เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ยสสูตร ดูกรนาคิตะ เธออย่าติดยศ และยศก็อย่าติดเรา 2300
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

ยสสูตร ว่าด้วยยศ
ดูกรนาคิตะ เธออย่าติดยศ และยศก็อย่าติดเรา
ผู้ใดแล ไม่พึงได้ตามความปรารถนา ไม่พึงได้โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบากซึ่งสุข
อันเกิดแต่ เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้
ที่เราพึงได้ ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ผู้นั้นชื่อว่าพึงยินดีสุข อันไม่สะอาด
สุขในการหลับนอน และสุขที่อาศัยลาภสักการะและการสรรเสริญ


เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๓-๓๑๖

ยสสูตร
ว่าด้วยยศ

            [๑๙๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาค เสด็จจาริกไปใน แคว้นโกสัมพี ชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จถึงพราหมณคาม(หมู่บ้านพวกพราหมณ์) แห่งชน ชาวโกศล ชื่ออิจฉานังคละ ได้ยินว่า สมัยนั้น พระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่ไพรสณฑ์ ชื่ออิจฉานังคละ ใกล้พราหมณคาม ชื่ออิจฉานังคละ

            พราหมณ์และคฤหบดี ชาวบ้านอิจฉานังคละ ได้สดับข่าวว่า พระสมณโคดม ศากยบุตร ทรงผนวชจากศากยะตระกูล เสด็จถึงบ้านอิจฉานังคละ ประทับอยู่ที่ไพรสณฑ์ ชื่ออิจฉานังคละ ใกล้พราหมณคาม ชื่ออิจฉานังคละ ก็กิตติศัพท์อันงามของ ท่าน พระโคดม พระองค์นั้นขจรไปดังนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็น พระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ฯลฯ ก็การได้เห็นพระอรหันต์เห็นปานฉะนี้ เป็นการดี แล ครั้งนั้น พวกพราหมณ์ และคฤหบดีชาวบ้าน อิจฉานังคละ เมื่อล่วงราตรีนั้นไป พากันถือ ของเคี้ยวของกินเป็นจำนวนมาก เข้าไปทางไพรสณฑ์ชื่ออิจฉานังคละ ครั้นแล้วได้ยืน ชุมนุมกันส่งเสียงอื้ออึงอยู่ที่ซุ้มประตูด้านนอก

            สมัยนั้น ท่านพระนาคิตะ เป็นอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสถามท่านพระนาคิตะว่า ดูกรนาคิตะ ก็พวกใครที่ส่งเสียงอื้ออึงอยู่นั้น คล้ายพวก ชาวประมง แย่งปลากัน ท่านพระนาคิตะกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พราหมณ์และ คฤหบดีชาวบ้านอิจฉานังคละเหล่านี้ พากันถือของเคี้ยวของกินเป็นจำนวนมาก มายืน ชุมนุมกันอยู่ที่ซุ้มประตูด้านนอก เพื่อถวายพระผู้มีพระภาคและพระภิกษุสงฆ์

            พ. ดูกรนาคิตะ เธออย่าติดยศ และยศก็อย่าติดเรา ดูกรนาคิตะผู้ใดแล ไม่พึงได้ ตามความปรารถนา ไม่พึงได้โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบากซึ่งสุข อันเกิดแต่ เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ผู้นั้นชื่อว่าพึงยินดีสุข อันไม่สะอาด สุขในการหลับนอน และสุขที่อาศัยลาภสักการะและการสรรเสริญ

            น. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ ขอพระผู้มีพระภาคทรงรับ ขอพระสุคตจงทรงรับ บัดนี้เป็นเวลาที่พระผู้มีพระภาค จะทรงรับพระผู้มีพระภาค จักเสด็จไปทางใดๆ พราหมณ์ คฤหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท ก็จักหลั่งไหลไปทางนั้นๆ เปรียบเหมือนฝนเม็ดใหญ่ ตกลงมา น้ำก็ย่อมไหลไปตามที่ลุ่ม ฉะนั้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะพระผู้มีพระภาค ทรงมีศีลและปัญญา

            พ. ดูกรนาคิตะ เธออย่าติดยศ และยศอย่าติดเรา ดูกรนาคิตะ ผู้ใดแลไม่พึงได้ ตามความปรารถนา ไม่พึงได้โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่ เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ผู้นั้นชื่อว่าพึงยินดีความสุขที่ไม่สะอาด สุขในการหลับนอน และสุขที่อาศัยลาภสักการะและการสรรเสริญ

            ดูกรนาคิตะ แม้เทวดาบางพวก ก็ไม่พึงได้ตามความปรารถนา ไม่พึงได้โดย ไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่เนกขัมมะสุข อันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิด แต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ดูกรนาคิตะ แม้เธอทั้งหลาย มาประชุมพร้อมหน้ากัน ประกอบการอยู่ด้วยการคลุกคลี ด้วยหมู่คณะ ย่อมมีความเห็นอย่างนี้ว่า ท่านเหล่านี้ไม่พึงได้ตามความปรารถนา ไม่พึงได้ โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิ เวก สุขอันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยากไม่ลำบาก แน่นอน ก็ความจริงเป็นอย่างนั้น เพราะท่านเหล่านี้ มาประชุม พร้อมหน้ากัน ประกอบการอยู่ด้วยการคลุกคลีด้วยหมู่คณะอยู่

            ดูกรนาคิตะ เราเห็นภิกษุทั้งหลาย ในธรรมวินัยนี้ ใช้นิ้วจี้เล่น กระซิก กระซี้กัน และกันอยู่ เรานั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ท่านเหล่านี้ไม่พึงได้ตามความปรารถนา ไม่พึงได้ โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิเวก สุข อันเกิดแต่ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ตามความปรารถนา ได้โดย ไม่ยาก ไม่ลำบาก แน่นอน ความจริงเป็นอย่างนั้น เพราะท่านเหล่านี้มัวใช้นิ้วจี้เล่น กระซิกกระซี้กันและกันอยู่

            ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ ฉันอาหารเต็มท้องพอ ความต้องการแล้ว มัวประกอบด้วยความสุขในการนอน สุขในการเอน สุขในการหลับอยู่ เรานั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า ท่านเหล่านี้ไม่พึงได้ตามความปรารถนาไม่พึงได้โดยไม่ยาก ไม่พึงได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งสุขอันเกิดแต่เนกขัมมะ สุขอันเกิดแต่วิเวก สุขอันเกิดแต่ ความสงบ สุขอันเกิดแต่การตรัสรู้ ที่เราพึงได้ตามความปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดย ไม่ลำบาก แน่นอน ความจริงเป็นอย่างนั้นเพราะท่านเหล่านี้ ฉันอาหารเต็มท้อง พอความต้องการแล้ว มัวประกอบความสุขในการนอน สุขในการเอน สุขในการหลับอยู่

            ดูกรนาคิตะ เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งสมาธิอยู่ที่วิหารใกล้บ้านเรา นั้น มีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้ คนวัดหรือสมณุทเทสจักบำรุงท่านผู้นี้ ทำให้เธอไปจาก สมาธินั้นเสีย เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่พอใจด้วยการอยู่ใกล้บ้านของภิกษุนั้น

            ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งโงกง่วงอยู่ในป่า เรานั้นมีความคิด อย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้นี้พอบรรเทาความลำบาก ในการนอนหลับนี้ได้แล้วจักกระทำ ความสำคัญ ว่าอยู่ในป่าไว้ในใจได้ประมาณเท่านี้ เพราะเหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการ อยู่ในป่าของภิกษุนั้น

            ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งไม่เป็นสมาธิอยู่ในป่า เรานั้น มีความคิด อย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้นี้จักตั้งมั่นจิตที่ยังไม่ตั้งมั่น หรือจักตามรักษาจิต ที่ตั้งมั่นแล้ว เพราะเหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้น

            ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ ถือการอยู่ป่านั่งสมาธิอยู่ เรานั้น มีความคิดอย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้นี้จักเปลื้องจิตที่ยังไม่หลุดพ้น หรือจักตามรักษาจิต ที่หลุดพ้นแล้ว เพราะเหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้น

            ดูกรนาคิตะ สมัยใด เราเดินทางไกลไม่เห็นอะไรๆ ข้างหน้าหรือข้างหลังสมัยนั้น เรามีความผาสุก โดยที่สุดการถ่ายอุจจาระปัสสาวะ

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์