เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

อิจฉาสูตร ความอยากได้ลาภ ของบุคคล ๘ จำพวก พวกหนึ่งไม่ได้ลาภ อีกพวกหนึ่งไม่ได้ลาภ 2294
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

อิจฉาสูตร ความอยากได้ลาภ
บุคคล ๘ จำพวก นี้ มีปรากฏอยู่ในโลก


กรณีที่ภิกษุเคลื่อนออกจากพระสัทธรรม
๑ เธอหมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ เมื่อไม่ได้ เธอย่อมเศร้าโศกร่ำไร .. ย่อมเคลื่อนจากพระสัทธรรม
๒ เธอหมั่นเพียรเพื่อหลังลาภ เมื่อได้ลาภ เธอกลับมัวเมา.. เธอย่อมเคลื่อนจากพระสัทธรรม
๓ เธอไม่หมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ ลาภจึงไม่ได้ เธอย่อมเศร้าโศก.. ย่อมเคลื่อนจากพระสัทธรรม
๔ เธอไม่หมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ แต่ได้ลาภ เธอกลับมัวเมา.. เธอย่อมเคลื่อนจากพระสัทธรรม

กรณีที่ภิกษุไม่เคลื่อนออกจากพระสัทธรรม(ยังมั่นคง)
๕ เธอหมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ แต่ลาภไม่เกิดขึ้น เธอไม่เศร้าโศก ...เธอไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม
๖ เธอหมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ และลาภเกิดขึ้น เธอไม่มัวเมา ...เธอไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม
๗ เธอไม่หมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ และลาภไม่เกิด เธอไม่เศร้าโศก ...เธอไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม
๘ เธอไม่หมั่นเพียรเพื่อหวังลาภ แต่ลาภเกิด เธอไม่มัวเมา ...เธอย่อมไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๙๘ - ๓๐๐

อิจฉาสูตร
ความอยากได้ลาภ

            [๑๗๔] ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวก นี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๘ จำพวกเป็นไฉน

        (๑)  ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อ เนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อให้ได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอย่อมเศร้าโศก ลำบาก ร่ำไร ทุบอกคร่ำครวญ ถึงความหลงใหลเพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้ เรียกว่า ผู้มีความปรารถนาลาภหมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภอยู่ แต่ไม่ได้ลาภ เศร้าโศก ร่ำไร และเคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๒) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอย่อมหมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอ หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอย่อมมัวเมาถึงความประมาท เพราะลาภ นั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ หมั่นเพียร พยายาม เพื่อ ได้ลาภ ได้ลาภแล้ว มัวเมาประมาท และเคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๓)  อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอ ไม่หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอย่อมเศร้าโศกลำบาก ร่ำไร ทุบอก คร่ำครวญ ถึงความหลงใหล ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความ ปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ ไม่ได้ลาภเศร้าโศก ร่ำไร และ เคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๔) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอไม่ หมั่นเพียร พยายามเพื่อได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอย่อมมัวเมาถึงความประมาท เพราะ ลาภ นั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียร พยายาม เพื่อจะได้ลาภ ได้ลาภแล้ว มัวเมาประมาท และเคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๕) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอ หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอไม่เศร้าโศก ไม่ลำบากไม่ร่ำไร ไม่ทุบอก คร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหลเพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่า ผู้มีความปรารถนาลาภ หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภไม่ได้ลาภแล้ว ไม่เศร้าโศก ไม่ร่ำไร และไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม

          (๖) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอหมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอ หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาท เพราะได้ลาภ นั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความ ปรารถนาลาภ หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ได้ลาภแล้ว ไม่มัวเมาประมาท และไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๗) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกันไป ย่อมเกิดความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอ ไม่หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ลาภไม่เกิดขึ้น เธอไม่เศร้าโศกไม่ลำบากไม่ร่ำไร ไม่ทุบอกคร่ำครวญ ไม่ถึงความหลงใหลเพราะไม่ได้ลาภนั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภอยู่ ไม่ได้ ลาภแล้ว ไม่เศร้าโศก ไม่ร่ำไร และไม่เคลื่อนจากพระสัทธรรม

         (๘) อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ชอบสงัด ไม่เจริญกรรมฐานให้ติดต่อเนื่องกัน ย่อมเกิด ความปรารถนาเพื่อได้ลาภ เธอไม่หมั่นเพียรพยายามเพื่อได้ลาภ เมื่อเธอไม่ หมั่นเพียรพยายาม เพื่อได้ลาภ ลาภเกิดขึ้น เธอไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาท เพราะ ได้ลาภนั้น ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุนี้เรียกว่าผู้มีความปรารถนาลาภ ไม่หมั่นเพียร พยายาม เพื่อได้ลาภ ได้ลาภแล้ว ไม่มัวเมาประมาท และไม่เคลื่อนจาก พระสัทธรรม

            ดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกนี้

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์