พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๘๙-๙๐
นตุมหากสูตรที่ ๑
สิ่งที่ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย สูตรที่ ๑
[๑๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละ สิ่งนั้นเสีย สิ่งนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเล่าไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย
จักษุ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุนั้นเสีย จักษุนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
รูป ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละรูป นั้นเสีย รูปนั้นเธอทั้งหลาย ละ เสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
จักษุวิญญาณ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุวิญญาณนั้นเสีย จักษุวิญญาณนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
จักษุสัมผัส ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุสัมผัสนั้นเสีย จักษุสัมผัสนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
สุขเวทนา ทุกขเวทนาหรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุข เวทนานั้นเสีย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมี เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ฯลฯ
ใจ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละใจนั้นเสีย ใจนั้น เธอทั้งหลายละ เสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
ธรรมารมณ์ทั้งหลาย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละธรรมารมณ์นั้น เสียธรรมารมณ์นั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
มโนวิญญาณ ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละมโนวิญญาณนั้นเสีย มโนวิญญาณนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
มโนสัมผัส ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละมโนสัมผัสนั้นเสีย มโนสัมผัสนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัส เป็น ปัจจัย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุข เวทนานั้นเสีย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนานั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หญ้า ไม้ กิ่งไม้ และใบไม้ อันมีที่วิหารเชตวันนี้ หญ้า ไม้ กิ่งไม้ และใบไม้ ชนนำไปบ้าง เผาเสียบ้าง ทำให้เป็นไปตามปัจจัยบ้าง เธอทั้งหลาย มีความคิดอย่างนี้บ้างไหมว่าเราทั้งหลาย ชนนำไปบ้าง เผาเสียบ้าง ทำให้เป็นไปตาม ปัจจัยบ้าง
ภิ. ข้อนั้นไม่มีเลย พระเจ้าข้า
พ. ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร
ภิ. เพราะหญ้า ไม้ กิ่งไม้ และใบไม้นั้น ไม่ใช่ตน หรือไม่ใช่ของแห่งตนของ ข้าพระองค์ทั้งหลาย พระเจ้าข้า
พ. ข้อนั้นเป็นฉันใด ข้อนี้ก็เป็นฉันนั้นแหละ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุนั้นเสีย จักษุนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข รูปไม่ใช่ของเธอ ทั้งหลาย ... จักษุวิญญาณ... จักษุสัมผัส... สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุข เวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละ สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนานั้นเสีย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนานั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๙๐-๙๑
นตุมหากสูตรที่ ๒
สิ่งที่ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย สูตรที่ ๒
[๑๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง สิ่งใดไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงละสิ่งนั้นเสีย สิ่งนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งไรเล่าไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย
จักษุไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุนั้นเสีย จักษุนั้นเธอทั้งหลาย ละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
รูปไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลาย จงละรูปนั้นเสีย รูปนั้นเธอทั้งหลายละ เสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
จักษุวิญญาณไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุวิญญาณนั้นเสีย จักษุวิญญาณนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
จักษุสัมผัสไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละจักษุสัมผัสนั้นเสีย จักษุสัมผัสนั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัส เป็นปัจจัย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนานั้นเสีย สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนานั้น เธอทั้งหลาย ละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ฯลฯ
ใจไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละใจนั้นเสีย ใจนั้นเธอทั้งหลายละ เสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
ธรรมารมณ์ทั้งหลาย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละธรรมารมณ์นั้น เสีย ธรรมารมณ์นั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
มโนวิญญาณไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละมโนวิญญาณนั้นเสีย มโนวิญญาณนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
มโนสัมผัสไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละมโนสัมผัสนั้นเสีย มโน สัมผัส นั้น เธอทั้งหลายละเสีย จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะ มโนสัมผัสเป็น ปัจจัย ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุข เวทนานั้นเสีย สุขเวทนาทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนานั้น เธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์เพื่อความสุข
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละสิ่งนั้นเสีย สิ่งนั้นเธอทั้งหลายละเสียแล้ว จักมีเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๙๒-๙๓
อุทกสูตร
ว่าด้วยอุทกดาบส
[๑๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า อุทกดาบสรามบุตร ย่อมกล่าววาจาอย่างนี้ ว่า เราขอบอก เราเป็นผู้ถึงซึ่งเวทโดยส่วนเดียว เราขอบอก เราเป็นผู้ชนะก่อนโดยส่วน เดียว เราขอบอก เราขุดเสียแล้วซึ่งมูลรากแห่งทุกข์ ที่ใครขุดไม่ได้โดยส่วนเดียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุทกดาบสรามบุตร ยังเป็นผู้ไม่ถึงซึ่งเวท ก็กล่าวว่าเราเป็น ผู้ถึง ซึ่งเวท ยังเป็นผู้ไม่ชนะก่อน ก็กล่าวว่าเราเป็นผู้ชนะก่อน ยังไม่ได้ขุดมูลรากแห่ง ทุกข์ ก็กล่าวว่า เราขุดมูลรากแห่งทุกข์ได้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อจะกล่าวข้อนั้นโดยชอบ ควรกล่าวว่า เราขอบอก เราเป็นผู้ถึงซึ่งเวทโดยส่วนเดียว เราขอบอก เราเป็นผู้ชนะก่อนโดยส่วนเดียว เราขอบอก เราขุดมูลรากแห่งทุกข์ที่ใครขุดไม่ได้โดยส่วนเดียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมเป็นผู้ถึงซึ่งเวทอย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ ย่อมรู้ตามความเป็นจริงซึ่งความเกิดความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออก แห่ง ผัสสายตนะ ๖ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมเป็นผู้ถึง ซึ่งเวทอย่างนี้แล
ภิกษุย่อมเป็นผู้ชนะก่อน อย่างไร ภิกษุรู้แจ้งตามความเป็นจริงซึ่งความเกิด ความดับ คุณ โทษ และ อุบายเครื่อง สลัดออก แห่งผัสสายตนะ ๖ เป็นผู้หลุดพ้นแล้ว เพราะไม่ถือมั่น ภิกษุย่อมเป็นผู้ชนะก่อน อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มูลรากแห่งทุกข์ที่ใครขุดไม่ได้ อันภิกษุขุดได้แล้วอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่า "คัณฑะ" นี้ เป็นชื่อของกายนี้ อันเป็นที่ประชุมแห่ง มหาภูตรูป ๔ ซึ่งมีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เติบโตขึ้นเพราะข้าวสุกและขนมสด มีความ ไม่เที่ยง ต้องขัดสี นวดฟั้น แตกสลายกระจัดกระจายเป็นธรรมดา คำว่า "คัณฑมูล" นี้ เป็นชื่อของตัณหา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตัณหาภิกษุละเสียแล้ว ให้มีรากขาดแล้ว ทำให้เป็นเหมือน ตาลยอดด้วน ทำให้ไม่มีไม่ให้เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มูลรากแห่งทุกข์ที่ใครๆ ขุด ไม่ได้ ภิกษุขุดเสียแล้วอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า อุทกดาบสรามบุตร ย่อมกล่าววาจาอย่างนี้ว่า เราขอบอก เราเป็นผู้ถึงซึ่งเวทโดยส่วนเดียว เราขอบอก เราชนะก่อนโดยส่วนเดียว เราขอบอก เราขุดเสียแล้วซึ่งมูลรากแห่งทุกข์ ที่ใครขุดไม่ได้โดยส่วนเดียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุทกดาบสรามบุตร ยังเป็นผู้ไม่ถึงซึ่งเวท ก็กล่าวว่า เราเป็น ผู้ถึงซึ่งเวท ยังเป็นผู้ไม่ชนะก่อน ก็กล่าวว่าเราชนะก่อน ยังขุดมูลรากแห่งทุกข์ ไม่ได้ ก็กล่าวว่า เราขุดมูลรากแห่งทุกข์เสียแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเมื่อจะกล่าวข้อนี้โดยชอบ ควรกล่าวว่า เราขอบอกเรา เป็นผู้ถึงซึ่งเวท โดยส่วนเดียว เราขอบอก เราเป็นผู้ชนะก่อนโดยส่วนเดียวเราขอบอก เราขุดมูลรากแห่งทุกข์ ที่ใครขุดไม่ได้โดยส่วนเดียว
|