เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ทุกขสูตร เหตุให้อยู่เป็นทุกข์ อรหัตตสูตร.. อุตตริมนุสสธรรมสูตร.. สุขสูตร.. อธิคมสูตร 2264
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

ทุกขสูตร ธรรมที่เป็นเหตุให้อยู่เป็นทุกข์
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมอยู่เป็น ทุกข์ มีความเดือดร้อน เมื่อตายไปพึงหวังได้ทุคติ
กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก กามสัญญา พยาบาทสัญญา วิหิงสาสัญญา

อรหัตตสูตร ว่าด้วยอรหัตตผล
ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควร เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต
๑ มานะ ความถือตัวโอมานะ ความสำคัญว่าเลวกว่าเขา
๒ อติมานะ ความเย่อหยิ่ง
๓ อธิมานะ ความเข้าใจผิด
๔ ถัมภะ ความหัวดื้อ
๕ อตินิปาตะ ความดูหมิ่นตนเองว่าเป็นคนเลว

อุตตริมนุสสธรรมสูตร ญาณทัสสนะที่ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์
ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อ กระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสนะ
๑ ความเป็นผู้มีสติเลอะเลือน
๒ ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ
๓ ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย
๔ ความเป็นผู้ไม่รู้ประมาณในโภชนะ
๕ ความโกหก
๖ การพูดเลียบเคียง

สุขสูตร ธรรมที่เป็นเหตุให้มีสุขโสมนัส
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ มากด้วยสุขและโสมนัสอยู่ในปัจจุบันเทียว
๑ ยินดีธรรม
๒ ยินดีภาวนา
๓ ยินดีการละ
๔ ยินดีปวิเวก
๕ ยินดีความไม่พยาบาท
๖ ยินดีธรรมที่ไม่เนิ่นช้า

อธิคมสูตร การบรรลุกุศลธรรม
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ ไม่ควรเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ
๑ ไม่ฉลาดในเหตุแห่งความเจริญ
๒ ไม่ฉลาดในเหตุแห่งความเสื่อม
๓ ไม่ฉลาดในอุบาย
๔ ไม่ยังฉันทะให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ
๕ ไม่รักษากุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว
๖ ไม่ยังฉันทะให้ถึงพร้อมเพื่อกระทำติดต่อ

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๓๘

๑. ทุกขสูตร
ธรรมที่เป็นเหตุให้อยู่เป็นทุกข์

             [๓๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมอยู่เป็น ทุกข์ มีความเดือดร้อน คับแค้น เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไปพึงหวัง ได้ทุคติ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
กามวิตก ๑
พยาบาทวิตก ๑
วิหิงสาวิตก ๑
กามสัญญา ๑
พยาบาทสัญญา ๑
วิหิงสาสัญญา ๑

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน คับแค้น เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวังได้ทุคติ

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน ไม่คับแค้น ไม่เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวังได้สุคติ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
เนกขัมมวิตก ๑
อัพยาบาทวิตก ๑
อวิหิงสาวิตก ๑
เนกขัมมสัญญา ๑
อัพยาบาทสัญญา ๑
อวิหิงสาสัญญา ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อนไม่คับแค้น ไม่เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวังได้สุคติ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๓๘-๔๓๙

๒. อรหัตตสูตร
ว่าด้วยอรหัตตผล

             [๓๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควร เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัต ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
มานะ ความถือตัว ๑
โอมานะ ความสำคัญว่าเลวกว่าเขา ๑
อติมานะ ความเย่อหยิ่ง ๑
อธิมานะ ความเข้าใจผิด ๑
ถัมภะความหัวดื้อ ๑
อตินิปาตะ ความดูหมิ่นตนเองว่าเป็นคนเลว ๑

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการนี้แลย่อมเป็นผู้ไม่ควร เพื่อ กระทำ ให้แจ้งซึ่งอรหัต

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละธรรม ๖ ประการ ย่อม เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งอรหัต ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
ความถือตัว ๑
ความสำคัญว่าเลวกว่าเขา ๑
ความเย่อหยิ่ง ๑
ความเข้าใจผิด ๑
ความหัวดื้อ ๑
ความดูหมิ่นตัวเองว่าเป็นคนเลว ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อกระทำ ให้แจ้งซึ่งอรหัต


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๓๙

๓. อุตตริมนุสสธรรมสูตร
ญาณทัสสนะที่ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์

             [๓๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อ กระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสนะชั้นวิเศษ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ ยิ่งกว่า ธรรมของมนุษย์ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
ความเป็นผู้มีสติเลอะเลือน ๑
ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ๑
ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
ความเป็นผู้ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ๑
ความโกหก ๑
การพูดเลียบเคียง ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อ กระทำให้แจ้งซึ่งญาณทัสนะชั้นวิเศษ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ ยิ่งกว่า ธรรมของมนุษย์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อกระทำ ให้แจ้ง ซึ่งญาณทัสนะชั้นวิเศษ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ ยิ่งกว่าธรรม ของมนุษย์ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ
ความเป็นผู้มีสติเลอะเลือน ๑
ความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ๑
ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
ความเป็นผู้ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ๑
ความโกหก ๑
การพูดเลียบเคียง ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุละธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อกระทำ ให้แจ้งซึ่งญาณทัสนะชั้นวิเศษ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ ยิ่งกว่าธรรม ของมนุษย์


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๓๙-๔๔๐

๔. สุขสูตร
ธรรมที่เป็นเหตุให้มีสุขโสมนัส

             [๓๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ มากด้วยสุขและโสมนัสอยู่ในปัจจุบันเทียว และย่อมเป็นผู้ปรารภเหตุเพื่อความ สิ้นไปแห่ง อาสวะทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
ย่อมเป็นผู้ยินดีธรรม ๑
ย่อมเป็นผู้ยินดีภาวนา ๑
ย่อมเป็นผู้ยินดีการละ ๑
ย่อมเป็นผู้ยินดีปวิเวก ๑
ย่อมเป็นผู้ยินดีความไม่พยาบาท ๑
ย่อมเป็นผู้ยินดีธรรมที่ไม่เนิ่นช้า ๑

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้มาก ด้วยสุขและโสมนัสอยู่ในปัจจุบันเทียว และย่อมเป็นผู้ปรารภเหตุเพื่อความสิ้นไป แห่ง อาสวะทั้งหลาย


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๔๔๐-๔๔๑

๕. อธิคมสูตร
การบรรลุกุศลธรรม

             [๓๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ ไม่ควรเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ หรือเพื่อกระทำกุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว ให้เจริญ ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ฉลาดในเหตุแห่งความเจริญ ๑
เป็นผู้ไม่ฉลาดในเหตุแห่งความเสื่อม ๑
เป็นผู้ไม่ฉลาดในอุบาย ๑
ไม่ยังฉันทะให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ ๑
ไม่รักษากุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว ๑
และไม่ยังฉันทะให้ถึงพร้อมเพื่อกระทำติดต่อ ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แลเป็นผู้ไม่ควรเพื่อ บรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ หรือเพื่อกระทำกุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้วให้เจริญ

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ควรเพื่อ บรรลุ กุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ หรือเพื่อกระทำกุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้วให้ เจริญธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ฉลาดในเหตุแห่งความเจริญ ๑
เป็นผู้ฉลาดในเหตุแห่งความเสื่อม ๑
เป็นผู้ฉลาดในอุบาย ๑
ย่อมยังฉันทะให้เกิดขึ้นเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ ๑
ย่อมรักษากุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว ๑
และย่อมยังฉันทะให้ถึงพร้อมเพื่อกระทำติดต่อ ๑


             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควร
เพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ หรือเพื่อกระทำกุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้วให้เจริญ




 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์