เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

เสวนาสูตร บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี อกุศลเจริญ ไม่ควรเสพ..กุศลเจริญ ควรเสพ 2305
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓

เสวนาสูตร : สิ่งที่ควรเสพและไม่ควรเสพ
บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
    แม้จีวร ก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
    แม้บิณฑบาต ก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
    แม้เสนาสนะ ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
    แม้คามนิคม ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
    แม้ชนบทและประเทศ ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

ภิกษุพึงทราบว่า แม้จีวร แม้บิณฑบาต แม้เสนาสนะ แม้คามนิคม แม้ชนบทและประเทศ
เสพแล้วทำให้ อกุศลเจริญ... ไม่ควรเสพ (ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา)
เสพแล้วทำให้ กุศลเจริญ... ควรเสพ (ย่อมถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา)

แม้ภิกษุที่ติดตามแล้ว หากไม่ได้ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะ ก็ไม่ควรติดตาม (ไม่ควรเสพ)
ควรหลีกออกมาเสีย เหตุเพราะความเป็นสมณะของเรานั้น ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๕-๓๓๘

เสวนาสูตร
สิ่งที่ควรเสพและไม่ควรเสพ
(แสดงธรรมโดยพระสารีบุตร)

             [๒๑๐] ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ ท่านพระสารีบุตร ได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
แม้จีวร
ก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
แม้บิณฑบาต
ก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
แม้เสนาสนะ
ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
แม้คามนิคม ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี
แม้ชนบทและประเทศ ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

             ก็คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในบุคคล ๒ จำพวก พึงรู้บุคคลใดว่า เมื่อเราเสพบุคคลนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม บริขารแห่งชีวิตเหล่าใดแล คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร อันเราผู้เป็นบรรพชิตพึงรวบรวมไว้ บริขารแห่งชีวิตเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นได้โดยยาก และเราออกบวชเป็นบรรพชิตเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นสมณะใด ประโยชน์แห่งความ เป็นสมณะของเรานั้น ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

             ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคลนั้นรู้ในกลางคืน ก็ไม่ต้องลาพึงหลีกไปเสีย ในกลางคืน หรือรู้ในกลางวัน ก็ไม่ต้องลา พึงหลีกไปเสียในกลางวัน ไม่พึงติดตาม บุคคลนั้น พึงรู้บุคคลใดว่า เมื่อเราเสพบุคคลผู้นี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรม ย่อมเจริญ ก็แลบริขารแห่งชีวิตเหล่าใด คือ จีวรบิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร อันเราผู้เป็นบรรพชิตพึงรวบรวมไว้ บริขารแห่งชีวิตเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้น โดยไม่ยาก และเราออกบวชเป็นบรรพชิต เพื่อประโยชน์แห่งความเป็นสมณะใด ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะของเรานั้น ย่อมถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

             ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคลนั้นรู้แล้วพึงติดตามไปจนตลอดชีวิต ไม่พึง หลีกเลี่ยง ไปเสีย พึงรู้บุคคลใดว่า เมื่อเราเสพบุคคลนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ และบริขารแห่งชีวิตเหล่าใดคือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร อันเราผู้เป็นบรรพชิตพึงรวบรวมไว้ บริขารแห่งชีวิต เหล่านั้น ย่อมเกิดขึ้นโดยไม่ยาก และเราออกบวชเป็นบรรพชิต เพื่อประโยชน์แห่ง ความเป็นสมณะใด ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะของเรานั้น ย่อมถึงความบริบูรณ์ ด้วยภาวนา

             ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคลนั้นแม้ถูกขับไล่ก็พึงติดตามบุคคลนั้น ไปจน ตลอดชีวิต ไม่พึงหลีกเลี่ยงไปเสีย คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บุคคลก็พึง ทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มีไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

            (๑) ก็คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้จีวรก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในจีวร ๒ อย่าง พึงรู้จีวรใดว่า เมื่อเราเสพจีวรนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม จีวรเห็นปานนี้ไม่ควรเสพ พึงรู้จีวรใดว่า เมื่อเราเสพจีวรนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อมกุศลธรรมย่อมเจริญ จีวรเห็นปานนี้ ควรเสพ คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลายแม้จีวรก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพ ก็มี ไม่ควรเสพก็มี เราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

            (๒) ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้บิณฑบาตก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในบิณฑบาต ๒ อย่างนี้ พึงรู้บิณฑบาตใดว่า เมื่อเราเสพบิณฑบาตนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม บิณฑบาตเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ พึงรู้บิณฑบาตใดว่า เมื่อเราเสพบิณฑบาตนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรม ย่อมเจริญ บิณฑบาตเห็นปานนี้ควรเสพ คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บิณฑบาต ก็พึงทราบโดยส่วน ๒คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้ กล่าวแล้ว

            (๓) ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้เสนาสนะก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในเสนาสนะ ๒ อย่างนั้น พึงรู้เสนาสนะใดว่า เมื่อเรา เสพเสนาสนะนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม เสนาสนะเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ พึงรู้เสนาสนะใดว่า เมื่อเราเสพเสนาสนะนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรม ย่อมเจริญ เสนาสนะเห็นปานนี้ควรเสพ คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้เสนาสนะ ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้ กล่าวแล้ว

            (๔) ก็คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้คามนิคมก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในคามนิคม ๒ อย่างนั้น พึงรู้ คามนิคมใดว่า เมื่อเราเสพคามนิคมนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม คามนิคมเห็นปานนี้ไม่ควรเสพ พึงรู้คามนิคมใดว่าเมื่อเราเสพคามนิคมนี้ อกุศลธรรม ย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ คามนิคมเห็นปานนี้ควรเสพ คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโส ทั้งหลาย แม้คามนิคมก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัย ข้อนี้กล่าวแล้ว

             (๕) ก็คำที่เรากล่าวดังนี้ว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้ชนบทและประเทศ พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว ในชนบท และ ประเทศ ๒ อย่างนั้น พึงรู้ชนบทและประเทศใดว่า เมื่อเราเสพชนบท และประเทศนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม ชนบทและประเทศเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ พึงรู้ชนบทและประเทศใดว่า เมื่อเราเสพชนบทและประเทศนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ ชนบทและประเทศเห็นปานนี้ควรเสพ คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโส ทั้งหลาย แม้ชนบทและประเทศก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์