เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ความถึงพร้อมของภิกษุ สัทธาสัมปทา สีลสัมปทา สุตสัมปทา จาคสัมปทา ปัญญาสัมปทา 2204
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

๑. สัมปทาสูตรที่ ๑ (ความถึงพร้อมด้วยปัญญา)
๒. สัมปทาสูตรที่ ๒ (ความถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ)
๓. พยากรณสูตร (การพยากรณ์อรหัตผล)
๔. ผาสุสูตร (ธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข)
๕. อกุปปสูตร (แทงตลอดในธรรมที่ไม่กำเริบ)
๖. สุตสูตร (ภิกษุเป็นผู้อยู่ง่าย)
๗. กถาสูตร (ภิกษุย่อมเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก)
๘. อรัญญสูตร (ภิกษุอยู่ป่าเป็นวัตร)
๙. สีหสูตร (การแสดงธรรมดุจราชสีห์ตะครุบเหยื่อ)

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๘

๑. สัมปทาสูตรที่ ๑
ความถึงพร้อมด้วยปัญญา

            [๙๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ สัทธาสัมปทา
๒ สีลสัมปทา
๓ สุตสัมปทา
๔ จาคสัมปทา
๕ ปัญญาสัมปทา

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ ประการนี้แล


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๘

๒. สัมปทาสูตรที่ ๒
ความถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสสนะ

            [๙๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ สีลสัมปทา
๒ สมาธิสัมปทา
๓ ปัญญาสัมปทา
๔ วิมุตติสัมปทา
๕ วิมุตติญาณทัสสนสัมปทา

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมปทา ๕ ประการนี้แล


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๘

๓. พยากรณสูตร
การพยากรณ์อรหัตผล

            [๙๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การพยากรณ์อรหัต ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ บุคคลย่อมพยากรณ์อรหัต เพราะความเป็นผู้เขลา เพราะความเป็นผู้หลง
๒ บุคคลผู้มีความอิจฉาลามก ผู้ถูกความอิจฉาครอบงำ ย่อมพยากรณ์อรหัต
๓ บุคคลย่อมพยากรณ์อรหัต เพราะความบ้า เพราะจิตฟุ้งซ่าน
๔ บุคคลย่อมพยากรณ์อรหัต เพราะความสำคัญว่าได้บรรลุ
๕ บุคคลย่อมพยากรณ์อรหัตโดยถูกต้อง

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย การพยากรณ์อรหัต ๕ ประการนี้แล


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๘-๑๑๙

๔. ผาสุสูตร
ธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข

            [๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข ๕ ประการนี้

๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่

๒ บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่

๓ ภิกษุมีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข

บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่

ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข ๕ ประการนี้แล


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๙

๕. อกุปปสูตร
แทงตลอดในธรรมที่ไม่กำเริบ

            [๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมแทงตลอด ธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก

ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ได้บรรลุ อัตถปฏิสัมภิทา (แตกฉานในอรรถ)
๒ เป็นผู้ได้บรรลุ ธรรมปฏิสัมภิทา (แตกฉานในธรรม)
๓ เป็นผู้ได้บรรลุ นิรุตติปฏิสัมภิทา (แตกฉานในการพูด)
๔ เป็นผู้ได้บรรลุ ปฏิภาณปฏิสัมภิทา (แตกฉานในปฏิภาณ)
๕ ย่อมพิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมแทงตลอด ธรรม ที่ไม่กำเริบต่อกาลไม่นานนัก


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๙-๑๒๐

๖. สุตสูตร
ภิกษุเป็นผู้อยู่ง่าย

            [๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เสพอานาปานสติ กัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบต่อกาลไม่นานนัก

ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้มีธุระน้อย มีกิจน้อย เลี้ยงง่าย ยินดียิ่งในบริขารแห่งชีวิต
๒ ย่อมเป็นผู้มีอาหารน้อย ประกอบความเป็นผู้ไม่เห็นแก่ปากแก่ท้อง
๓ ย่อมเป็นผู้มีความง่วงนอนน้อย ประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่นอยู่

๔ ย่อมเป็นพหูสูต ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมาก ทรงจำไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์ สิ้นเชิง

๕ ย่อมพิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เสพอานา ปานสติกัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๒๐

๗. กถาสูตร
ภิกษุย่อมเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก

            [๙๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ เจริญอานา ปานสติกัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก

ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้มีธุระน้อย มีกิจน้อย เลี้ยงง่าย ยินดียิ่งในบริขารแห่งชีวิต
๒ ย่อมเป็นผู้มีอาหารน้อย ประกอบความเป็นผู้ไม่เห็นแก่ปากแก่ท้อง
๓ ย่อมเป็นผู้มีความง่วงนอนน้อย ประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่นอยู่

๔ ย่อมเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากซึ่งกถาอันเป็นไปเพื่อขัดเกลา กิเลส เป็นที่สบายแก่ธรรมเครื่องโปร่งจิต คืออัปปิจฉกถา สันตุฏฐิกถา ปวิเวกกถา อสังสัคคกถา วิริยารัมภกถา สีลกถาสมาธิกถา ปัญญากถา วิมุตติกถา วิมุตติญาณ ทัสสนกถา

๕ ย่อมพิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แลเจริญอานาปานสติ กัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๒๐-๑๒๑

๘. อรัญญสูตร
ภิกษุอยู่ป่าเป็นวัตร

            [๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ทำให้มากซึ่ง อานาปานสติกัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก

ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
๑ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเป็นผู้มีธุระน้อยมีกิจน้อย เลี้ยงง่าย ยินดียิ่งในบริขารแห่งชีวิต
๒ ย่อมเป็นผู้มีอาหารน้อยประกอบความเป็นผู้ไม่เห็นแก่ปากแก่ท้อง
๓ ย่อมเป็นผู้มีความง่วงนอนน้อย ประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่นอยู่
๔ ย่อมเป็นผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร เป็นผู้อยู่ในเสนาสนะอันสงัด
๕ ย่อมพิจารณาจิตตามที่หลุดพ้นแล้ว

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ทำให้มากซึ่ง อานาปานสติกัมมัฏฐานอยู่ ย่อมแทงตลอดธรรมที่ไม่กำเริบ ต่อกาลไม่นานนัก


----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าท ๑๒๑-๑๒๒

๙. สีหสูตร
การแสดงธรรมดุจราชสีห์ตะครุบเหยื่อ

            [๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สีหมฤคราชออกจากที่อยู่ในเวลาเย็น แล้วย่อมเยื้อง กราย เหลียวดูทิศทั้ง ๔ โดยรอบ บันลือสีหนาท ๓ ครั้ง แล้วออกเที่ยวไปหากิน สีหมฤคราช นั้น ถ้าแม้จะจับช้าง ย่อมจับโดยแม่นยำ ไม่พลาดถ้าแม้จะจับกระบือ ย่อมจับโดยแม่นยำ ไม่พลาด ถ้าแม้จะจับโค ย่อมจับโดยแม่นยำ ไม่พลาด ถ้าแม้จะจับ เสือเหลือง ย่อมจับโดยแม่นยำ ไม่พลาด ถ้าแม้จะจับเหล่าสัตว์เล็กๆ โดยที่สุดกระต่าย และแมว ย่อมจับโดยแม่นยำ ไม่พลาด ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะสีหมฤคราชนั้นคิดว่า ทางหากินของเราอย่าพินาศเสียเลย

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าสีหะนั้นแล เป็นชื่อแห่งตถาคตอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ก็ที่ตถาคตแสดงธรรมแก่บริษัทนี้แล เป็นสีหนาทของตถาคต

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
-ถ้าแม้ตถาคต จะแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตย่อมแสดงโดยเคารพ* ไม่แสดง โดยไม่เคารพ
-ถ้าแม้จะแสดงธรรม แก่ภิกษุณีทั้งหลาย ย่อมแสดงโดยเคารพ ไม่แสดงโดยไม่เคารพ
-ถ้าแม้จะแสดงธรรม แก่อุบาสกทั้งหลาย ย่อมแสดงโดยเคารพ ไม่แสดงโดยไม่เคารพ
-ถ้าแม้จะแสดงธรรม แก่อุบาสิกาทั้งหลาย ย่อมแสดงโดยเคารพ ไม่แสดงโดยไม่เคารพ
-ถ้าแม้จะแสดงธรรม แก่ปุถุชนทั้งหลาย ย่อมแสดงโดยเคารพ ไม่แสดงโดยไม่เคารพ โดยที่สุดแม้ แก่คนขอทานและพรานนก ย่อมแสดงโดยเคารพ ไม่แสดงโดยไม่เคารพ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะตถาคตเป็นผู้หนักในธรรม เคารพในธรรม

*โดยเคารพ หมายถึง ตั้งใจจริง


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์