เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

อาชานิยสูตร ม้าอาชาไนยของพระราชา ประกอบด้วยองค์ ๓ กับ ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ 2159
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐

อาชานิยสูตรที่ ๑ องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๑
ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา
    ๑.สมบูรณ์ด้วยสี
    ๒.สมบูรณ์ด้วยกำลัง
    ๓.สมบูรณ์ด้วยฝีเท้าวิ่งเร็ว
อุปมาภิกษุในธรรมวินัยนี้
    ๑. เป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยวรรณะ
    ๒. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลัง
    ๓. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์

อาชานิยสูตรที่ ๑ องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๒
ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างไร
เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย

ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างไร
เป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่

ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างไร
เป็นผู้เกิดผุดขึ้น จักปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้น เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป

อาชานิยสูตรที่ ๑
องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๓
ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วย องค์ ๓ ประการ ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะ โดยแท้ ... ฉันใด ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๓ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๕-๒๗๖

อาชานิยสูตรที่ ๑
องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๑


             [๕๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วย องค์ ๓ ประการ ย่อมควรแก่พระราชาเป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะ โดยแท้ องค์ ๓ ประการเป็นไฉน คือม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชาในโลกนี้ เป็นสัตว์
๑.สมบูรณ์ด้วยสี
๒.สมบูรณ์ด้วยกำลัง
๓.สมบูรณ์ด้วยฝีเท้าวิ่งเร็ว

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วยองค์ ๓ ประการนี้แล ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะโดยแท้ ฉันใด

              ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของ โลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

องค์ ๓ ประการเป็นไฉนคือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑. เป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยวรรณะ
๒. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลัง
๓. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีลสำรวมแล้วด้วยความสำรวมในปาติโมกข์ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความเพียรเพื่อ ละ อกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึงพร้อม มีเรี่ยวแรง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้ง ธุระในกุศลธรรมอยู่

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริง ว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของ คำนับ ควรของต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่น ยิ่งกว่า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๖-๒๗๗

อาชานิยสูตรที่ ๒
องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๒

             [๕๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วยองค์ ๓ ประการ ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะ โดยแท้ ... ฉันใด

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า องค์ ๓ ประการ เป็นไฉน คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะ
๒. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลัง
๓. เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลัง อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างนี้แล

              ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้เกิดผุดขึ้น จัก ปรินิพพาน ในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้น เป็นธรรมดา เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ สิ้นไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยเชาวน์อย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของ คำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญ ของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า


-----------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๗๗-๒๗๘

อาชานิยสูตรที่ ๓
องค์ประกอบของม้าอาชาไนย สูตรที่ ๓

             [๕๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วย องค์ ๓ ประการ ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะ โดยแท้ ... ฉันใด

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๓ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

              ธรรม ๓ ประการ เป็นไฉน
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑. เป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยวรรณะ
๒. เป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยกำลัง
๓. เป็นผู้สมบูรณ์ ด้วยเชาวน์

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ สมบูรณ์ด้วยวรรณะอย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ปรารภความเพียร ฯลฯ ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยเชาวน์อย่างไร ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะ ทั้งหลาย สิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้สมบูรณ์
ด้วยเชาวน์อย่างนี้แล

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของ คำนับ ควรของต้อนรับควรของทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่น ยิ่งกว่า



 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์