จากหนังสือ ปฏิบัติ สมถะวิปัสสนา-พุทธวจน หัวข้อ 99 ลักษณะความเป็นอนัตตา -บาลี ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒-๘๔/๑๒๗-๑๒๙. ภิกษุทั้งหลาย. รูปเป็นอนัตตา ก็หากว่ารูปนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปก็คงไม่เป็นไป เพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ ตามความปรารถนาในรูป ว่าขอรูปของเรา จงเป็นอย่าง นี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เพราะเหตุที่รูปเป็นอนัตตา ดังนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่อ อาพาธ และสัตว์ย่อมไม่ได้ตามความปรารถนา ในรูปว่า ขอรูปของเรา จงเป็นอย่างนี้ เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย. เวทนาเป็นอนัตตา ก็หากเวทนานี้ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนาก็คงไม่ เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ตามความ ปรารถนาในเวทนาว่า ขอเวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เพราะเหตุที่เวทนา เป็น อนัตตา ดังนั้น เวทนา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และสัตว์ย่อมไม่ได้ตามความปรารถนาในเวทนาว่า ขอเวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย. ภิกษุทั้งหลาย. สัญญาเป็นอนัตตา ก็หากสัญญานี้ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญาก็คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ตามความ ปรารถนา ในสัญญาว่า ขอสัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เพราะเหตุที่สัญญา เป็นอนัตตา ดังนั้น สัญญา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และสัตว์ย่อมไม่ได้ตามความปรารถนาในสัญญาว่า ขอสัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย. ภิกษุทั้งหลาย. สังขารเป็นอนัตตา ก็หากสังขารนี้ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารก็คงไม่ เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ตามความ ปรารถนาในสังขารว่า ขอสังขารของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เพราะเหตุที่สังขาร เป็นอนัตตา ดังนั้น สังขารจึง เป็นไปเพื่ออาพาธ และสัตว์ย่อมไม่ได้ตามความปรารถนาในสังขารว่า ขอสังขารของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย. ภิกษุทั้งหลาย. วิญญาณเป็นอนัตตา ก็หากวิญญาณนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณก็ คงไม่เป็นไปเพื่ออาพาธ ทั้งสัตว์ย่อมจะได้ตาม ความปรารถนาในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่เพราะเหตุ ที่ วิญญาณเป็นอนัตตา ดังนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และสัตว์ย่อม ไม่ได้ตามความปรารถนาในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่าง นั้นเลย.