เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

วิตถตสูตร อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ มีผลมากมีอานิสงส์มาก เข้าถึงสุขอันเป็นทิพย์ของเทวดาชั้นกามภพ 2277
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

วิตถตสูตร ทรงแสดงอุโบสถ ๘ ประการแก่ภิกษุทั้งหลาย
อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก เปรียบเหมือนการ เสวย ราชสมบัติของพระราชานั้น ย่อมไม่ถึง เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เพราะราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์

บุคคลไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น จาตุมมหาราช
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ดาวดึงส์
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ยามา
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ดุสิต
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น นิมมานรดี
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี

อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมี พระจันทร์ ข่มหมู่ ดวงดาวทั้งหมด

(อุโบสถ ๘ ประการ ๑ไม่ฆ่าสัตว์ ๒ไม่ลักทรัพย์ ๓ไม่เสพเมถุน ๔ไม่พูดเท็จ ๕ไม่ดื่มน้ำเมา ๖ไม่บริโภคใน เวลาวิกาล ๗ไม่ทัดดอกไม้และของหอม ๘พึงนอนบนเตียงบนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า)

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๒๖-๒๓๐

วิตถตสูตร
ทรงแสดงอุโบสถแก่ภิกษุทั้งหลาย

             [๑๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคล เข้าอยู่ แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก ก็อุโบสถ ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการบุคคลเข้าอยู่แล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ ทั้งหลาย ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอาย เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์เกื้อกูลต่อสรรพสัตว์อยู่ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศาตรา มีความละอา เอื้อเอ็นดู อนุเคราะห์ เกื้อกูล ต่อสรรพสัตว์ ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่ากระทำตามพระอรหันต์ทั้งหลาย แม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้วอุโบสถประกอบด้วยองค์ที่ ๑ นี้ ฯลฯ

(อุโบสถ ๘ ประการ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่เสพเมถุน ไม่พูดเท็จ ไม่ดื่มน้ำเมา ไม่บริโภคในเวลาวิกาล ไม่ทัดดอกไม้และของหอม พึงนอนบนเตียงบนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า)

             อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมตระหนักชัดดังนี้ว่า พระอรหันต์ทั้งหลายละการนั่ง การนอน บนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ งดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้า ตลอดชีวิต ในวันนี้ แม้เราก็ละการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ สำเร็จการนั่งการนอน บน ที่นั่ง ที่นอนต่ำ คือ บนเตียงหรือเครื่องลาดด้วยหญ้า ตลอดคืนและวันนี้ เราชื่อว่า กระทำ ตามพระอรหันต์ทั้งหลายแม้ด้วยองค์นี้ และอุโบสถจักชื่อว่าเป็นอันเราเข้าอยู่แล้ว อุโบสถ ประกอบด้วยองค์ที่ ๘ นี้

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่อย่างนี้ แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความ แพร่หลายมาก

             อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์ มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแพร่หลายมาก เพียงไร

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพระราชาเสวยราชย์ดำรงอิสรภาพ และ อธิปไตยในชนบทใหญ่ๆ ๑๖ รัฐ มีรัตนะ ๗ ประการมากมาย เหล่านี้ คือ อังคะ มคธะกาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจดีย์ วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะอัสสกะ อวันตี คันธาระ กัมโพชะ การเสวยราชดำรงอิสรภาพและอธิปไตยของพระราชานั้น ย่อมไม่ถึง เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ ๘ประการ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ ราชสมบัติ มนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้าเมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๕๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้น จาตุมมหาราช ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๕๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถ อันประกอบ ด้วย องค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น จาตุมมหาราช นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์ เป็นเหมือน ของคนกำพร้าเมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๑๐๐ ปี มนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่งพันปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ดูกรภิกษุทั้งหลายข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์นี้เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่าราชสมบัติมนุษ์เป็นเหมือน ของ คนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๒๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นยามา ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๒,๐๐๐ ปีทิพย์ โดย ปีนั้น เป็นประมาณของอายุเทวดาชั้นยามา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคน ในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย แห่ง เทวดาชั้นยามานี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้ จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือน ของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๔๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นดุสิต ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นดุสิต ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคน ในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิตนี้เป็นฐานะที่จะมีได้
              ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือน ของ คนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๘๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้นนิมมานรดี ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๘,๐๐๐ ปีทิพย์ โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นนิมมานรดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคล บางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ แล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย แห่ง เทวดาชั้นนิมมานรดี นี้เป็น ฐานะ ที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์ เป็นเหมือน ของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ๑,๖๐๐ ปีมนุษย์เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดา ชั้น ปรนิม มิตวสวัตตี ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๑๖,๐๐๐ ปีทิพย์ โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิงหรือชายก็ตามเข้าอยู่อุโบสถ อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลายเราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือน ของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์

             บุคคลไม่พึงฆ่าสัตว์ ไม่พึงถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้ พึง เว้นจากเมถุน ธรรม อันมิใช่ความประพฤติของพรหม ไม่พึง พูดเท็จ ไม่พึงดื่มน้ำเมา ไม่พึงบริโภค อาหารในเวลาวิกาล ในราตรี ไม่พึงทัดทรงดอกไม้และของหอม พึงนอนบน เตียง บนแผ่นดิน หรือบนเครื่องลาดด้วยหญ้า

             บัณฑิต ทั้งหลายกล่าวอุโบสถ ๘ ประการนี้แล ที่พระพุทธเจ้าผู้ถึง ที่สุดแห่ง ทุกข์ทรงประกาศแล้ว พระจันทร์และพระอาทิตย์ ทั้งสองส่องแสงสว่างไสว ย่อมโคจร ไปตามวีถีเพียงไร พระจันทร์และพระอาทิตย์นั้นก็ขจัดมืดได้เพียงนั้น ลอยอยู่ บนอากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศในท้องฟ้า ทรัพย์ใดอัน มีอยู่ในระหว่างนี้ คือ แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ อย่างดี หรือทองมีสีสุกใส ที่เรียกกันว่า หตกะ พระจันทร์ พระอาทิตย์ และ ทรัพย์นั้นๆ ก็ยังไม่ได้แม้เสี้ยวที่ ๑๖ แห่ง

              อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมี พระจันทร์ ข่มหมู่ ดวงดาวทั้งหมด ฉะนั้น เพราะฉะนั้น แหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล เข้าอยู่อุโบสถ อัน ประกอบด้วย องค์ ๘ ประการแล้ว กระทำบุญทั้งหลายอันมีสุขเป็นกำไร ไม่มีใคร ติเตียน ย่อมเข้าถึงสวรรค์

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์