|
บาลี โพธิราชกุมารสูตร ม.ม. ๑๓/๔๖๑/๕๐๙. ตรัสแก่โพธิราชกุมาร;
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ หน้า 221
ทรงท้อพระทัยในการแสดงธรรม
ราชกุมาร ! ความคิดข้อนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ธรรมที่เราบรรลุแล้วนี้ เป็นธรรมอันลึก สัตว์อื่นเห็นได้ยาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม
เป็นธรรมระงับและประณีตไม่เป็นวิสัย ที่จะหยั่งลงง่ายๆแห่งความตรึก
เป็นของละเอียด เป็นวิสัยรู้ได้เฉพาะบัณฑิต
ก็สัตว์เหล่านี้ มีอาลัยเป็นที่ยินดี ยินดีแล้วในอาลัย เพลิดเพลินแล้วในอาลัย
สําหรับสัตว์ผู้มีอาลัยแล้วเป็นที่ยินดี ยินดีเพลิดเพลินในอาลัยนั้น.
ยากนักที่จะเห็นปฏิจจสมุปบาท(คือมีอาลัย) อันมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย
ยากนักที่จะเห็น ธรรม (อัน)เป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง(นี้) คือธรรมอันถอนอุปธิทั้งสิ้น ความสิ้นตัณหา ความคลายกําหนัด ความดับไม่เหลือ
และนิพพาน.
หากเราพึงแสดงธรรมแล้ว สัตว์อื่นไม่พึงรู้ทั่วถึง(ไม่เข้าใจ)
ข้อนั้นจักเป็นการเหนื่อย เปล่าแก่เรา.
โอ, ราชกุมาร ! คาถาอันอัศจรรย์เหล่านี้ ที่เราไม่เคยฟังมาแต่ก่อน ได้ปรากฎแจ่มแจ้งแก่เราว่า "กาลนี้ ไม่ควรประกาศธรรมที่เราบรรลุได้แล้วโดยยาก.
ธรรมนี้สัตว์ที่ถูกราคะโทสะรวบรัดแล้ว ไม่รู้ได้โดยง่ายเลย.
สัตว์ที่กําหนัดด้วยราคะ ถูกกลุ่มมืดห่อหุ้มแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันให้ถึงที่ทวนกระแส
อันเป็นธรรมละเอียดลึกซึ้งเห็นได้ยากเป็นอณู." ดังนี้.
ราชกุมาร ! เมื่อเราพิจารณาเห็นดังนี้, จิตก็น้อมไปเพื่อความขวนขวายน้อย
ไม่น้อมไปเพื่อแสดงธรรม.
|