| 
 พระภัททากัจจานาเถรี
 จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 
 
 พระภัททากัจจานาเถรี หรือพระนามเดิม พระนางยโสธรา (พระนางพิมพา หรือ  พระนางยโสธราพิมพา) เป็นพระชายา ของเจ้าชายสิทธัตถะ  หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า  พระนางได้อุปสมบทเป็นภิกษุณี และบรรลุเป็น พระอรหันต์ในที่สุด
 
 ประวัติ
 
 พระภัททากัจจานาเถรี  ประสูติวันเดียวกันกับเจ้าชายสิทธัตถะ (พระโคตมพุทธเจ้า) ซึ่งนับพระนางเป็น 1 ในสหชาติทั้ง 7 ของพระโคตมพุทธเจ้าซึ่งประกอบด้วย
 * พระภัททากัจจานาเถรี หรือ พระนางยโสธรา
 * พระอานนท์
 * พระฉันนะ
 * พระกาฬุทายีเถระ
 * ม้ากัณฐกะ
 * ต้นพระศรีมหาโพธิ์
 *ขุมทรัพย์ทั้งสี่
 
 พระนางยโสธราเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ  และพระมารดามีพระนามว่าพระนางอมิตาเทวี ประสูติในโกลิยวงศ์ กรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ  เมื่อแรกประสูติพระญาติทั้งหลายได้ทรงถวายพระนามว่า "ภัททากัจจานา"  เพราะพระสรีระของพระองค์ มีพระฉวีวรรณสีเหมือนทองคำอันบริสุทธิ์ พอมีพระชนม์ 16 พรรษา ได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อมีพระชนม์ 29 พรรษาได้ ประสูติพระราชโอรส โดยพระเจ้าสุทโธทนะให้พระนามว่าพระราหุล
 ครั้นเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช  พระนางยโสธราทรงเกิดความเศร้าโศกพระทัยยิ่งนัก ได้ทรงละเว้นการตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับนานาประการ  ทรงมีจิตผูกพัน และมีความรักอันลึกซึ้งต่อพระองค์  แม้วัฒนธรรมอินเดียในยุคนั้นจะถือว่าหญิงไม่มีสามีจะถือว่าไม่มีเกียรติ  และหญิงนั้นสามารถมีสามีใหม่ได้ แต่พระนางก็ไม่สนพระทัยในชายอื่น  พระนางยังคงทรงเฝ้ารอพระสวามีของพระนางเพียงพระองค์เดียว จนกล่าวได้ว่า
 คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงนุ่งห่มผ้าย้อมฝาด  พระนางก็เปลี่ยนชุดทรงมานุ่งห่ม ผ้าย้อมฝาด ด้วย
 คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะบรรทมบนพื้นไม้  พระนางก็บรรทมบนพื้นไม้ด้วย
 คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงอดพระกระยาหาร  พระนางก็ทรงอดพระกระยาหารด้วย
                        ไม่ว่าจะได้ข่าวว่าพระสวามีทรงปฏิบัติตนอย่างไร  พระนางพิมพาก็ทรงปฏิบัติตนเยี่ยงนั้น
 และเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จนิวัติกรุงกบิลพัสดุ์เพื่อโปรดพระพุทธบิดาและพระประยูรญาติ  ในวันแรกพระนางมิได้ทรงออกไปรับเสด็จ แต่ในวันที่สองขณะที่พระพุทธองค์เสด็จออกไปรับบาตร  พระนางยโสธราทรงชี้ให้พระราหุลได้ทอดพระเนตรพระบิดาของพระองค์แต่มิได้ออกไปทรงบาตร  ทรงเก็บตัวอยู่ในพระตำหนัก  และในวันที่สองเมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับภัตตาหารในพระราชวังเสร็จ  พระองค์จึงเสด็จไปโปรดพระนางในพระตำหนัก
 เมื่อพระนางได้ทรงพบถึงกับเข้ามากอดพระบาทร่ำไห้รำพันอย่างน่าสงสาร  แต่พระพุทธองค์ก็ทรงเทศนาให้พระนาง ดำรงพระสติไว้ได้  และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเทศนาพระประยูรญาติแล้ว  พระนางก็รับสั่งให้ราหุล ราชโอรสตามเสด็จ พระพุทธเจ้าเพื่อทูลขอราชสมบัติ  พระพุทธเจ้าจึงทรงบรรพชาราหุลเป็นสามเณรและให้เสด็จติดตามพระองค์ไปด้วย
 หลังจากที่พระนางอยู่ในพระตำหนักได้ 3 ปี พระเจ้าสุทโธทนะก็สวรรคต  และได้ทำพิธีให้ เจ้าชายมหานามะ ขึ้นครองราชย์สมบัติ สืบแทน พระนางยโสธราพิมพาจึงออกผนวชกับมาตุคาม 1,100 คน  ประมาณพรรษาที่ 5 แห่งพระผู้มีพระภาค  ขอบรรพชาในสำนักของพระศาสดา พระนางยโสธราพิมพาไปยังสำนักของพระเถรี ได้รับคุรุธรรม  8 บวชแล้ว เมื่อมีพระชนมายุ 40 พรรษา มีพระนามว่า "พระภัททากัจจานาเถรี" พระภัททากัจจานาเถรี (ยโสธรา)  ต่อมารับกรรมฐานจากพระพุทธเจ้า และเจริญวิปัสสนายังไม่ทันถึง 15 วัน ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์
 ท่านเป็นผู้ช่ำชองชำนาญในอภิญญาทั้งหลาย ระลึกชาติได้ถึงอสงไขยหนึ่งยิ่งด้วยแสนกัป โดยการระลึกถึงเพียงครั้งเดียว  เมื่อทรงสถาปนาภิกษุณีทั้งหลายไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะต่างๆตามลำดับ  จึงทรงสถาปนาพระเถรีนี้ไว้ในตำแหน่ง เอตทัคคะเป็นเลิศกว่าภิกษุณีสาวิกาผู้บรรลุอภิญญาใหญ่
 พระภัททากัจจานาเถรีนิพพานในพรรษาที่ 43  แห่งพระผู้มีพระภาค ขณะมีพระชนมายุได้ 78  พรรษา 
 ก่อนที่พระนางจะนิพพาน  พระนางได้เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อขอขมาในการล่วงเกินพระผู้มีพระภาคเจ้า  ทั้งทางกาย วาจา ใจ ในครั้นเมื่อใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลายกัปในกาลก่อน แล้วทูลลาเสด็จสู่พระนิพพาน
 |