นิพพานที่เห็นได้เอง
-บาลี ติก. อํ. ๒๐/๒๐๒/๔๙๕.
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ คำที่พระโคดมกล่าวว่า นิพพานที่เห็นได้เอง (สนฺทิฏฺฐิก นิพฺพาน) นิพพานที่เห็นได้เอง ดังนี้ ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ นิพพานที่เห็น ได้เอง ไม่ประกอบด้วยกาล เป็นสิ่งที่กล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อม เข้ามาใส่ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้ เฉพาะตนนั้นมีได้ด้วยเหตุเพียงเท่าไรเล่า พระเจ้าข้า.
พราหมณ์ บุคคลผู้มีราคะ ถูกราคะครอบงำ มีจิตถูกราคะกลุ้มรุม
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียน ตนเองบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
ย่อมเสวยเฉพาะ ซึ่งทุกขะโทมนัส อันเป็นไปทางจิตบ้าง
เมื่อละราคะได้แล้ว
เขาย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนตนเอง
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่าย
และย่อมไม่เสวยเฉพาะ ซึ่งทุกขะโทมนัสอันเป็นไปทางจิตโดยแท้
พราหมณ์ นิพพานที่เห็นได้เอง (สนฺทิฏฺฐิกํ นิพฺพานํ) ไม่ประกอบด้วยกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าว กะผู้อื่น ว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
พราหมณ์ บุคคลผู้มีโทสะ ถูกโทสะครอบงำ มีจิตถูกโทสะกลุ้มรุม
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียน ทั้งสองฝ่ายบ้าง
ย่อมเสวย เฉพาะซึ่งทุกขะโทมนัส อันเป็นไปทางจิตบ้าง
เมื่อละโทสะได้แล้ว
เขาย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียน ตนเอง
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่าย
และย่อมไม่เสวยเฉพาะซึ่ง ทุกขะโทมนัส อันเป็นไปทางจิตโดยแท้
พราหมณ์ นิพพานที่เห็นได้เองไม่ประกอบด้วยกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่น ว่าท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ ก็รู้ได้เฉพาะตน ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
พราหมณ์ บุคคลผู้มีโมหะ ถูกโมหะครอบงำ มีจิตถูกโมหะกลุ้มรุม ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
ย่อมเสวยเฉพาะ ซึ่งทุกขะโทมนัส อันเป็นไปทางจิตบ้าง
เมื่อละโมหะได้แล้ว
เขาย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนตนเอง
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนผู้อื่น
ย่อมไม่คิดเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่าย
และย่อมไม่เสวย เฉพาะซึ่ง ทุกขะโทมนัส อันเป็นไปในทางจิตโดยแท้
พราหมณ์ นิพพานที่เห็นได้เองไม่ประกอบด้วยกาล เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
--------------------------------------------------------------------------------------------------
พราหมณ์ เมื่อใด ผู้นี้ย่อมเสวยเฉพาะซึ่งความสิ้นไปแห่งราคะ อันหาเศษเหลือ มิได้ ย่อมเสวย เฉพาะซึ่งความสิ้นไปแห่งโทสะ อันหาเศษเหลือมิได้ ย่อมเสวยเฉพาะ ซึ่งความสิ้นไปแห่งโมหะ อันหาเศษเหลือมิได้
พราหมณ์เอย เมื่อนั้นนิพพานที่เห็นได้เอง ไม่ประกอบด้วยกาล เป็นสิ่งที่ควร กล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด เป็น สิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส้ใจ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้ เฉพาะตน ย่อมมีได้ด้วยอาการ อย่างนี้แล |