เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

วิสาขสูตร๑ อุโบสถ ๘ ประการ มีผลมากมีอานิสงส์มาก เข้าถึงสุขอันเป็นทิพย์ของเทวดาชั้นกามภพ 2278
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

วิสาขสูตร๑ ทรงแสดงอุโบสถ ๘ ประการ แก่นางวิสาขา
(เนื้อความเช่นเดียวกับ วิตถตสูตร ที่ตรัสกับภิกษุทั้งหลาย)

อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก เปรียบเหมือนการ เสวย ราชสมบัติของพระราชานั้น ย่อมไม่ถึง เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เพราะราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์

บุคคลไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น จาตุมมหาราช
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ดาวดึงส์
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ยามา
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ดุสิต
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น นิมมานรดี
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี

อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมี พระจันทร์ ข่มหมู่ ดวงดาวทั้งหมด

(อุโบสถ ๘ ประการ ๑ไม่ฆ่าสัตว์ ๒ไม่ลักทรัพย์ ๓ไม่เสพเมถุน ๔ไม่พูดเท็จ ๕ไม่ดื่มน้ำเมา ๖ไม่บริโภคใน เวลาวิกาล ๗ไม่ทัดดอกไม้และของหอม ๘พึงนอนบนเตียงบนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า)

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๓๐-๒๓๓

วิสาขสูตร๑ (อุโบสถ ๘ ประการ)
ทรงแสดงอุโบสถแก่นางวิสาขา

             [๑๓๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บุพพาราม ปราสาท ของ มิคารมารดา ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล นางวิสาขามิคารมารดา เข้าไปเฝ้าพระผู้ม ีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า ดูกรวิสาขา อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการบุคคลเข้าอยู่แล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก

             ดูกรวิสาขา ก็อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก

             ดูกรวิสาขา อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่าพระอรหันต์ ทั้งหลาย ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรามีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูล ต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละปาณาติบาต งดเว้น จากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์ เกื้อกูล ต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดคืน และวันนี้เราชื่อว่า กระทำตาม พระอรหันต์ทั้งหลาย แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักเป็นอันชื่อว่าเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๑ นี้ ฯลฯ
(อุโบสถ ๘ ประการ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่เสพเมถุน ไม่พูดเท็จ ไม่ดื่มน้ำเมา ไม่บริโภคในเวลาวิกาล ไม่ทัดดอกไม้และของหอม พึงนอนบนเตียงบนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า)

             อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่าพระอรหันต์ทั้งหลายละการนั่ง การนอน บนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่ง ที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จการนั่ง การนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ นอนบนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้า อยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่ง ที่นอนสูงใหญ่ เว้นจากนั่ง การนอนบนที่นั่ง ที่นอนสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ นอนบนเตียง หรือเครื่องลาด ด้วยหญ้าอยู่ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักเป็นอันชื่อว่าเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้

             ดูกรวิสาขา อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างนี้แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก

             อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว มีผลมากมีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก เพียงไรดูกรวิสาขา เปรียบเหมือนพระราชา ที่เสวยราชย์ดำรงอิสรภาพ และอธิปไตยในชนบทใหญ่ๆ ๑๖ รัฐ มีรัตนะ ๗ ประการ มากมายเหล่านี้ คือ อังคะ มคธะกาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจดีย์ วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะอัสสกะ อวันตี คันธาระ กัมโพชะ การเสวยราช ดำรงอิสรภาพ และอธิปไตยของ พระราชานั้น ไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ข้อนั้น เพราะเหตุไร

             ดูกรวิสาขา เพราะราชสมบัติมนุษย์ เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุข อันเป็น ทิพย์ ดูกรวิสาขา ๕๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือน โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๕๐๐ ปีโดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช

             ดูกรวิสาขา ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่ อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็น สหาย แห่งเทวดา ชั้นจาตุมมหาราช นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ดูกรวิสาขา ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุข อันเป็นทิพย์

ดูกรวิสาขา ๑๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูกรวิสาขา ๒๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูกรวิสาขา ๔๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ
ดูกรวิสาขา ๘๐๐ ปีมนุษย์ ฯลฯ

             ดูกรวิสาขา ๑,๖๐๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้น เป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์ โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดา ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูกรวิสาขา ข้อที่บุคคล บางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ แล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้

             ดูกรวิสาขา เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคน กำพร้า เมื่อเทียบกับสุข อันเป็นทิพย์ บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของที่เจ้าของ ไม่ให้ พึง เว้นจากเมถุนธรรม อันมิใช่ความประพฤติของพรหม ไม่พึง พูดเท็จ ไม่พึง ดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ในราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และ ของหอม พึงนอนบน เตียง บนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า

             บัณฑิตทั้งหลายกล่าวอุโบสถ ๘ ประการนี้แล ที่พระพุทธเจ้าผู้ถึงที่สุด แห่งทุกข์ ทรงประกาศแล้ว พระจันทร์และพระอาทิตย์ ทั้งสองส่องแสงสว่างไสว ย่อม โคจรไป ตามวิถี เพียงไร พระจันทร์ และ พระอาทิตย์นั้น ก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอย อยู่บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า ทรัพย์ใด อันมีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ อย่างดีหรือทองมีสีสุกใส ที่เรียกกันว่า หตกะ พระจันทร์ พระอาทิตย์และ ทรัพย์นั้นๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่ง อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ

             เปรียบเหมือน รัศมีพระจันทร์ ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น เพราะ ฉะนั้นแหละ หญิง หรือชายผู้มีศีล เข้าอยู่อุโบสถอัน ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว กระทำบุญ มีสุขเป็น กำไร ไม่มีใครติเตียน ย่อมเข้าถึงสวรรค์


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๔๑-๒๔๒

วิสาขสูตร๒ (อุโบสถ ๘ ประการ)
นารีผู้ประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ (การอยู่ครองเรือน)
ย่อมเข้าถึงเทวดาเหล่ามนาปกายิกา

             [๑๓๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บุพพาราม ปราสาทของ มิคารมารดา ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล นางวิสาขามิคารมารดา เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสว่า

             ดูกรวิสาขา มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง ความเป็นสหาย แห่งเทวดาเหล่า มนาปกายิกา ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน
(รายละเอียดธรรม ๘ ประการในการอยู่ครองเรือน P836)

             ดูกรวิสาขา มาตุคามในโลกนี้ ที่มารดาบิดาผู้มุ่งประโยชน์ แสวงหาความ เกื้อกูล อนุเคราะห์ เอื้อเอ็นดู ยอมยกให้แก่ชายใดผู้เป็นสามี สำหรับชายนั้น เธอต้องตื่นก่อน นอนภายหลัง คอยฟังรับใช้ ประพฤติให้ถูกใจ กล่าวถ้อยคำเป็นที่รัก ฯลฯ เป็นผู้มีการ บริจาค มีใจปราศจากมลทินคือ ความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มีจาคะ อันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน

             ดูกรวิสาขา มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง ความ เป็นสหายของเทวดาเหล่า มนาปกายิกา สุภาพสตรีผู้มีปรีชา ย่อมไม่ดูหมิ่น สามี ผู้หมั่นเพียร ขวนขวายอยู่เป็นนิตย์ เลี้ยงตนอยู่ ทุกเมื่อ ให้ความปรารถนา ทั้งปวง ไม่ยังสามีให้ขุ่นเคือง ด้วยถ้อยคำแสดงความหึง หวง และย่อมบูชาผู้ที่เคารพ ทั้งปวง ของสามี เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน สงเคราะห์คนข้างเคียง ของสามี ประพฤติ เป็นที่ พอใจ ของสามี รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ นารีใดย่อมประพฤติ ตามความชอบใจ ของสามีอย่างนี้ นารีนั้นย่อมเข้าถึง ความเป็นเทวดา เหล่ามนาปกายิกา


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์