พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๒-๑๑๓
ฉลาวาตสูตร
[๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏในโลก ๔ จำพวก เป็นไฉน คือ บุคคล
ผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑
ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายท่อนไม้ที่ทิ้งอยู่ในป่าช้า ไฟติดสองข้าง ตรงกลางเปื้อนคูถ ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์แก่เครื่องไม้ในบ้าน ทั้งไม่สำเร็จประโยชน์ แก่เครื่องไม้ในป่า ฉันใด เรากล่าวบุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ ผู้อื่น นี้เปรียบฉันนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในบุคคลเหล่านั้น บรรดาบุคคล ๒ จำพวกนี้คือ
บุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
กับบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน เป็นผู้งามกว่า และประณีตกว่า
บรรดาบุคคล ๓ จำพวก คือ
บุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
กับบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน
และบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นนี้ เป็นผู้ งามกว่า และประณีตกว่า บรรดาบุคคล ๔ จำพวกนี้ บุคคลผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่น เป็นผู้เลิศ เป็นผู้วิเศษ เป็นประธานอุดม และเป็นผู้ประเสริฐ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นมสดจากแม่โค นมส้มจากนมสด เนยข้นจากนมส้ม เนยใส จากเนยข้น ยอดเนยใสจากเนยใส หัวเนยใส โลกกล่าวว่าเลิศในบรรดาสิ่งเหล่านั้น ฉันใด บรรดาบุคคล ๔ จำพวกนี้บุคคลผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ ผู้อื่น เป็นผู้เลิศ เป็นผู้วิเศษเป็นประธาน อุดม และเป็นผู้ประเสริฐ ฉันนั้นเหมือนกัน
ดูกรภิกษุทั้งหลายบุคคล ๔ จำพวกนี้แล ปรากฏอยู่ในโลก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๑๓-๑๑๔
ราคสูตร
[๙๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ
บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑
ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนแต่ไม่ปฏิบัติเพื่อ ประโยชน์ ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ .
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อ กำจัดราคะ ด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่น ให้กำจัดราคะ
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อ กำจัดโทสะ ด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโทสะ
เป็นผู้ปฏิบัติ กำจัดโมหะ ด้วยตนเอง แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโมหะ
บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล
ก็บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้
ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดราคะ ด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดราคะ
ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดโทสะ ด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโทสะ
ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดโมหะ ด้วยตนเอง แต่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโมหะ
บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนเองอย่างนี้แล
ก็บุคคลไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดราคะ ด้วยตนเอง ทั้งไม่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดราคะ
เป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดโทสะ ด้วยตนเอง ทั้งไม่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโทสะ
เป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อ กำจัดโมหะ ด้วยตนเอง ทั้งไม่ชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโมหะ
บุคคลเป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์บุคคลอื่นอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่น อย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะด้วยตนเอง ทั้งชักชวนผู้อื่นให้กำจัดราคะ
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกำจัดโทสะด้วยตนเอง ทั้งชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโทสะ
เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อกำจัดโมหะด้วยตนเอง ทั้งชักชวนผู้อื่นให้กำจัดโมหะ
บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก
|