พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙๔-๑๙๖ (ฉบับมหาจุฬา)
อัจฉริยสูตรที่ ๑
ว่าด้วยเหตุอัศจรรย์ของพระตถาคต สูตรที่ ๑
[๑๒๗] ภิกษุทั้งหลาย เหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. เมื่อพระโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต มีสติสัมปชัญญะ เสด็จลงสู่ พระครรภ์ ของพระมารดา แสงสว่างโอฬารประมาณไม่ได้ เกินเลยอานุภาพของ เทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏขึ้นในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก และ หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดา และมนุษย์ แม้แต่โลกันตริกนรก ซึ่งเปิดตลอด ไม่มีอะไรปิดกั้น มืดมิด มองไม่เห็นอะไรที่แสงสว่างแห่งดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ อันมีฤทธิ์มากอย่างนี้ มีอานุภาพมากอย่างนี้ยังส่องไปไม่ถึง แต่แสงสว่างโอฬาร ประมาณไม่ได้ ล่วงเลยอานุภาพของเทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏในโลกันตริกนรกนั้น แม้พวกสัตว์ที่เกิดในโลกันตริกนรกนั้น จำกันและกันได้ เพราะแสงสว่างนั้นว่า “ท่านผู้เจริญ ทราบว่า สัตว์แม้เหล่าอื่นที่เกิดในที่นี้มีอยู่ (ไม่ใช่มีแต่เรา) ” นี้เป็นเหตุ อัศจรรย์ ไม่เคย ปรากฏ ประการที่ ๑ ย่อมปรากฏเพราะความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. เมื่อพระโพธิสัตว์มีสติสัมปชัญญะ ประสูติจากพระครรภ์ ของ พระมารดา แสงสว่างโอฬารประมาณไม่ได้ เกินเลยอานุภาพของ เทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏขึ้นในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก และ หมู่สัตว์พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์เทวดา และมนุษย์ แม้แต่โลกันตริกนรก ซึ่งเปิดตลอด ไม่มีอะไรปิดกั้น มืดมิด มองไม่เห็นอะไรที่แสงสว่างแห่งดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ อันมีฤทธิ์มาก อย่างนี้ มีอานุภาพมากอย่างนี้ยังส่องไปไม่ถึง แต่แสงสว่างโอฬาร ประมาณไม่ได้ ล่วงเลยอานุภาพของเทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏในโลกันตริกนรกนั้น แม้พวกสัตว์ ที่เกิดในโลกันตริกนรกนั้น จำกันและกันได้ เพราะแสงสว่างนั้นว่า “ท่านผู้เจริญ ทราบว่า สัตว์แม้เหล่าอื่นที่เกิดในที่นี้มีอยู่” นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏประการที่ ๒ ย่อมปรากฏเพราะ ความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๓. เมื่อตถาคตทรงบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ แสงสว่างโอฬาร ประมาณไม่ได้ เกินเลยอานุภาพของ เทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏขึ้นในโลกพร้อมทั้ง เทวโลก มารโลก พรหมโลก และ หมู่สัตว์พร้อมทั้ง สมณพราหมณ์เทวดา และมนุษย์ แม้แต่โลกันตริกนรก ซึ่งเปิดตลอด ไม่มีอะไรปิดกั้น มืดมิด มองไม่เห็นอะไร ที่ แสงสว่างแห่งดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ อันมีฤทธิ์มาก อย่างนี้ มีอานุภาพมาก อย่างนี้ ยังส่องไปไม่ถึง แต่แสงสว่างโอฬาร ประมาณไม่ได้ ล่วงเลยอานุภาพของ เทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏในโลกันตริกนรกนั้น แม้พวกสัตว์ ที่เกิดใน โลกันตริกนรก นั้น จำกันและกันได้ เพราะแสงสว่างนั้นว่า “ท่านผู้เจริญ ทราบว่า สัตว์แม้เหล่าอื่น ที่เกิดในที่นี้มีอยู่” นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏประการที่ ๓ ย่อมปรากฏเพราะ ความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๔. เมื่อตถาคตทรงประกาศธรรมจักร อันยอดเยี่ยม แสงสว่างโอฬาร ประมาณ ไม่ได้ เกินเลยอานุภาพของเทวดาทั้งหลาย ย่อมปรากฏในโลกพร้อมทั้ง เทวโลก มารโลก พรหมโลก และหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ แม้แต่โลกันตริกนรกซึ่งเปิดตลอด ไม่มีอะไรปิดกั้น มืดมิด มองไม่เห็นอะไร ที่แสงสว่างแห่งดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์มีฤทธิ์มากอย่างนี้ มีอานุภาพมากอย่างนี้ ยังส่องไปไม่ถึง แต่แสงสว่างโอฬาร ประมาณไม่ได้ ล่วงเลยอานุภาพของเทวดา ทั้งหลาย ย่อมปรากฏในโลกันตริกนรกนั้นแม้พวกสัตว์ ที่เกิดในโลกันตริกนรกนั้น จำกันและกันได้ เพราะแสงสว่างนั้นว่า “ท่านผู้เจริญ ทราบว่า สัตว์แม้เหล่าอื่นที่เกิด ในที่นี้มีอยู่” นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏประการที่ ๔ ย่อมปรากฏเพราะความ ปรากฏ ของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ภิกษุทั้งหลาย เหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้แลย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙๖-๑๙๗ (ฉบับมหาจุฬา)
อัจฉริยสูตรที่ ๒
ว่าด้วยเหตุอัศจรรย์ของพระตถาคต สูตรที่ ๒
[๑๒๘] ภิกษุทั้งหลาย เหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. หมู่สัตว์ผู้ยังหมกมุ่นในอาลัย ยินดีในอาลัย บันเทิงในอาลัย เมื่อ ตถาคตแสดงธรรม ที่ไม่มีอาลัย ก็ตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตสดับ ตั้งใจใฝ่รู้ นี้เป็นเหตุ อัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏประการที่ ๑ ย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. หมู่สัตว์ผู้ยังหมกมุ่นในความถือตัว ยินดีในความถือตัว บันเทิงใน ความถือตัว เมื่อตถาคตแสดงธรรม ที่กำจัดความถือตัว ก็ตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตสดับ ตั้งใจใฝ่รู้ นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏประการที่ ๒ ย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏ ของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๓. หมู่สัตว์ผู้ยังหมกมุ่นในความไม่สงบ ยินดีในความไม่สงบ บันเทิงใน ความไม่สงบ เมื่อตถาคตแสดงธรรมที่เป็นไปเพื่อความสงบ ก็ตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสต สดับ ตั้งใจใฝ่รู้ นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏประการที่ ๓ ย่อมปรากฏ เพราะความ ปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
๔. หมู่สัตว์ผู้ยังตกอยู่ในอวิชชาเป็นผู้มืดบอด ถูกอวิชชาหุ้มห่อ เมื่อ ตถาคตแสดงธรรมที่กำจัดอวิชชา ก็ตั้งใจฟังด้วยดี เงี่ยโสตสดับตั้งใจใฝ่รู้ นี้เป็นเหตุ อัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏประการที่ ๔ ย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของตถาคต อรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า
ภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นเหตุอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้แลย่อมปรากฏ เพราะความปรากฏของ ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙๗-๑๙๘ (ฉบับมหาจุฬา)
อัจฉริยสูตรที่ ๓
ว่าด้วยความเป็นอัจฉริยะของพระอานนท์
[๑๒๙] ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอัจฉริยะ ไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้ มีอยู่ในอานนท์ ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. ถ้าภิกษุบริษัท เข้าพบอานนท์ แม้เพียงได้พบก็มีใจยินดี ถ้าอานนท์ แสดงธรรมในภิกษุบริษัทนั้น แม้เพียงแสดงธรรมก็มีใจยินดีภิกษุบริษัทยังไม่เต็มอิ่ม เมื่ออานนท์หยุดแสดง
๒. ถ้าภิกษุณีบริษัท เข้าพบอานนท์ แม้เพียงได้พบก็มีใจยินดีถ้าอานนท์ แสดงธรรมในภิกษุณีบริษัทนั้น แม้เพียงแสดงธรรมก็มีใจยินดี ภิกษุณีบริษัทยังไม่ เต็มอิ่ม เมื่ออานนท์หยุดแสดง (อยากให้แสดงธรรมต่อไปอีก)
๓. ถ้าอุบาสกบริษัท เข้าพบอานนท์ แม้เพียงได้พบก็มีใจยินดีถ้าอานนท์ แสดงธรรมในอุบาสกบริษัทนั้น แม้เพียงแสดงธรรมก็มีใจยินดี อุบาสกบริษัทยังไม่ เต็มอิ่ม เมื่ออานนท์หยุดแสดง
๔. ถ้าอุบาสิกาบริษัท เข้าพบอานนท์ แม้เพียงได้พบก็มีใจยินดีถ้าอานนท์ แสดงธรรมในอุบาสิกาบริษัทนั้น แม้เพียงแสดงธรรมก็มีใจยินดี อุบาสิกาบริษัท ยังไม่ เต็มอิ่ม เมื่ออานนท์หยุดแสดง
ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้แลมีอยู่ในอานนท์
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๙๘-๑๙๙ (ฉบับมหาจุฬา)
อัจฉริยสูตรที่ ๔
ว่าด้วยความเป็นอัจฉริยะของพระเจ้าจักรพรรดิ
[๑๓๐] ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้มีอยู่ใน พระเจ้าจักรพรรดิ ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
๑. ถ้าขัตติยบริษัท เข้าเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ แม้เพียงได้เข้าเฝ้าก็มีใจยินดี ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระราชปฏิสันถาร ในขัตติยบริษัทนั้น แม้เพียงมีพระราช ปฏิสันถารก็มีใจยินดี ขัตติยบริษัทยังไม่เต็มอิ่มเมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงนิ่ง (อยากให้มี พระราชปฏิสันถารต่อไปอีก)
๒. ถ้าพราหมณบริษัท เข้าเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ แม้เพียงได้เข้าเฝ้าก็มีใจ ยินดี ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระราชปฏิสันถาร ในพราหมณบริษัทนั้น แม้เพียงมี พระราชปฏิสันถารก็มีใจยินดี พราหมณบริษัทยังไม่เต็มอิ่ม เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงนิ่ง
๓. ถ้าคหบดีบริษัท เข้าเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ แม้เพียงได้เข้าเฝ้าก็มีใจยินดี ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระราชปฏิสันถาร ในคหบดีบริษัทนั้น แม้เพียงมีพระราช ปฏิสันถาร ก็มีใจยินดี คหบดีบริษัทยังไม่เต็มอิ่ม เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงนิ่ง
๔. ถ้าสมณบริษัท เข้าเฝ้าพระเจ้าจักรพรรดิ แม้เพียงได้เข้าเฝ้า ก็มีใจยินดี ถ้าพระเจ้าจักรพรรดิ มีพระราชปฏิสันถาร ในสมณบริษัทนั้น แม้เพียงมีพระราช ปฏิสันถาร ก็มีใจยินดี สมณบริษัทยังไม่เต็มอิ่ม เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงนิ่ง
ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการนี้แลมีอยู่ใน พระเจ้าจักรพรรดิ
ภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอัจฉริยะไม่เคยปรากฏ ๔ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน แล มีอยู่ในอานนท์ |