พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๐
๕. มัจฉริยสูตร
ภิกษุณีผู้ตระหนี่
[๑๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูก นำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีเป็นผู้ตระหนี่ที่อยู่
๒ ตระหนี่สกุล
๓ ตระหนี่ลาภ
๔ ตระหนี่วรรณะ
๕ ตระหนี่ธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูก นำมาไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนเชิญมา อยู่ในสวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีย่อมไม่เป็นผู้ตระหนี่ที่อยู่
๒ไม่ตระหนี่สกุล
๓ ไม่ตระหนี่ลาภ
๔ ไม่ตระหนี่วรรณะ
๕ ไม่ตระหนี่ธรรม
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนเชิญมา อยู่ในสวรรค์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๐-๑๔
๖. วรรณนาสูตร
ภิกษุณีผู้สรรเสริญ
[๑๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูก นำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อน แล้วสรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ
๒ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ
๓ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้วเข้าไปกำจัด ความเลื่อมใสในฐานะอันไม่เป็นที่ตั้งแห่ง ความเลื่อมใส
๔ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความไม่เลื่อมใสในฐานะ อันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส
๕ ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูก นำมาไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนเชิญมา อยู่ในสวรรค์
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ที่ควรติเตียน
๒ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ที่ควรสรรเสริญ
๓ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความไม่เลื่อมใสในฐานะ อันไม่เป็น ที่ตั้ง แห่งความเลื่อมใส
๔ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว เข้าไปกำจัดความเลื่อมใสในฐานะ อันเป็นที่ตั้ง แห่งความเลื่อมใส
๕ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนเชิญมา อยู่ในสวรรค์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๑
๗. อิสสาสูตร
ภิกษุณีผู้มีความริษยา
[๑๑๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูก นำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ
๒ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ
๓ เป็นผู้มีความริษยา
๔ เป็นคนตระหนี่
๕ ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูก นำมาไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญ มาไว้ในสวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ที่ควรสรรเสริญ
๒ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้วติเตียนผู้ที่ควรติเตียน
๓ ไม่เป็นผู้ริษยา
๔ ไม่ตระหนี่
๕ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญ มาไว้ในสวรรค์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๑-๑๔๒
๘. ทิฏฐิสูตร
ภิกษุณีผู้มีความเห็นผิด
[๑๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูก นำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ
๒ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีความเห็นผิด
๔ มีความดำริผิด
๕ ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำ มาไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมา ไว้ในสวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรติเตียน
๒ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีความเห็นชอบ
๔ มีความดำริชอบ
๕ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แลเหมือนถูกเชิญ มาไว้ในสวรรค์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๒
๙. วาจาสูตร
ภิกษุณีผู้มีการเจรจาผิด
[๑๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูก นำมาไว้ในนรก
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ
๒ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีวาจาผิด
๔ มีการงานผิด
๕
ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมา ไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมา ไว้ในสวรรค์
ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรติเตียน
๒ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีวาจาชอบ
๔ มีการงานชอบ
๕ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญ มาไว้ในสวรรค์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๔๓
๑๐. วายามสูตร
ภิกษุณีผู้มีความพยายามผิด
[๑๒๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการเหมือนถูก นำมาไว้ในนรก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ไม่ควรสรรเสริญ
๒ ไม่ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีความพยายามผิด
๔ ระลึกผิด
๕ ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกนำมา ไว้ในนรก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เหมือนถูกเชิญมา ไว้ในสวรรค์ ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุณีใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว ติเตียนผู้ควรติเตียน
๒ ใคร่ครวญให้ตระหนักแน่ก่อนแล้ว สรรเสริญผู้ควรสรรเสริญ
๓ มีความพยายามชอบ
๔ ระลึกชอบ
๕ ไม่ทำสัทธาไทยให้ตกไป
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญ มาไว้ในสวรรค์
|