พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๘-๒๘๐
นวสูตร
บุคคลที่เปรียบเหมือนผ้าเปลือกไม้
[๕๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผ้าเปลือกไม้แม้ยังใหม่ ก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัสไม่สบาย ทั้งมีราคาน้อย ผ้าเปลือกไม้แม้กลางเก่ากลางใหม่ก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัสไม่สบาย ทั้งมีราคาน้อย ผ้าเปลือกไม้เป็นของเก่าก็เป็นของมีสีไม่สวย มีสัมผัส ไม่สบาย ทั้งมีราคาน้อย มนุษย์ทั้งหลาย ย่อมทำผ้าเปลือกไม้ที่เก่าแล้วให้เป็นผ้า สำหรับเช็ดหม้อข้าว หรือทิ้งมันเสียที่กองหยากเยื่อฉันใด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุแม้ยังใหม่ แต่เป็นคนทุศีล มีธรรมเลวทราม เราย่อมกล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงไม่ดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ที่มีสี ไม่สวยฉะนั้น ชนเหล่าใดคบหา เข้าไปนั่งใกล้ ถือเอาเขาเป็นตัวอย่าง กิริยาที่คบหา เป็นต้นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีการติดต่อก่อให้เกิดทุกข์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ ที่มีสัมผัสไม่สบายฉะนั้น และภิกษุนั้นรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขารของชนเหล่าใด การรับของนั้นไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มากแก่ชนเหล่านั้น เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นคนมีค่าน้อย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่ามีอุปมา เหมือน กับผ้าเปลือกไม้ที่มีราคาน้อยฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุแม้ปูนกลาง ฯลฯ ภิกษุแม้ปูนเถระ แต่หากว่าเป็นคน ทุศีล มีธรรมเลวทราม เราย่อมกล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงไม่ดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ที่มีสี ไม่สวยฉะนั้น ชนเหล่าใดคบหาเข้าไปนั่งใกล้ ถือเอาเขาเป็นตัวอย่าง กิริยาที่คบหา เป็นต้นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีการติดต่อก่อให้เกิดทุกข์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ ที่มีสัมผัสไม่สบายฉะนั้นแล และภิกษุนั้นรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขารของชนเหล่าใด การรับของนั้น ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มากแก่ชนเหล่านั้น เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นคนมีค่าน้อย ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลชนิดนี้ เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าเปลือกไม้ซึ่งเป็นของมีราคาน้อย ฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่งภิกษุผู้เป็นปูนเถระเห็นปานนี้ ย่อมจะต้องพูด ในท่ามกลาง สงฆ์ ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวกับเธอนั้นอย่างนี้ว่า ต้องการอะไรด้วย ถ้อยคำที่ท่านผู้เป็นพาลไม่เฉียบแหลมได้กล่าวไว้แล้ว ถึงท่านก็เข้าใจถ้อยคำ ที่ท่านควรกล่าวได้ เธอโกรธ ขัดเคืองเปล่งวาจาที่เป็นเหตุทำให้สงฆ์ยกวัตรตนเสีย เหมือนผ้าเปลือกไม้ที่เขาทิ้งที่กองหยากเยื่อ ฉะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผ้าแคว้นกาสีที่ยังใหม่ เป็นของมีสีสวยมีสัมผัสสบาย ทั้งมี ราคามาก ผ้าแคว้นกาสีกลางเก่ากลางใหม่ เป็นของมีสีสวยมีสัมผัสสบาย ทั้งมีราคามาก ผ้าแคว้นกาสีแม้เก่าแล้ว ก็เป็นของมีสีสวย มีสัมผัสสบาย ทั้งมีราคามาก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลาย ย่อมทำผ้าแคว้นกาสีแม้ที่เก่าเป็นผ้าห่อรัตนะ หรือเอาใส่ไว้ในหีบของหอม ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุแม้ ยังใหม่ เป็นผู้มีศีล มีกัลยาณธรรมเรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงดี บุคคลเช่นนี้เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนกับผ้าแคว้นกาสีมีสีสวยสดฉะนั้น และชน เหล่าใดคบหา เข้าไปนั่งใกล้ถือเอาเขาเป็นตัวอย่าง กิริยาที่คบหาเป็นต้นนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ชนเหล่านั้นสิ้นกาลนาน
เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุเช่นนั้นเป็นผู้มีการติดต่อก่อให้เกิดสุข บุคคลเช่นนี้ เรากล่าวว่า มีอุปมาเหมือนผ้าแคว้นกาสีมีสัมผัสสบายฉะนั้น และภิกษุนั้นรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารของชนเหล่าใด การรับของนั้น มีผลมาก มีอานิสงส์มากแก่ชนเหล่านั้น เรากล่าวเช่นนี้ เพราะภิกษุนั้นเป็นผู้มีค่ามาก บุคคลเช่นนี้เรากล่าวว่ามีอุปมาเหมือนกับผ้าแคว้นกาสีมีราคามากฉะนั้น ภิกษุ แม้ปูนกลาง ฯลฯ ภิกษุแม้ปูนเถระ ฯลฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุเถระเห็นปานดังนี้ ย่อมพูดในท่ามกลางสงฆ์ ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวกับเธอนั้นอย่างนี้ว่า จงสงบเสียงเสียเถิดท่านทั้งหลาย ภิกษุผู้เถระ จะกล่าวธรรม กล่าววินัย ดังนี้ เพราะเหตุนั้นแหละภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นดังผ้าแคว้นกาสี จักไม่เป็นดังผ้าเปลือกไม้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล
|