เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

เสกขสูตรธรรมของพระเสขะเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุเสขะ อปริหานิยสูตร ธรรมะของเทวดาที่ศาสดารับรอง 2251
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

เสกขสูตร ธรรมะของพระเสขะ
ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อม แก่ภิกษุผู้เสขะ
ชอบการงาน ชอบคุย ชอบหลับ ชอบคลุกคลี ไม่คุ้มครองอินทรีย์ ไม่รู้ประมาณในโภชนะ

อปริหานิยสูตรที่ ๑ ธรรมะของเทวดาที่พระพุทธเจ้ารับรอง
ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม แก่ภิกษุ
๑ ความเป็นผู้เคารพในพระศาสดา
๒ ความเป็นผู้เคารพในพระธรรม
๓ ความเป็นผู้เคารพในพระสงฆ์
๔ ความเป็นผู้เคารพในสิกขา
๕ ความเป็นผู้เคารพในความไม่ประมาท
๖ ความเป็นผู้เคารพในปฏิสันถาร


อปริหานิยสูตรที่ ๒ ธรรมะของเทวดาที่พระพุทธเจ้ารับรอง
ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ
๑ ความเป็นผู้เคารพในพระศาสดา
๒ ความเป็นผู้เคารพในพระธรรม
๓ ความเป็นผู้เคารพในพระสงฆ์
๔ ความเป็นผู้เคารพในสิกขา
๕ ความเป็นผู้เคารพในหิริ
๖ ความเป็นผู้เคารพในโอตตัปปะ


(สูตร ๑ กับสูตร ๒ ต่างกันที่ข้อ ๕ และข้อ ๖)

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๐

๑. เสกขสูตร

            [๓๐๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อม แก่ภิกษุผู้เสขะ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ความเป็นผู้ชอบการงาน
๒ ความเป็นผู้ชอบคุย
๓ ความเป็นผู้ชอบหลับ
๔ ความเป็นผู้ชอบคลุกคลีด้วยหมู่คณะ
๕ ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย
๖ ความเป็นผู้ไม่รู้ประมาณในโภชนะ


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อม แก่ภิกษุ ผู้เสขะ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ ภิกษุ ผู้เสขะ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ความเป็นผู้ไม่ชอบการงาน
๒ ความเป็นผู้ไม่ชอบคุย
๓ ความเป็นผู้ไม่ชอบความหลับ
๔ความเป็นผู้ไม่ชอบการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ
๕ ความเป็นผู้คุ้มครองทวารอินทรีย์ทั้งหลาย
๖ ความเป็นผู้รู้จักประมาณในโภชนะ


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ ผู้เสขะ


----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๐-๓๔๑

๒. อปริหานิยสูตรที่ ๑

            [๓๐๓] ครั้งนั้น เทวดาตนหนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวัน ทั้งสิ้น ให้สว่างไสว แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว ยืนอยู่ ณ ที่อันควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

             ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม แก่ภิกษุ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ความเป็นผู้เคารพในพระศาสดา
๒ ความเป็นผู้เคารพในพระธรรม
๓ ความเป็นผู้เคารพในพระสงฆ์
๔ ความเป็นผู้เคารพในสิกขา
๕ ความเป็นผู้เคารพในความไม่ประมาท
๖ ความเป็นผู้เคารพในปฏิสันถาร

            ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม แก่ภิกษุ เทวดานั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว พระศาสดาทรงพอพระทัยลำดับนั้น เทวดาตนนั้น ทราบว่า พระศาสดาของเราทรงพอพระทัยแล้ว จึงถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณแล้ว หายไป ณ ที่นั้น

            ครั้นพอล่วงราตรีนั้นไป พระผู้มีพระภาค จึงตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เทวดาตนหนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีงามยิ่ง ยังวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว แล้วเข้ามาหาเราถึงที่อยู่ อภิวาทแล้ว ยืนอยู่ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

             ครั้นแล้วได้กล่าวกะเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ประการนี้ ย่อมเป็นไป เพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ความเป็นผู้เคารพในพระศาสดา
๒ ความเป็นผู้เคารพในพระธรรม
๓ ความเป็นผู้เคารพในพระสงฆ์
๔ ความเป็นผู้เคารพในสิกขา
๕ ความเป็นผู้เคารพในความไม่ประมาท
๖ ความเป็นผู้เคารพในปฏิสันถาร

            ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ ภิกษุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาตนนั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว อภิวาทเรา ทำประทักษิณแล้ว ได้หายไป ณ ที่นั้น

            ภิกษุผู้เคารพในพระศาสดา เคารพในพระธรรม เคารพอย่าง แรงกล้าใน พระสงฆ์ เคารพในความไม่ประมาท เคารพในปฏิสันถาร ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อเสื่อม ย่อมมี ณ ที่ใกล้ นิพพานทีเดียว


----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๔๑-๓๔๒

๓. อปริหานิยสูตรที่ ๒

            [๓๐๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เทวดาตนหนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว มีรัศมีงามยิ่งนัก ยังวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว แล้วเข้ามาหาเราถึงที่อยู่ อภิวาท แล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะเราว่า

             ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ความเป็นผู้เคารพในพระศาสดา
๒ ความเป็นผู้เคารพในพระธรรม
๓ ความเป็นผู้เคารพในพระสงฆ์
๔ ความเป็นผู้เคารพในสิกขา
๕ ความเป็นผู้เคารพในหิริ
๖ ความเป็นผู้เคารพในโอตตัปปะ

            ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม แก่ภิกษุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดานั้น ครั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว อภิวาทเราทำประทักษิณ แล้วหายไป ณ ที่นั้นแล

            ภิกษุผู้เคารพในพระศาสดา เคารพในพระธรรม เคารพ อย่างแรงกล้าใน พระสงฆ์ ถึงพร้อมด้วยหิริและโอตตัปปะ มีความยำเกรง มีความเคารพ ย่อมเป็นผู้ไม่ ควรเพื่อเสื่อม ย่อมมีในที่ใกล้นิพพานทีเดียว

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์