พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๕๔-๒๕๕
โอวาทสูตร
คุณสมบัติของภิกษุผู้สอนภิกษุณี
[๑๔๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้พระนครเวสาลี ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุประกอบด้วยธรรมเท่าไรหนอแล สงฆ์พึงสมมติให้เป็น ผู้สอนนางภิกษุณี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ สงฆ์พึงสมมติให้เป็นผู้สอนนางภิกษุณี ธรรม ๘ ประการเป็นไฉน
ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
๒ เป็นพหูสูต ฯลฯ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ
๓ จำปาติโมกข์ทั้ง ๒ ได้โดยพิสดาร จำแนกแจกแจงวินิจฉัยได้ถูกต้อง ทั้งโดยสูตร และ โดยพยัญชนะ
๔ เป็นผู้มีวาจางาม กล่าวถ้อยคำไพเราะ ประกอบด้วยวาจาของชาวเมืองอันสละสลวย ไม่มีโทษ ให้รู้ประโยชน์
๕ เป็นผู้สามารถ เพื่อชี้แจงภิกษุณีสงฆ์ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทานให้อาจหาญร่าเริง ด้วย ธรรมีกถา
๖ เป็นที่รัก เป็นที่พอใจ ของภิกษุณีทั้งหลายโดยมาก
๗ ไม่เคยต้องอาบัติหนัก กับนางภิกษุณีผู้บวชอุทิศเฉพาะพระผู้มีพระภาค นุ่งห่มผ้า กาสาวพัสตร์
๘ เป็นผู้มีพรรษา ๒๐ หรือเกินกว่า
ดูกรอานนท์ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๘ ประการนี้แล สงฆ์พึงสมมติให้เป็นผู้สอน นางภิกษุณี
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๒-๒๖๓
ภยสูตร
กามคือภัยของมนุษย์
[๑๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
คำว่า ภัย เป็นชื่อของ กาม
คำว่า ทุกข์ เป็นชื่อของ กาม
คำว่า โรค เป็นชื่อของ กาม
คำว่า หัวฝี เป็นชื่อของ กาม
คำว่า ลูกศร เป็นชื่อของ กาม
คำว่า ความข้อง เป็นชื่อของ กาม
คำว่า เปือกตม เป็นชื่อของ กาม
คำว่า การอยู่ในครรภ์ เป็นชื่อของ กาม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเหตุไร คำว่า ภัย จึงเป็นชื่อของกาม เพราะบุคคล ผู้นี้ยินดีในกามราคะ พัวพันในฉันทราคะ ย่อมไม่พ้นไปจากภัยทั้งในปัจจุบัน ทั้งใน ภายหน้า ฉะนั้น คำว่า ภัย จึงเป็นชื่อของกาม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเหตุไรคำว่า ทุกข์ ฯลฯ โรค ฯลฯ หัวฝีฯลฯ ลูกศร ฯลฯ ความข้อง ฯลฯ เปือกตม จึงเป็นชื่อของกาม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเหตุไรคำว่า การอยู่ในครรภ์ จึงเป็นชื่อของ กาม เพราะบุคคลนี้ยินดีในกามราคะ พัวพันในฉันทราคะ ย่อมไม่หลุดพ้นไปจากการ อยู่ในครรภ์ ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในภายหน้า ฉะนั้น คำว่า การอยู่ในครรภ์ จึงเป็นชื่อของ กาม
ภัย ทุกข์ โรค หัวฝี ลูกศร ความข้อง เปือกตม และ การอยู่ในครรภ์ นี้เรียกว่า กาม ที่ปุถุชนข้องอยู่แล้ว อันกาม สุขครอบงำแล้ว ย่อมไปเพื่อเกิดในครรภ์อีก ก็เพราะ ภิกษุมีความเพียร ยินดีด้วยสัมปชัญญะ ภิกษุเห็นปานนี้นั้น ก้าวล่วงทางหมุนเวียน ที่ข้ามได้ยากนี้ได้แล้ว ย่อมพิจารณา เห็นหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงชาติและชรา ดิ้นรนอยู่
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๕
อัฏฐปุคคลสูตรที่ ๑
บุคคล ๘ จำพวกเป็นผู้มีปัญญา มีศีล มีจิตมั่นคง
[๑๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็น นาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๘ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑ พระโสดาบัน
๒ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
๓ พระสกทาคามี
๔ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล
๕ พระอนาคามี
๖ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล
๗ พระอรหันต์
๘ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญ ของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
บุคคลผู้ปฏิบัติ ๔ จำพวก ผู้ตั้งอยู่ในผล ๔ จำพวกนี้ เป็นสงฆ์ ผู้ปฏิบัติตรง มีปัญญา มีศีล และจิตมั่นคง ย่อมกระทำบุญ ของมนุษย์ผู้เพ่งบุญบูชาอยู่ให้มีผล มาก ทานที่ให้ในสงฆ์ ย่อมมีผลมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๖๕-๒๖๖
อัฏฐปุคคลสูตรที่ ๒
บุคคล ๘ จำพวก เป็นผู้สูงสุดกว่าสัตว์ทั้งหลาย
[๑๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๘ จำพวกเป็นไฉน คือ
๑
พระโสดาบัน
๒
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล
๓
พระสกทาคามี
๔
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล
๕
พระอนาคามี
๖
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล
๗
พระอรหันต์
๘
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล
บุคคล ๘ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มี นาบุญอื่น ยิ่งกว่า
ผู้ปฏิบัติ ๔ จำพวก ผู้ตั้งอยู่ในผล ๔ จำพวก สงฆ์นี้คือ บุคคล ๘ จำพวก เป็นผู้สูงสุดกว่าสัตว์ทั้งหลาย ย่อมกระทำบุญของมนุษย์ผู้เพ่งบุญบูชาอยู่ ให้มีผลมาก ทานที่ให้ ในสงฆ์นี้ย่อมมีผลมาก |