เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

เรื่องที่ไม่ทรงพยากรณ์ (มีหลายพระสูตร) 1634
  (ย่อ)

เรื่องที่ไม่ทรงพยากรณ์ (เรื่องที่ปริพาชกถาม แต่ทรงนิ่งเสีย ไม่ตอบ)
เรื่องที่ไม่ทรงตอบ มี 10 เรื่อง เรียกว่า
"มิจฉาทิฏฐิ ๑๐" เป็นความเห็นผิดใน 10 เรื่อง

ทรงแสดงธรรมไว้กับหลายๆครั้ง เช่น
วัจฉะสูตร P972  ตรัสกับวัชฉะ /พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ สุตตันตปิฎก หน้า ๓๙๕
เขมาเถรีสูตร P1437  ตรัสกักับเขมาภิกษุณี /พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๘ หน้า ๔๐๓
อนุราธสูตร P1633  ตรัสกับพระอนุรุธ /พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๗ หน้า ๑๑๒
อุตติยสูตร P1634  ตรัสกับอุตติยปริพาชก /พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ สุตตันต หน้า ๑๖๕
เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๖๕

อุตติยสูตร
เรื่องที่ไม่ทรงพยากรณ์

            [๙๕] ครั้งนั้นแล อุตติยปริพาชก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันไปแล้วจึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านโคดมผู้เจริญ โลกเที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่าหรือหนอ พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ดูกรอุตติยะ ข้อนี้เราไม่พยากรณ์


อุ. ท่านโคดมผู้เจริญ ก็โลกไม่เที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่าหรือ
พ. ดูกรอุตติยะ แม้ข้อนี้เราก็ไม่พยากรณ์

อุ. ท่านโคดมผู้เจริญ โลกมีที่สุด ... โลกไม่มีที่สุด ... ชีพอันนั้นสรีระอันนั้น ...ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง ... สัตว์เมื่อตายแล้ว ย่อมเป็นอีก ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีกก็มีไม่เป็นอีกก็มี ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่าหรือ
พ. ดูกรอุตติยะ แม้ข้อนี้เราก็ไม่พยากรณ์

อุ. ท่านถูกเราถามว่า ท่านโคดมผู้เจริญ โลกเที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริงสิ่งอื่นเปล่าหรือหนอ ก็ตรัสตอบว่า ดูกรอุตติยะ ข้อนี้เราไม่พยากรณ์

เมื่อถูกถามว่า ท่านโคดมผู้เจริญก็โลกไม่เที่ยง สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่าหรือ ก็ตรัสตอบ ว่า ดูกรอุตติยะ ข้อนี้เราก็ไม่พยากรณ์เมื่อถูกถามว่า ท่านโคดมผู้เจริญ โลกมีที่สุด ... โลกไม่มีที่สุด ... ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น ...ชีพอย่างหนึ่ง สรีระก็อย่างหนึ่ง ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีก ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่เป็นอีกก็มี ... สัตว์เมื่อตายแล้วย่อมเป็นอีก ก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีกก็หามิได้ สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่าหรือหนอ
ก็ตรัสตอบว่า ดูกรอุตติยะ แม้ข้อนี้เราก็ไม่พยากรณ์

เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านโคดมผู้เจริญจะพยากรณ์ในทางไหน

            พ. ดูกรอุตติยะ เราย่อมแสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความหมดจด แห่งสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงเสียซึ่งความโศกและความร่ำไร เพื่อความดับสูญ แห่งทุกข์ และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง พระนิพนาน

            อุ. ด้วยข้อที่พระโคดมผู้เจริญ ได้ทรงแสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย... เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน นั้น โลกทั้งหมด หรือกึ่งหนึ่ง หรือสามส่วนจักออกไปจากทุกข์ได้ เมื่ออุตติยปริพาชก กราบทูล อย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ทรงนิ่งเสีย

            ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้มีความคิดว่า อุตติยปริพาชกอย่าได้ทิฐิ อันลามกอย่างนี้ว่าพระสมณโคดม ถูกเราถามปัญหาเฉพาะหน้าทั้งปวง ย่อมเลี่ยง ไม่ทรงวิสัชนา หรือวิสัชนาไม่ได้แน่นอน เพราะทิฐิอันลามกนั้น จะพึงเป็นไปเพื่อสิ่ง มิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ตลอดกาลนานแก่อุตติยปริพาชก ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์ ได้กล่าวกะอุตติยปริพาชกว่า ดูกรอาวุโสอุตติยะถ้าเช่นนั้น เราจักอุปมาแก่ท่าน วิญญูบุรุษบางพวกในโลกนี้ ย่อมรู้อรรถแห่งภาษิตได้ด้วยอุปมา

            ดูกรอาวุโส อุตติยะเปรียบเหมือนนคร อันตั้งอยู่ชายแดนของพระราชา นครนั้นมีป้อมมั่นคง มีกำแพงและประตูมั่นคง มีประตูเดียว นายประตูในนครนั้น เป็นบัณฑิต ฉลาด มีปัญญาห้ามคนที่ไม่รู้จักเข้าไป ให้คนที่รู้จักเข้าไป เขาเดินเลียบไป ตามทางเลียบกำแพงโดยรอบ นครนั้นไม่พึงเห็นที่ต่อแห่งกำแพง หรือช่องแห่งกำแพง แม้โดยที่สุดพอแมวออกได้ และเขาย่อมไม่มีความรู้อย่างนี้ว่า สัตว์มีประมาณเท่านี้ เข้ามาสู่นครนี้หรือออกไป โดยที่แท้ เขาย่อมมีความรู้ ในเรื่องนั้นอย่างนี้ว่า สัตว์ตัวใหญ่ๆบางเหล่า ย่อมเข้ามาสู่นครนี้หรือย่อมออกไป สัตว์ทั้งหมดนั้นย่อมเข้ามาหรือออกไปทางประตูนี้ แม้ฉันใด

            ดูกรอาวุโสอุตติยะ พระตถาคตก็ฉันนั้นเหมือนกัน มิได้ทรงมีความขวนขวาย อย่างนี้ว่า โลกทั้งหมดหรือกึ่งหนึ่งหรือสาม ส่วนจักออกไปจากทุกข์ โดยที่แท้ พระตถาคต ทรงมีพระญาณอย่างนี้ว่า สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่งออกไปแล้วหรือกำลัง ออกไป หรือจักออกไปจากโลก สัตว์ทั้งหมดนั้น ละนิวรณ์อันเป็นเครื่องเศร้าหมองใจ ทำปัญญาให้ทุรพล ๕ ประการแล้ว เป็นผู้มีจิตตั้งมั่นแล้วด้วยดีในสติปัฏฐาน ๔ เจริญโพชฌงค์ ๗ประการตามเป็นจริงแล้ว สัตว์เหล่านั้นออกไปแล้ว หรือกำลังออกไป หรือจักออกไปจากโลกด้วยอาการอย่างนี้

            ดูกรอาวุโส อุตติยะ ท่านได้ทูลถามปัญหานี้กะพระผู้มีพระภาคข้อใด ปัญหาข้อนั้น ท่านได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคโดยปริยายอื่น ฉะนั้น พระผู้มีพระภาค จึงไม่ทรงพยากรณ์ปัญหานั้นแก่ท่าน

 

 

 

 





พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์