พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๔
๑. ทีฆจาริกสูตรที่ ๑
การจาริกนานกับจาริกไปมีกำหนด
[๒๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของภิกษุผู้ประกอบการเที่ยวไปนาน การเที่ยวไปไม่มีกำหนด ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมไม่ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
๒ ย่อมไม่เข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว
๓ ย่อมไม่แกล้วกล้าด้วยสิ่งที่ได้ฟังแล้วบางประการ
๔ ย่อมได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก
๕ ย่อมไม่มีมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของภิกษุผู้ประกอบการเที่ยวไปนาน การเที่ยวไปไม่มีกำหนด๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเที่ยวไปมีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
๒ ย่อมเข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว
๓ ย่อมแกล้วกล้าด้วยสิ่งที่ได้ฟังแล้วบางประการ
๔ ย่อมไม่ได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก
๕ ย่อมมีมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเที่ยวไปมีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๔-๒๖๕
๒. ทีฆจาริกสูตรที่ ๒
การจาริกไปนาน
[๒๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของภิกษุผู้ประกอบการเที่ยวไปนาน การเที่ยวไปไม่มีกำหนด ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมไม่ได้บรรลุคุณวิเศษที่ยังไม่ได้บรรลุ
๒ ย่อมเสื่อมจากคุณวิเศษที่ได้บรรลุแล้ว
๓ ย่อมไม่แกล้วกล้าด้วยคุณวิเศษที่ได้บรรลุแล้วบางประการ
๔ ย่อมได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก
๕ ย่อมไม่มีมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของภิกษุผู้ประกอบการ เที่ยวไปนาน การเที่ยวไป ไม่มีกำหนด ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเที่ยวไป มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมได้บรรลุคุณวิเศษที่ยังไม่ได้บรรลุ
๒ ย่อมไม่เสื่อมจากคุณวิเศษที่ได้บรรลุแล้ว
๓ ย่อมแกล้วกล้าด้วยคุณวิเศษที่ได้บรรลุแล้วบางประการ
๔ ย่อมไม่ได้รับโรคเรื้อรังอย่างหนัก
๕ ย่อมมีมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการเที่ยวไป มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๕
๓. อภินิวาสสูตร
โทษในการอยู่ประจำที่นาน
[๒๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในการอยู่ประจำที่ ๕ ประการนี้๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุอยู่ประจำที่ย่อมมีสิ่งของมาก มีการสะสมสิ่งของมาก
๒ มีเภสัชมาก มีการสะสมเภสัชมาก
๓ มีกิจมาก มีกรณียมาก ไม่ฉลาดในกิจที่จะต้องทำ
๔ ย่อมอยู่คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต ด้วยการคลุกคลีกับคฤหัสถ์อันไม่สมควร
๕ เมื่อจะหลีกไปจากอาวาสนั้น ย่อมมีความห่วงใยหลีกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในการอยู่ประจำที่ ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการอยู่มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุผู้อยู่มีกำหนดพอสมควร ย่อมไม่มีสิ่งของมาก ไม่มีการสะสมสิ่งของมาก
๒ ไม่มีเภสัชมาก ไม่มีการสะสมเภสัชมาก ๓ ไม่มีกิจมาก ไม่มีกรณียมาก ฉลาดในกิจ ที่จะต้องทำ
๔ ไม่เป็นผู้คลุกคลีด้วยคฤหัสถและบรรพชิต ด้วยการคลุกคลี กับคฤหัสถ์ อันไม่สมควร
๕ เมื่อจะหลีกไปจากอาวาสนั้น ไม่มีความห่วงใยหลีกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการอยู่มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๕-๒๖๖
๔. มัจฉรสูตร
อยู่ปรำที่นานจึงตระหนี่
[๒๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในการอยู่ประจำที่ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุผู้อยู่ประจำที่เป็นผู้ตระหนี่ที่อยู่
๒ ตระหนี่สกุล
๓ ตระหนี่ลาภ
๔ ตระหนี่วรรณะ
๕ ตระหนี่ธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในการอยู่ประจำที่ ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการอยู่มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุผู้อยู่มีกำหนดพอสมควร เป็นผู้ไม่ตระหนี่ที่อยู่
๒ ไม่ตระหนี่สกุล
๓ ไม่ตระหนี่ลาภ
๔ ไม่ตระหนี่วรรณะ
๕ ไม่ตระหนี่ธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในการอยู่มีกำหนดพอสมควร ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๖
๕. กุลุปกสูตรที่ ๑
โทษของภิกษุผู้เข้าสู่สกุล
[๒๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้ มีอยู่ใน ภิกษุผู้เข้าสู่สกุล
๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุผู้เข้าไปสู่สกุลย่อมต้องอาบัติเพราะเที่ยวไปโดยไม่บอกลา
๒ ย่อมต้องอาบัติเพราะนั่งในที่ลับหูกับมาตุคาม
๓ ย่อมต้องอาบัติเพราะนั่งในที่ลับตากับมาตุคาม
๔ เมื่อแสดงธรรมแก่มาตุคามเกินกว่า ๕-๖ คำย่อมต้องอาบัติ *
๕ ย่อมมากด้วยความดำริในกามอยู่
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ประการนี้แล มีอยู่ในภิกษุผู้เข้าไปสู่สกุล
* เรื่องนี้อยู่ในพระวินัย ดังนั้นการแสดงธรรมของภิกษุ(เมื่อมาสู่สกุล) จึงต้องมีบุรุษมานั่งฟังอยู่ด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๖
๖. กุลุปกสูตรที่ ๒
ภิกษุผู้เข้าไปสู่สกุลเกินเวลา
[๒๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้ ย่อมมีแก่ ภิกษุผู้เข้าไปสู่สกุล คลุกคลีอยู่ในสกุลเกินเวลา ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ การเห็นมาตุคามเนืองๆ
๒ เมื่อมีการเห็นย่อมมีการเกี่ยวข้อง
๓ เมื่อมีการเกี่ยวข้องย่อมมีการคุ้นเคย
๔ เมื่อมีการคุ้นเคยย่อมมีจิตจดจ่อ
๕ เมื่อมีจิตจดจ่อแล้วพึงหวังผลข้อนี้คือ เธอย่อมไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ จักต้องอาบัติที่เศร้าหมอง หรือจักบอกคืนสิกขาลาเพศ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้แล ย่อมมีแก่ภิกษุผู้เข้าไปสู่สกุล คลุกคลีอยู่ในสกุลเกินเวลา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๗
๗. โภคสูตร
โทษและอานิสสงส์เพราะโภคทรัพย์
[๒๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะโภคทรัพย์ ๕ ประการนี้๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ โภคทรัพย์เป็นของทั่วไปแก่ไฟ
๒ เป็นของทั่วไปแก่น้ำ
๓ เป็นของทั่วไปแก่พระราชา
๔ เป็นของทั่วไปแก่โจร
๕ เป็นของทั่วไปแก่ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในเพราะโภคทรัพย์ ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในเพราะโภคทรัพย์ ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ เพราะอาศัยโภคทรัพย์ บุคคลจึงเลี้ยงตนให้เป็นสุข เอิบอิ่มบริหารให้เป็นสุข ได้โดยชอบ
๒ เลี้ยงมารดาบิดาให้เป็นสุข เอิบอิ่ม บริหารให้เป็นสุขได้โดยชอบ
๓ เลี้ยงบุตรภรรยา คนใช้ คนงาน และบริวารให้เป็นสุขเอิบอิ่ม บริหารให้เป็นสุขได้ โดยชอบ
๔ เลี้ยงมิตรและอำมาตย์ ให้เป็นสุขเอิบอิ่ม บริหารให้เป็นสุขได้โดยชอบ
๕ ย่อมบำเพ็ญทักษิณาทาน ที่มีผลเลิศเป็นทางสวรรค์ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ ในสมณพราหมณ์ทั้งหลาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ในเพราะโภคทรัพย์ ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๗-๒๖๘
๘. ภัตตสูตร
สกุลหุงอาหารสาย กับหุงตามเวลา
[๒๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้ มีอยู่ในสกุลที่หุงต้มอาหาร ในเวลาสาย ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมไม่ได้ต้อนรับแขกที่ควรต้อนรับตามเวลา
๒ ไม่ได้บูชาเทวดาผู้รับพลีตามเวลา
๓ ไม่ได้ต้อนรับสมณพราหมณ์ ผู้ฉันหนเดียว งดการฉันในเวลากลางคืน เว้นการฉันในเวลาวิกาลตามเวลา
๔ พวกคนใช้ คนงาน และบริวารหลบหน้าทำการงาน
๕ อาหารที่บริโภคตามเวลาที่ไม่ควรเช่นนั้นไม่มีโอชา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษ ๕ ประการนี้แล มีอยู่ใน สกุลที่หุงต้มอาหารในเวลาสาย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการนี้ มีอยู่ในสกุลที่หุงต้มอาหาร ตามเวลา ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ย่อมได้ต้อนรับแขกที่ควรต้อนรับตามเวลา
๒ ย่อมได้บูชาเทวดาผู้รับพลีตามเวลา
๓ ย่อมได้ต้อนรับสมณพราหมณ์ผู้ฉันหนเดียว งดการฉันในเวลากลางคืน เว้นการฉัน ในเวลาวิกาลตามเวลา
๔ คนใช้ คนงานและบริวารย่อมไม่หลบหน้าทำการงาน
๕ อาหารที่บริโภคตามเวลาที่ควรเช่นนั้นย่อมมีโอชา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๕ ประการนี้แล มีอยู่ในสกุลที่หุงต้มอาหารตามเวลา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๘
๙. สัปปสูตรที่ ๑
มาตุคามเปรียบเหมือนงูเห่า
[๒๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในงูเห่า ๕ ประการนี้ ๕ ประการ เป็นไฉน คือ
๑ เป็นสัตว์ไม่สะอาด
๒ มีกลิ่นเหม็น
๓ มีความน่ากลัวมาก
๔ มีภัยเฉพาะหน้า
๕ มักประทุษร้ายมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในงูเห่า ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในมาตุคาม ๕ ประการฉันนั้นเหมือนกัน ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ เป็นผู้ไม่สะอาด
๒ มีกลิ่นเหม็น
๓ มีความน่ากลัวมาก
๔ มีภัยเฉพาะหน้า
๕ มักประทุษร้ายมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในมาตุคาม ๕ ประการนี้แล
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๘-๒๖๙
๑๐. สัปปสูตรที่ ๒
มาตุคามเปรียบเหมือนงูเห่า
[๒๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในงูเห่า ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ เป็นสัตว์มักโกรธ
๒ มักผูกโกรธ
๓ มีพิษร้าย
๔ มีสองลิ้น
๕ มักประทุษร้ายมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในงูเห่า ๕ ประการนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษในมาตุคาม ๕ ประการนี้ฉันนั้นเหมือนกัน ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ เป็นผู้มักโกรธ
๒ มักผูกโกรธ
๓ มีพิษร้าย
๔ มีสองลิ้น
๕ มักประทุษร้ายมิตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในโทษ ๕ ประการนั้น ความที่มาตุคามเป็นผู้มีพิษร้าย คือ โดยมากมาตุคามมีราคะจัด ความที่มาตุคามเป็นผู้มีสองลิ้น คือ โดยมากมาตุคาม มีวาจาส่อเสียด ความที่มาตุคามเป็นผู้มักประทุษร้ายมิตร คือ โดยมากมาตุคาม มักประพฤตินอกใจ
ดูกรภิกษุทั้งหลายโทษในมาตุคาม ๕ ประการนี้แล
|