เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

ชานุสโสณีสูตร วิชชา ๓ แบบพราหมณ์ และแบบพุทธ 2142
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐

วิชา ๓ ในแบบของพราหมณ์
๑.เป็นอุภโตสุชาติ (ชาติกำเนิด) ตลอด ๗ ชั่ว ทั้งฝ่ายบิดา-มารดา
๒.เป็นผู้เล่าเรียน ทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท พร้อมทั้ง คัมภีร์ต่างๆ (ทำพิธีกรรม)
๓.เป็นผู้เข้าใจ ไวยากรณ์ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะ และตำราทำนาย มหาปุริสลักษณะ (ดูฤกษ์)

วิชา ๓ ในศาสนาพุทธ
๑.บรรลุ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติก่อนๆได้ ว่ามีภพอย่างนั้น)
๒.บรรลุ ทิพยญาณ (รู้การจุติ และการอุปบัติ เลว ประณีต ได้ดี หรือตกยาก)
๓.บรรลุ อาสวขยญาณ (รู้ว่าจิตหลุดพ้น รู้ว่าสิ้นภพแล้ว)


เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๑๖๐ - ๑๖๑

ชานุสโสณีสูตร
ว่าด้วยวิชชา ๓ ของพราหมณ์และพุทธะ

             [๔๙๙] ครั้งนั้นแล ชานุสโสณีพราหมณ์ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ผู้ใดมียัญสิ่งที่พึงให้ ด้วยศรัทธา อาหารที่จะพึงให้แก่คนอื่น หรือไทยธรรม ผู้นั้นควรให้ทานในพราหมณ์ ผู้ได้วิชชา ๓

            พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
            ดูกรพราหมณ์ ก็พราหมณ์ทั้งหลายย่อมบัญญัติพราหมณ์ว่าได้วิชชา ๓ อย่างไร

             ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ พราหมณ์ในโลกนี้

(วิชชา ๓ ของพราหมณ์)

เป็นอุภโตสุชาติ
(ชาติกำเนิด) ทั้งข้างฝ่าย มารดา และฝ่ายบิดา มีครรภ์ เป็นที่ถือปฏิสนธิ สะอาดดีตลอด ๗ ชั่ว บรรพบุรุษ ไม่มีใคร จะคัดค้านติเตียนได้ ด้วยอ้างถึงชาติ

เป็นผู้เล่าเรียน ทรงจำมนต์ รู้จบไตรเพท พร้อมทั้ง คัมภีร์นิฆัณฑุ คัมภีร์เกฏุภะ พร้อมทั้งประเภทอักษรมีคัมภีร์อิติหาสเป็นที่ ๕ เป็นผู้เข้าใจ ตัวบท

เป็นผู้เข้าใจ ไวยากรณ์ชำนาญใน คัมภีร์โลกายตะ และตำราทำนาย มหาปุริสลักษณะ

              ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็พราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมบัญญัติพราหมณ์ว่า ได้ วิชชา ๓ อย่างนี้แล

             พ. ดูกรพราหมณ์ พราหมณ์ทั้งหลายย่อมบัญญัติพราหมณ์ว่าได้วิชชา ๓ อย่างหนึ่ง ก็แหละ ผู้ได้วิชชา ๓ ในอริยวินัยเป็นอย่างหนึ่ง (คนละอย่างกับพุทธ)

             ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ผู้ได้วิชชา ๓ ในอริยวินัย ย่อมมีอย่างไร ขอประทานพระวโรกาส ขอพระองค์โปรดทรงแสดงธรรมแก่ข้าพระองค์ตามที่ผู้ได้วิชชา ๓ มีในอริยวินัย

             พ. ดูกรพราหมณ์ ถ้ากระนั้นจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวชานุสโสณี พราหมณ์ ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสว่า ดูกรพราหมณ์

(วิชชา ๓ ของศาสนาพุทธ)

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน อยู่ ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลสปราศจากกิเลสอ่อน ควรแก่การงานตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ เธอย่อมระลึกถึงชาติก่อนๆ ได้เป็นอันมาก ฯลฯ  วิชชาข้อแรก เป็นอันเธอได้บรรลุแล้ว ดังนี้ (บรรลุฌาณ๑-๒-๓-๔ ได้ปุพเพนิวาสานุสติญาณ)

อวิชชาสูญไป วิชชาเกิดขึ้น ความมืดสูญไป แสงสว่างเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับของ ภิกษุ ผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปแล้วอยู่ ฉะนั้นภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจาก อุปกิเลส อ่อนควรแก่การงาน มั่นคง ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อรู้จุติ และอุปบัติของสัตว์ทั้งหลาย เธอย่อมเห็นหมู่สัตว์ ฯลฯ ด้วยทิพจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุ ของมนุษย์ วิชชาข้อที่สอง ย่อมเป็นอันเธอได้บรรลุ แล้ว ดังนี้ (ได้ทิพย์จักษุ รู้การจุติและอุบัติของสัตว์)

อวิชชาสูญไป วิชชาเกิดขึ้น ความมืดสูญไป แสงสว่างเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับของ ภิกษุ ผู้ไม่ประมาทมีความเพียร ส่งตนไปแล้วอยู่ ฉะนั้น ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจาก อุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ อาสวักขยญาณ ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เหล่านี้อาสวะ ฯลฯ นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับอาสวะ เมื่อเธอ รู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้น แม้จาก กามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จาก อวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้วรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี วิชชาข้อที่สาม ย่อมเป็นอันเธอได้บรรลุแล้ว ดังนี้ (ได้อาสวักขยญาณ รู้ว่าจิตหลุดพ้นแล้ว)

             อวิชชาสูญไปวิชชาเกิดขึ้น ความมืดสูญไป แสงสว่างเกิดขึ้น เช่นเดียวกันกับ ของ ภิกษุผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปแล้วอยู่ ฉะนั้น

             ผู้ใดสมบูรณ์ด้วยศีลวัตร ส่งตนไปแล้ว มีจิตเป็นสมาธิ ผู้ใดมีจิตมีความชำนาญ เป็นเอกัคคตา ตั้งมั่นดีแล้ว ผู้ใดตรัสรู้ปุพเพนิวาสญาณ เห็นสวรรค์และอบาย บรรลุถึง ธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งชาติ เป็นมุนีผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เพราะรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง และเป็น พราหมณ์ผู้ได้วิชชา ๓ เราย่อมไม่กล่าวถึงคนอื่น ตามถ้อยคำที่คนอื่นกล่าวว่าได้วิชชา ๓

             ดูกรพราหมณ์ ผู้ได้วิชชา ๓ ในอริยวินัยเป็นอย่างนี้แล

             ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ผู้ได้วิชชา ๓ ของพวกพราหมณ์เป็นอย่างหนึ่ง ก็แหละผู้ได้วิชชา ๓ ในอริยวินัยเป็นอย่างหนึ่ง ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญผู้ได้วิชชา ๓ ของพวกพราหมณ์ไม่ถึงส่วนที่ ๑๖ ซึ่งจำแนกเป็น ๑๖ ครั้ง ของผู้ได้วิชชา ๓ ในอริยวินัยนี้

             ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ขอท่านพระโคดม โปรดทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอด ชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป

สรุป วิชา ๓ ในศาสนาพุทธ
๑.บรรลุ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติก่อนๆได้ ว่ามีภพอย่างนั้น)
๒.บรรลุ ทิพยญาณ (รู้การจุติ และการอุปบัติ เลว ประณีต ได้ดี หรือตกยาก)
๓.บรรลุ อาสวขยญาณ (รู้ว่าจิตหลุดพ้น รู้ว่าสิ้นภพแล้ว)

 


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์