามเพื่อความอยู่ไม่ได้แก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
ไม่ด่าไม่บริภาษภิกษุทั้งหลาย ๑
ไม่ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกจากภิกษุทั้งหลาย ๑
สรรเสริญพระพุทธเจ้า ๑
สรรเสริญพระธรรม ๑
สรรเสริญพระสงฆ์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายสงฆ์หวังอยู่ พึงหงายบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๗-๓๑๘
3 อัปปสาทสูตร
เหตุที่ควรประกาศว่าไม่ควรเลื่อมใส
[๑๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกหวังอยู่ พึง ประกาศความไม่เลื่อมใสแก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุพยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
พยายามเพื่อความฉิบหายแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ด่าบริภาษคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ยุยงคฤหัสถ์ทั้งหลายให้แตกจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ติเตียนพระพุทธเจ้า ๑
ติเตียนพระธรรม ๑
ติเตียนพระสงฆ์ ๑
และเทวดาย่อมเห็นภิกษุนั้นโดยประการนั้น ๑ (ภิกษุไปในเส้นทางอโคจร)
ดูกรภิกษุทั้งหลายอุบาสกหวังอยู่ พึงประกาศความไม่เลื่อมใสแก่ภิกษุ ผู้ประกอบ ด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่
4 ปสาทสูตร
เหตุที่ควรประกาศว่าควรเลื่อมใส
[๑๙๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกหวังอยู่ พึง ประกาศความเลื่อมใสแก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุไม่พยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่พยายามเพื่อความฉิบหายแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่ด่าไม่บริภาษคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่ยุยงคฤหัสถ์ทั้งหลายให้แตกจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
สรรเสริญพระพุทธเจ้า ๑
สรรเสริญพระธรรม ๑
สรรเสริญพระสงฆ์ ๑
และเพราะเหตุนี้ เทวดาทั้งหลายย่อมสรรเสริญอุบาสกนั้น ๑ (ภิกษุไปในเส้นทางโคจร)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกหวังอยู่ พึงประกาศความเลื่อมใสแก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๘-๓๑๙
5 ปฏิสารณียสูตรที่ ๑
เหตุที่ควรลงปฏิสารณียกรรม
(ให้สงฆ์ขอขมาคฤหัสถ์)
[๑๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงกระทำ ปฏิสารณียกรรม แก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน คือ
พยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
พยายามเพื่อความฉิบหายแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ด่าบริภาษคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ยุยงคฤหัสถ์ทั้งหลายให้แตกจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ติเตียนพระพุทธเจ้า ๑
ติเตียนพระธรรม ๑
ติเตียนพระสงฆ์ ๑
ไม่ยังคำรับต่อคฤหัสถ์ที่ชอบธรรมให้เป็นจริง ๑ (ปฏิเสธคำชอบธรรมของคฤหัสถ์)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงกระทำปฏิสารณียกรรมแก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่
6 ปฏิสารณียสูตรที่ ๒
เหตุที่ควรลงปฏิสารณียกรรม
(ให้สงฆ์ระงับการขอขมาคฤหัสถ์)
[๑๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงระงับ ปฏิสารณียกรรม แก่ภิกษุ ผู้ประกอบ ด้วยธรรม ๘ ประการ ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุไม่พยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่พยายามเพื่อความฉิบหายแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่ด่าไม่บริภาษคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
ไม่ยุยงคฤหัสถ์ทั้งหลายให้แตกจากคฤหัสถ์ทั้งหลาย ๑
สรรเสริญพระพุทธเจ้า ๑
สรรเสริญพระธรรม ๑
สรรเสริญพระสงฆ์ ๑
และยังคำรับต่อคฤหัสถ์ที่ชอบธรรมให้เป็นจริง ๑ (รับคำชอบธรรมของคฤหัสถ์)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงระงับปฏิสารณียกรรมแก่ภิกษุ ผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๙-๓๒๒
7 วัตตสูตร
การลงโทษสงฆ์
[๒๐๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อันสงฆ์ ลงตัสสปาปิยสิกากรรม ต้องประพฤติชอบในธรรม ๘ ประการ คือ
ไม่พึงให้อุปสมบท ๑
ไม่พึงให้นิสัย ๑ (ให้การอบรมแนะนำ)
ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก ๑ (ปรนนิบัติ)
ไม่พึงยินดีการสมมติตน เป็นผู้ให้โอวาทภิกษุณี ๑
แม้ได้รับสมมติแล้ว ก็ไม่พึงโอวาทภิกษุณี ๑
ไม่พึงยินดีการได้รับสมมติจากสงฆ์ไรๆ ๑
ไม่พึงนิยมในตำแหน่งหัวหน้าตำแหน่งไรๆ ๑
ไม่พึงให้ประพฤติวุฏฐานพิธี เพราะตำแหน่งเดิมนั้น ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อันสงฆ์ ลงตัสสปาปิยสิกากรรมแล้ว พึงประพฤติชอบ ในธรรม ๘ ประการนี้
|