เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
 
ค้นหาคำที่ต้องการ          

 
  พระพุทธเจ้าในอดีต ย้อนไป 91 กัป 335  
 
 


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  พระสุตตันตปิฎก
หน้าที่ ๑

คลิกดู สรุปทำเป็นตาราง

๑. มหาปทานสูตร (๑๔)

             [๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
             สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กุฎี ใกล้ไม้กุ่มน้ำ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถีฯ ครั้งนั้นภิกษุมากรูป ในเวลา ปัจฉาภัต กลับจากบิณฑบาตแล้ว นั่งประชุมกัน ในโรงกลมใกล้ไม้กุ่มน้ำ เกิดสนทนา ธรรมกันขึ้นเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาสว่า บุพเพนิวาส บุพเพนิวาส ดังนี้ฯ พระผู้มีพระภาค ได้ทรงสดับถ้อยคำเจรจาอันนี้ของภิกษุเหล่านั้น ด้วยพระทิพย โสต ธาตุ อันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์ ฯ

             ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จลุกจากอาสนะ เสด็จเข้าไปยังโรงกลมใกล้ ไม้กุ่มน้ำ ประทับนั่งบน อาสนะที่ปูลาดไว้ พระผู้มีพระภาคครั้นประทับนั่ง แล้วถาม ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมสนทนาอะไรกัน เรื่องอะไร ที่พวกเธอพูดค้างไว้ เมื่อตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นได้กราบทูลพระผู้มี พระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ ในเวลาปัจฉาภัตกลับจากบิณฑบาต แล้ว ได้นั่งประชุมกันในโรงกลมใกล้ไม้กุ่มน้ำ แล้วเกิดสนทนาธรรมกันขึ้นเกี่ยวด้วย บุพเพนิวาสว่า บุพเพนิวาส บุพเพนิวาส ดังนี้ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เรื่องนี้แลที่พวกข้า พระองค์ พูดค้างไว้ พอดีพระองค์เสด็จมาถึง ฯ

             พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอปรารถนาหรือไม่ที่ จะ ฟังธรรมีกถา ซึ่งเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค เป็นการสมควรแล้วที่พระผู้มีพระภาคจะพึงทรงกระทำธรรมีกถาซึ่งเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส ข้าแต่พระสุคต เป็นการสมควรแล้วที่พระผู้มีพระภาค จะพึงทรงกระทำธรรมีกถา ซึ่ง เกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส ภิกษุทั้งหลายได้ฟังพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว จักได้ ทรงจำไว้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้นพวกเธอจงฟัง จงใส่ ใจให้ดีเถิด เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ ตรัสพุทธพจน์นี้ว่า



เรื่องที่ทรงเล่ามีทั้งหมด 9 เรื่อง



เรื่องที่ 1 พระนาม ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
          นับแต่นี้ไป ๙๑ กัป พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
วิปัสสี ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
          นับแต่นี้ไป ๓๑ กัป พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
สิขี ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
          ในกัปที่ ๓๑ นั่นเอง พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
เวสสภู ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
          ในภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
กกุสันธะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
          ในภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
โกนาคมนะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
          ในภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า
กัสสปะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
           ในภัททกัปนี้แหละ
เราผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในบัดนี้
อุบัติขึ้นแล้วในโลก ฯ



เรื่องที่ 2 ราชสกุล ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

  [๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี
ได้เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน ขัตติยสกุล*
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สิขี
ได้เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน ขัตติยสกุล
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า เวสสภู
ได้เป็นกษัตริย์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน ขัตติยสกุล
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ
ได้เป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน พราหมณสกุล
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า โกนาคมนะ
ได้เป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน พราหมณสกุล
          พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ
ได้เป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ทรงอุบัติใน พราหมณสกุล
          ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในบัดนี้
ได้เป็นกษัตริย์โดยชาติ อุบัติใน ขัตติยสกุล ฯ
* ขัตติยสกุล คือราชสกุลของกษัตริย์


เรื่องที่ 3 ชื่อตระกูลหรือโคตร ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

    [๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี เป็น โกณฑัญญโคตร
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี เป็น โกณฑัญญโคตร
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู เป็น โกณฑัญญโคตร
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ เป็น กัสสปโคตร
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โกนาคมนะ เป็น กัสสปโคตร
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ เป็น กัสสปโคตร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในบัดนี้ เป็น โคตมโคตร


เรื่องที่ 4 พระชนมายุของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

[๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า วิปัสสี ประมาณ ๘๐,๐๐๐ ปี  
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า สิขี ประมาณ ๗๐,๐๐๐ ปี
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า เวสสภู ประมาณ ๖๐,๐๐๐ปี
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า กกุสันธะ ประมาณ ๔๐,๐๐๐ปี
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า โกนาคมนะ ประมาณ ๓๐,๐๐๐ปี
          พระชนมายุของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า กัสสปะ ประมาณ ๒๐,๐๐๐ ปี
          ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชนมายุของเราในบัดนี้มีประมาณน้อยนิดเดียว ผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างนานก็เพียง ๑๐๐ ปี บางทีก็น้อยกว่าบ้าง มากกว่าบ้าง ฯ


เรื่องที่ 5
สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

[๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ตรัสรู้ที่ ควงไม้แคฝอย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ สิขี ตรัสรู้ที่ ควงไม้กุ่มบก
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู ตรัสรู้ที่ ควงไม้สาละ
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ ตรัสรู้ที่ ควงไม้ซึก พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โกนาคมนะ ตรัสรู้ที่ควงไม้มะเดื่อ
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ตรัสรู้ที่ ควงไม้ไทร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในบัดนี้ ตรัสรู้ที่ ควงไม้โพธิ์


เรื่องที่ 6 คู่อัครสาวก ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

[๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี มี
พระขัณฑะ และ พระติสสะ
เป็นคู่พระอัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สิขี มี
พระอภิภู และ พระสัมภวะ เป็นคู่พระอัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า เวสสภู มี
พระโสนะและ พระอุตตระ
เป็นคู่พระอัครสาวกซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ มี
พระวิธูระ แล พระสัญชีวะ
เป็นคู่พระอัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า โกนาคมนะ มี
พระภิยโยสะ และ พระอุตตระ
เป็นคู่พระอัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะมี
พระติสสะ และ พระภารทวาชะ เป็นคู่พระอัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ
                ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราในบัดนี้ มี
สารีบุตร และ โมคคัลลานะ
เป็นคู่อัครสาวก ซึ่งเป็นคู่อันเจริญ ฯ


เรื่องที่ 7 จำนวนภิกษุ ที่มาประชุมพร้อมกันในแต่ละครั้ง เพื่อรับฟังการแสดง ธรรมครั้งสำคัญ คือโอวาทปาติโมกข์*

[๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   การประชุมกันแห่งสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ได้มีสามครั้ง
                   ครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุ หกล้านแปดแสนรูป
                   อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุแสนรูป
                   อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุแปดหมื่นรูป สาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ซึ่งได้ประชุมกันทั้งสามครั้งนี้ ล้วนเป็น พระขีณาสพ(อรหันต์) ทั้งสิ้น

[๗.๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                  การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า สิขี ได้มีสามครั้ง
                   ครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุ แสนรูป
                   อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุแปดหมื่นรูป
                   อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุเจ็ดหมื่นรูป
พระสาวกของ พระผู้มีพระภาคอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สิขี ซึ่งได้ประชุมกันทั้งสามครั้งนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพ ทั้งสิ้น

[๗.๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า เวสสภู ได้มีสามครั้ง
                  ครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุ แปดหมื่นรูป
                  อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุเจ็ดหมื่นรูป
                  อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็น จำนวนภิกษุหกหมื่นรูป พระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าเวสสภู ซึ่งได้ประชุมกันทั้งสาม ครั้งนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพทั้งสิ้น

[๗.๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ ได้ มีครั้งเดียว มีจำนวนภิกษุ สี่หมื่นรูป
พระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ ซึ่งได้ประชุมกันครั้งเดียวนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพทั้งสิ้น

[๗.๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโกนาคมนะ ได้มีครั้งเดียว มีจำนวนภิกษุ สามหมื่นรูป พระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคมนะ ซึ่งได้ประชุม กันครั้งเดียวนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพทั้งสิ้น

[๗.๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะได้มีครั้งเดียว มีจำนวนภิกษุ สองหมื่นรูป พระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ที่ได้ประชุมกัน ครั้งเดียวนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพทั้งสิ้น

[๗.๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                  การประชุมกันแห่งสาวก ของเราในบัดนี้ ได้มีครั้งเดียว มีจำนวนภิกษุหนึ่ง พันสองร้อยห้าสิบรูป สาวกของเรา ซึ่งได้ประชุมกันครั้งเดียวนี้ ล้วนเป็นพระ ขีณาสพ ทั้งสิ้น
* ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ท่ามกลางที่ประชุม มหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ เรื่องสำคัญที่ ทรงแสดง 1.ไม่ทำบาปทั้งปวง 2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม 3.การทำจิตใจให้บริสุทธิ์


เรื่องที่ 8 องค์อุปัฏฐากของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

[๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                  ภิกษุชื่อว่า อโสกะ เป็นอัครอุปัฏฐากของ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี
                  ภิกษุชื่อว่า เขมังกระ เป็นอัครอุปัฏฐาก ของพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี
                  ภิกษุชื่อว่า อุปสันตะ เป็นอัครอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู
                   ภิกษุชื่อว่า วุฑฒิชะ เป็นอัครอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ
                   ภิกษุชื่อว่า โสตถิชะ เป็นอัครอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า โกนาคมนะ
                   ภิกษุชื่อว่า สัพพมิตตะ เป็นอัครอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                   ภิกษุผู้ชื่อว่า อานนท์ ได้เป็นอัครอุปัฏฐากของเราในบัดนี้ ฯ


เรื่องที่ 9 พระบิดา พระมารดา และราชธานีของพระบิดา

[๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
                  พระราชาพระนามว่า พันธุมา (พระบิดา) เป็นพระชนก พระเทวีพระนามว่า พันธุมดี(มารดา) เป็นพระชนนีบังเกิดเกล้าของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่า วิปัสสี พระนครชื่อว่าพันธุมดี ได้เป็นราชธานี ของพระเจ้าพันธุมา

                  พระราชาพระนามว่า อรุณะ(พระบิดา) เป็นพระชนก พระเทวีพระนามว่า ปภาวดี เป็นพระชนนีบังเกิดเกล้า ของพระผู้มี พระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สิขี พระนครชื่อว่ อรุณวดี ได้เป็นราชธานี ของพระเจ้าอรุณะ

                  
พระราชาพระนามว่า สุปปตีตะ(พระบิดา) เป็นพระชนกพระเทวี พระนามว่า ยสวดี เป็นพระชนนีบังเกิดเกล้า ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า เวสสภู พระนครชื่อว่า อโนมะ ได้เป็นราชธานีของ พระเจ้าสุปปตีตะ

                  
พราหมณ์ ชื่อว่า อัคคิทัตตะ(พระบิดา) เป็นพระชนก พราหมณีชื่อว่า วิสาขา เป็นพระชนนีบังเกิดเกล้า ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ ภิกษุทั้งหลาย ก็พระราชาพระนามว่า เขมะ ได้มีแล้วโดยสมัยนั้นแล พระนครชื่อว่า เขมวดี ได้เป็นราชธานีของพระเจ้าเขมะ

                  
พราหมณ์ ชื่อว่า ยัญญทัตตะ(พระบิดา) เป็นพระชนก พราหมณีชื่อว่า อุตตรา เป็นพระชนนี บังเกิดเกล้าของ พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า โกนาคมนะ ก็พระราชาพระนามว่า โสภะ ได้มีแล้วโดยสมัยนั้นแล พระนครชื่อว่า โสภวดี ได้เป็นราชธานีของพระเจ้าโสภะ

                  
พราหมณ์ ชื่อว่า พรหมทัตตะ(พระบิดา) เป็นพระชนก พราหมณีชื่อ ธนวดี เป็นพระชนนี บังเกิดเกล้าของพระผู้มี พระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ก็พระราชาพระนามว่ากิงกี ได้มีแล้วโดยสมัยนั้นแล พระนครชื่อว่า พาราณสี ได้เป็นราชธานีของพระเจ้ากิงกี

                  
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระราชาพระนามว่า สุทโธทนะ(พระบิดา) เป็นพระชนก พระเทวีพระนามว่า มายา เป็นพระชนนีบังเกิดเกล้าของเรา ในบัดนี้ พระนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ ได้เป็นราชธานีของพระเจ้าสุทโธทนะ ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสดั่งนี้แล้วเสด็จลุกจากอาสนะ เสด็จเข้าพระวิหาร ฯ

คลิกดูสรุปทำเป็นตารางเพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น

   
 
 
พุทธวจน : อ่านคำสอนพระศาสดา อ่านแบบสบายตา โดยคัดลอกหนังสือทั้งเล่มมาจัดทำเป็นเว็บเพจ (คลิกอ่านพร้อมดาวน์โหลดไฟล์ pdf)
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์