พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๒
๑๐. คันธัพพกายสังยุต
๑. สุทธกสูตร
ว่าด้วยเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์
[๕๓๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาค ตรัสกะภิกษุ ทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์ แก่เธอ ทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์เป็นไฉน? พวกเทวดาซึ่ง
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ราก ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่แก่น ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กระพี้ ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่เปลือก ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กะเทาะ ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ใบ ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ดอก ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ผล ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่รส ก็มี
สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กลิ่น ก็มี.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกนี้เราเรียกว่า พวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๒ - ๒๘๓
๒. สุจริตสูตร
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์
[๕๓๗] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวก เทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์ พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่าพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์ มีอายุยืน มีวรรณะงามมีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์. ครั้นตายไป เขาย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกเทวดาซึ่งนับเนื่องในหมู่คนธรรพ์.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๓
๓. มูลคันธทาตาสูตร
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา
[๕๓๘] พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความ เป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก. เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ราก.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๓-๒๘๕
๔-๑๒. สารคันธาทิทาตาสูตร ที่ ๑-๙
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้
[๕๓๙] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคน ในโลกนี้เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กระพี้ ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่เปลือก ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กะเทาะ ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ใบ ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ดอก ... ของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ผล ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่รส ... ของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ ต้นไม้ มีกลิ่นที่กลิ่น?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ... ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กระพี้ ... ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ดอก ... ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ผล ... ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่รส ... ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กลิ่น มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก.
เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความ เป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กระพี้ ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่เปลือก ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กะเทาะ ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ใบ ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ดอก ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ผล ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่รส ... ของพวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น.
เขาจึงให้สิ่งของอันมีกลิ่นที่แก่น ... มีกลิ่นที่กระพี้ ... มีกลิ่นที่เปลือก ... มีกลิ่นที่กะเทาะ ... มีกลิ่นที่ใบ ... มีกลิ่นที่ดอก ... มีกลิ่นที่ผล ... มีกลิ่นที่รส ... มีกลิ่นที่กลิ่น. เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่แก่น ...
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๔-๒๘๕
๑๓-๒๒. มูลคันธทานูปการสูตร ที่ ๑-๑๐
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้
[๕๔๐] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้เมื่อตายไปย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า พวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึง ความเป็นสหายของเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก. เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน มาลา ของหอมเครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีปและอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่ราก.
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป เข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ราก.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๘๕-๒๘๖
๒๓-๑๑๒. สารคันธาทิทานูปการสูตร ที่ ๑-๙๐
ว่าด้วยเหตุให้เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดา
ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่แก่น เป็นต้น
[๕๔๑] พระนครสาวัตถี. ภิกษุนั้นนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่แก่น ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กระพี้ ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่เปลือก ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กะเทาะ ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ใบ ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ดอก ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่ผล ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่รส ... สิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น พระเจ้าข้า?
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติสุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เขาได้สดับมาว่า ... พวกเทวดาซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น มีอายุยืน มีวรรณะงาม มีความสุขมาก. เขาจึงมีความปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เมื่อตายไป ขอเราพึงเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กลิ่น.
เขาจึงให้ข้าว น้ำ ผ้า ยานมาลา ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่พัก ประทีป และอุปกรณ์แห่งประทีป เมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่น ที่กลิ่น
ดูกรภิกษุ ข้อนี้แลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บุคคลบางคนในโลกนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของพวกเทวดา ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้มีกลิ่นที่กลิ่น |