เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

มหัตตสูตร การบรรลุความเป็นใหญ่ นิรยสูตร เหตุให้เกิดในนรก อัคคธรรมสูตร ธรรมชั้นเลิศ รัตติสูตร วันและคืน 2265
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

มหัตตสูตร การบรรลุความเป็นใหญ่
ธรรม ๖ ประการ ย่อมบรรลุความเป็นผู้มาก ความเป็นผู้ไพบูลย์ในธรรมทั้งหลาย
ด้วยความสว่างแห่งญาณ ด้วยความเพียรเครื่องประกอบ ด้วยความบันเทิงใจ ด้วยความไม่ยินดีในอกุศลธรรม ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม และพยายามให้ยิ่งขึ้นไป

นิรยสูตรที่ ๑ ธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดในนรกสูตร ๑
บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิดในนรก
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ปรารถนาลามก มีความเห็นผิด

นิรยสูตรที่ ๒ รรมที่เป็นเหตุให้เกิดในนรกสูตร ๒
บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิด ในนรก
กล่าวเท็จ กล่าวส่อเสียด กล่าวคำหยาบ กล่าวคำเพ้อเจ้อ เป็นผู้โลภ และเป็นผู้คะนอง

อัคคธรรมสูตร ว่าด้วยธรรมชั้นเลิศ
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต
เป็นผู้ไม่มีศรัทธา เป็นผู้ไม่มีหิริ เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ เป็นผู้เกียจคร้าน เป็นผู้มีปัญญาทราม เป็นผู้ห่วงใยในร่างกายและชีวิต

รัตติสูตร วันและคืน
ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ พึงหวังได้ความเสื่อมในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่พึงหวังความเจริญเลย ตลอดคืนหรือวันที่ผ่านมา ปรารถนามาก มีความคับแค้นใจ ไม่สันโดษด้วยจีวร เป็นผู้ไม่มีศรัทธา เป็นผู้ทุศีล เกียจคร้าน มีสติเลอะเลือน ปัญญาทราม

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๑

๖. มหัตตสูตร
การบรรลุความเป็นใหญ่

            [๓๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมบรรลุ ความเป็นผู้มาก ความเป็นผู้ไพบูลย์ในธรรมทั้งหลาย ต่อกาลไม่นานนัก
ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเป็นผู้มากด้วยความสว่างแห่งญาณ ๑
ย่อมเป็นผู้มากด้วยความเพียรเครื่องประกอบ ๑
ย่อมเป็นผู้มากด้วยความบันเทิงใจ (ปีติและปราโมทย์) ๑
ย่อมเป็นผู้มากด้วยความไม่ยินดีในอกุศลธรรม ๑
ย่อมเป็นผู้ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ๑
และย่อมพยายามให้ยิ่งขึ้นไป ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แลย่อมบรรลุความ เป็นผู้มาก ความเป็นผู้ไพบูลย์ในธรรมทั้งหลาย ต่อกาลไม่นานนัก


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๑-๔๔๒

๗. นิรยสูตรที่ ๑
ธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดในนรกสูตร๑

            [๓๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิดในนรก เหมือนถูกนำมาเก็บไว้ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้ฆ่าสัตว์ ๑
ลักทรัพย์ ๑
ประพฤติผิดในกาม ๑
พูดเท็จ ๑
มีความปรารถนาลามก ๑
และมีความเห็นผิด ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม๖ ประการนี้แล ย่อมเกิดในนรก เหมือนถูกนำมาเก็บไว้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิดในสวรรค์ เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ๑
จากอทินนาทาน ๑
จากกาเมสุมิจฉาจาร ๑
จากมุสาวาท ๑
ไม่มีความปรารถนาลามก ๑
และมีความเห็นชอบ ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเกิดในสวรรค์ เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๒

๘. นิรยสูตรที่ ๒
ธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดในนรกสูตร ๒

            [๓๕๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิดในนรก เหมือนถูกนำมาเก็บไว้ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
เป็นผู้กล่าวเท็จ ๑
กล่าวส่อเสียด ๑
กล่าวคำหยาบ ๑
กล่าวคำเพ้อเจ้อ ๑
เป็นผู้โลภ ๑
และเป็นผู้คะนอง ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ประการนี้แล ย่อมเกิดในนรก เหมือนถูกนำมาเก็บไว้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเกิดในสวรรค์ เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ เป็นผู้งดเว้น
จากมุสาวาท ๑
จากปิสุณาวาจา ๑
จากผรุสวาจา ๖ จากสัมผัปปลาปะ ๑
เป็นคนไม่โลภ ๑
และเป็นผู้ไม่คะนอง ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเกิดในสวรรค์ เหมือนเชิญมาประดิษฐานไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๒-๔๔๓

๙. อัคคธรรมสูตร
ว่าด้วยธรรมชั้นเลิศ

            [๓๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต อันเป็นธรรมชั้นเลิศ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑
เป็นผู้ไม่มีหิริ ๑
เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ ๑
เป็นผู้เกียจคร้าน ๑
เป็นผู้มีปัญญาทราม ๑
และเป็นผู้มีห่วงใยในร่างกายและชีวิต ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ไม่ ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตอันเป็นธรรมชั้นเลิศ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ควร
เพื่อควรกระทำให้แจ้งซึ่งอรหัต
อันเป็นธรรมชั้นเลิศ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีศรัทธา ๑
เป็นผู้มีหิริ ๑
เป็นผู้มีโอตตัปปะ ๑
เป็นผู้ปรารภความเพียร ๑
เป็นผู้มีปัญญา ๑
และเป็นผู้ไม่มีความห่วงใยในร่างกาย และชีวิต ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควร เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอรหัตอันเป็นธรรมชั้นเลิศ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๓-๔๔๔

๑๐. รัตติสูตร
วันและคืน

            [๓๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ พึงหวังได้ความ เสื่อมในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่พึงหวังความเจริญเลย ตลอดคืนหรือวันที่ผ่านมา ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้มีความปรารถนามาก มีความคับแค้นใจ ไม่สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาตเสนาสนะ และ คิลานปัจจัยเภสัชบริขารตามมีตามได้ ๑
เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑
เป็นผู้ทุศีล ๑
เป็นผู้เกียจคร้าน ๑
เป็นผู้มีสติเลอะเลือน ๑
และเป็นผู้มีปัญญาทราม ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล พึงหวังได้ความ เสื่อมในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่พึงหวังความเจริญเลยตลอดคืนหรือวันที่ผ่านมา

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ พึงหวังได้ความเจริญ ในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่พึงหวังได้ความเสื่อมเลย ตลอดคืนหรือวันที่ผ่านมา ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเป็นผู้ไม่มีความปรารถนามาก ไม่มีความคับแค้นใจ สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาตเสนา สนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารตามมีตามได้ ๑
เป็นผู้มีศรัทธา ๑
เป็นผู้มีศีล ๑
เป็นผู้ปรารภความเพียร ๑
เป็นผู้มีสติ ๑
และเป็นผู้มีปัญญา ๑


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล พึงหวังได้ความ เจริญ ในกุศลธรรมอย่างเดียว ไม่พึงหวังได้ความเสื่อมเลย ตลอดคืนหรือวันที่ผ่านมา

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์