เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

นาคสูตร บุคคลไม่ทำชั่วด้วย กาย วาจา ใจ คือผู้ประเสริฐ ตรัสกับ พระกาลุทายี 2255
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

นาคสูตร บุคคลไม่ทำชั่วด้วย กาย วาจา ใจ คือผู้ประเสริฐ

ดูกรกาลุทายี มหาชนเห็นช้างเชือกใหญ่ สูงมีอวัยวะ สมบูรณ์บ้าง จึงได้กล่าวชมอย่างนี้ว่า ช้างเป็นสัตว์ประเสริฐหนอ มหาชนเห็นม้าตัวใหญ่ สูงบ้าง โคตัวใหญ่ สูงบ้าง งูตัวใหญ่ ยาวบ้าง ต้นไม้ใหญ่ สูงบ้าง มนุษย์ผู้มีร่างกายใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์บ้าง จึงได้กล่าวชมอย่างนี้ว่า ประเสริฐหนอ

ดูกรกาลุทายี อนึ่ง บุคคลใดไม่ทำความชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในโลกนี้ กับทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและ มนุษย์ เราเรียกบุคคลนั้นว่า ผู้ประเสริฐ

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๕๖-๓๕๙

๑. นาคสูตร

           [๓๑๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เวลาเช้าพระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี ครั้นเสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัตแล้ว ตรัสเรียกท่านพระอานนท์ว่า

           ดูกรอานนท์ มาเถิด เราจักเข้าไปยังปราสาทของมิคารมารดา ที่บุพพารามวิหาร เพื่อพักผ่อนกลางวัน ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค พร้อมกับท่านพระอานนท์ได้เสด็จเข้าไปยังปราสาทของมิคารมารดา ที่บุพพารามวิหาร ครั้งนั้น เวลาเย็น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้นแล้ว ตรัสเรียก ท่านพระอานนท์ว่า

           ดูกรอานนท์ มาเถิด เราจักไปยังท่าน้ำชื่อบุพพโกฏฐกะ เพื่อสรงน้ำ ท่านพระอานนท์ ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคพร้อมกับ ท่านพระอานนท์ ได้เสด็จเข้าไปยังท่าน้ำชื่อ บุพพโกฏฐกะ เพื่อสรงน้ำ ครั้นสรงแล้ว เสด็จขึ้นมา ทรงนุ่งอันตรวาสกได้ยืนผึ่งพระวรกายอยู่

           ก็สมัยนั้น พระเสวตกุญชร ของพระเจ้าปเสนทิโกศล ขึ้นมาจากท่าน้ำชื่อ บุพพโกฏฐกะ เพราะเสียงดนตรีใหญ่ที่เขาตีประโคม ก็มหาชนเห็นช้างนั้นแล้วกล่าวชม อย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ช้างของพระราชางามยิ่งนัก ช้างของพระราชาน่าดูนัก ช้างของพระราชาน่าเลื่อมใสนัก ช้างของพระราชามีอวัยวะสมบูรณ์

           เมื่อมหาชนกล่าวชมอย่างนี้แล้ว ท่านพระกาลุทายี ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มหาชนเห็นช้างเชือกใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์เท่านั้นหรือหนอ จึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า

            ดูกรท่านผู้เจริญ ช้างเป็นสัตว์ประเสริฐหนอ หรือว่ามหาชน เห็นสัตว์ บางอย่าง แม้อื่นที่ใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์ จึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ สัตว์นั้น ประเสริฐหนอ

           พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

            ดูกรกาลุทายี มหาชนเห็นช้างเชือกใหญ่ สูงมีอวัยวะ สมบูรณ์บ้าง จึงได้กล่าว ชมอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ช้างเป็นสัตว์ประเสริฐหนอ มหาชนเห็นม้าตัวใหญ่ สูงบ้าง โคตัวใหญ่ สูงบ้าง งูตัวใหญ่ ยาวบ้างต้นไม้ใหญ่ สูงบ้าง มนุษย์ผู้มีร่างกายใหญ่ สูง มีอวัยวะสมบูรณ์บ้าง จึงได้กล่าวชมอย่างนี้ว่า ประเสริฐหนอ

           ดูกรกาลุทายี อนึ่ง บุคคลใดไม่ทำความชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในโลกนี้ กับทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและ มนุษย์ เราเรียกบุคคลนั้นว่าผู้ประเสริฐ

           กา ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว คือ พระดำรัส ที่พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้ด้วยดีดังนี้ว่า ดูกรกาลุทายี อนึ่ง บุคคลใดไม่ทำความชั่วด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในโลกนี้กับทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เราเรียกบุคคลนั้นว่าผู้ประเสริฐ

           ท่านพระกาลุทายี กราบทูลต่อไปว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ข้าพระองค์ ขออนุโมทนาพระดำรัส ที่พระผู้มีพระภาค ตรัสดีแล้วนี้ ด้วยคาถาเหล่านี้ว่า ข้าพระองค์ ได้สดับจากพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ ดังนี้ว่า

            มนุษย์ทั้งหลายย่อมนอบน้อม พระสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้ เป็นมนุษย์ทรง ฝึกฝน พระองค์แล้ว มีจิตตั้งมั่น ดำเนินไปใน ทางประเสริฐ ทรงยินดีในธรรมที่ยังจิต ให้เข้าไปสงบ ทรง ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง แม้เทวดาทั้งหลายก็ย่อมนอบน้อม พระสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ก้าวล่วงสังโยชน์ ทั้งปวง ทรง ออกจากกิเลสเครื่องร้อยรัด ทรงบรรลุธรรมที่ไม่มีกิเลส เครื่องร้อยรัด ทรงยินดีในธรรมอันเป็นที่ออกไปจากกาม ทั้งหลาย คล้ายทองคำที่ถลุงจากหิน ฉะนั้น

           พระองค์เป็น ผู้ประเสริฐ รุ่งเรืองล่วงสรรพสัตว์ คล้ายขุนเขาหิมวัน สูง กว่าภูเขา ศิลา ลูกอื่น ฉะนั้น พระองค์ผู้ทรงนามว่านาคะอัน เป็นจริงนี้เป็นผู้ยิ่งกว่าเทวดาทั้งปวง ผู้มีนามว่านาคะ ข้า พระองค์จักชี้แจงซึ่งความที่พระองค์เป็นผู้เปรียบด้วยช้าง เพราะ พระองค์ไม่ทรงทำความชั่วโสรัจจะและอวิหิงสา เป็นเท้าหน้าทั้งสองของพระองค์ผู้เป็น เพียง ดังช้างตัวประเสริฐ ตบะ และ พรหมจรรย์เป็นเท้าหลังทั้งสองของพระองค์ผู้เป็น ช้างตัวประเสริฐ

           พระองค์ผู้เป็นช้างตัวประเสริฐอย่างยอด เยี่ยม มีศรัทธาเป็นงวง มีอุเบกขา เป็นงา อันขาว มีสติ เป็นคอ มีปัญญาเป็นเศียร มีการสอดส่องธรรมเป็นปลาย งวง มีธรรมเครื่องเผากิเลสเป็นท้อง มีวิเวกเป็นหาง พระองค์ทรงมีฌาน ทรงยินดีในผล สมาบัติเป็นลมหายใจ

           ทรงมีจิตเข้าไปตั้งมั่นภายใน ทรงดำเนินไปก็มีจิตตั้งมั่น ทรงยืน อยู่ก็มีจิตตั้งมั่น ทรงบรรทมก็มีจิตตั้งมั่น แม้ประทับนั่ง ก็มีจิตตั้งมั่น ทรงสำรวมแล้วในทวารทั้งปวง นี้เป็นสมบัติ ของพระองค์ผู้เป็นช้างตัวประเสริฐ

           พระองค์ผู้เป็นช้างตัว ประเสริฐย่อมเสวยสิ่งที่ไม่มีโทษ ไม่เสวยสิ่งที่มีโทษ ได้ อาหารและเครื่องนุ่งห่มแล้ว ทรงเว้นการสะสม ทรงตัด สังโยชน์น้อยใหญ่ ทรงตัดเครื่อง ผูกพันทั้งปวง จะเสด็จไป ทางใดๆ ก็ไม่มีห่วงใยเสด็จไป ดอกบัวชื่อบุณฑริก มีกลิ่น หอม น่ารื่นรมย์ใจ เกิดในน้ำ เจริญในน้ำ ไม่แปดเปื้อนด้วยน้ำ แม้ฉันใด พระองค์ผู้เป็น ช้างตัวประเสริฐ ก็ฉันนั้น

           ทรงอุบัติ ขึ้นมาดีแล้วในโลก ก็ทรงเบิกบานอยู่ในโลก อันตัณหา มานะ ทิฐิไม่ ฉาบทาพระองค์ให้ติดอยู่กับโลก เหมือนดอกประทุมไม่ เปียกน้ำ ฉะนั้น ไฟกองใหญ่ ลุกรุ่งโรจน์ ย่อมดับเพราะหมด เชื้อ ฉันใด พระองค์ผู้เป็นช้างตัวประเสริฐก็ฉันนั้น คือ เมื่อสังขารทั้งหลายสงบแล้ว ก็เรียกกันว่าเสด็จนิพพาน

            ข้ออุปมาที่ให้รู้เนื้อความแจ้ง ชัดนี้ อันวิญญูชนทั้งหลาย แสดงไว้แล้ว พระอรหันต์ ผู้เป็นช้างตัวประเสริฐอย่างยอด เยี่ยมทั้งหลาย ย่อมรู้แจ้งชัดซึ่งพระองค์ ผู้เป็น ช้างตัวประเสริฐ ซึ่งพระกาลุทายีผู้เป็นช้าง ตัวประเสริฐ แสดงไว้แล้ว

           พระองค์ผู้เป็นช้างตัวประเสริฐ ทรงปราศจากราคะ ทรง ปราศจากโทสะ ทรงปราศจากโมหะ ทรงหาอาสวกิเลส มิได้ เมื่อทรงละสรีระ ก็ทรงหาอาสวกิเลสมิได้ จัก เสด็จปรินิพพาน


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์