เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

เขตตสูตร ว่าด้วยนาดีนาเลว ไม่เป็นที่ลุ่มๆดอนๆ-เป็นที่ลุ่มๆดอนๆ/เหมือนพราหมณ์เป็นสัมมาทิฐิ - เป็นมิจฉาทิฐิ 2270
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒

เขตตสูตร ว่าด้วยนาดีนาเลว
นาดี-นาเลว
๑ ไม่เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ - เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
๒ ไม่เป็นที่ปนหินปนกรวด - เป็นที่ปนหินปนกรวด
๓ ไม่เป็นที่ดินเค็ม - เป็นที่ดินเค็ม
๔ เป็นที่ไถลงลึกได้ - เป็นที่ไถลงลึกไม่ได้
๕ เป็นที่มีทางน้ำเข้าได้ - เป็นที่ไม่มีทางน้ำเข้า
๖ เป็นที่มีทางน้ำออกได้ - เป็นที่ไม่มีทางน้ำออก
๗ เป็นที่มีเหมือง - เป็นที่ไม่มีเหมือง
๘ เป็นที่มีคันนา - เป็นที่ไม่มีคันนา

อปุมาเหมือนกับทานที่บุคคลให้กับ สมณพราหมณ์
ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก และ
ไม่ประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก
๑ เป็นสัมมาทิฐิ - เป็นมิจฉาทิฐิ
๒ เป็นสัมมาสังกัปปะ - เป็นมิจฉาสังกัปปะ
๓ เป็นสัมมาวาจา - เป็นมิจฉาวาจา
๔ เป็นสัมมากัมมันตะ - เป็นมิจฉากัมมันตะ
๕ เป็นสัมมาอาชีวะ - เป็นมิจฉาอาชีวะ
๖ เป็นสัมมาวายามะ - เป็นมิจฉาวายามะ
๗ เป็นสัมมาสติ - เป็นมิจฉาสติ
๘ เป็นสัมมาสมาธิ - เป็นมิจฉาสมาธิ

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๑๒-๒๑๔

เขตตสูตร
ว่าด้วยนาดีนาเลว

            [๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ไม่มีผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก นาประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาในโลกนี้
๑ เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
๒ เป็นที่ปนหินปนกรวด
๓ เป็นที่ดินเค็ม
๔ เป็นที่ไถลงลึกไม่ได้
๕ เป็นที่ไม่มีทางน้ำเข้า
๖ เป็นที่ไม่มีทางน้ำออก
๗ เป็นที่ไม่มีเหมือง
๘ เป็นที่ไม่มีคันนา

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างนี้ไม่มีผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก

            ดูกรภิกษุทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกันแล ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ ผู้ประกอบด้วย องค์ ๘ ประการ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่รุ่งเรืองมาก ไม่เจริญแพร่หลายมาก สมณพราหมณ์ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ในโลกนี้
๑ เป็นมิจฉาทิฐิ
๒ เป็นมิจฉาสังกัปปะ
๓ เป็นมิจฉาวาจา
๔ เป็นมิจฉากัมมันตะ
๕ เป็นมิจฉาอาชีวะ
๖ เป็นมิจฉาวายามะ
๗ เป็นมิจฉาสติ
๘ เป็นมิจฉาสมาธิ


            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่รุ่งเรืองมากไม่เจริญแพร่หลายมาก

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนพืชที่บุคคลหว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ มีผลมาก มีความดีใจมาก มีความเจริญมาก นาประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างไร

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาในโลกนี้
๑ ไม่เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
๒ ไม่เป็นที่ปนหินปนกรวด
๓ ไม่เป็นที่ดินเค็ม
๔ เป็นที่ไถลงลึกได้
๕ เป็นที่มีทางน้ำเข้าได้
๖ เป็นที่มีทางน้ำออกได้
๗ เป็นที่มีเหมือง
๘ เป็นที่มีคันนา

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ย่อมมีผลมาก มีความดีใจมาก มีความเจริญมาก

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความเจริญแพร่หลายมาก สมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ในโลกนี้
๑ เป็นสัมมาทิฐิ
๒ เป็นสัมมาสังกัปปะ
๓ เป็นสัมมาวาจา
๔ เป็นสัมมากัมมันตะ
๕ เป็นสัมมาอาชีวะ
๖ เป็นสัมมาวายามะ
๗ เป็นสัมมาสติ
๘ เป็นสัมมาสมาธิ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความเจริญ แพร่หลายมาก ฉะนี้

            พืชอันหว่านลงในนาที่สมบูรณ์ เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ธัญชาติย่อมงอกงาม ไม่มีศัตรูพืช ย่อมแตกงอกงาม ถึง ความไพบูลย์ให้ผลเต็มที่ ฉันใด โภชนะที่บุคคลถวาย ในสมณพราหมณ์ผู้มีศีลสมบูรณ์ ก็ฉันนั้น ย่อมนำมาซึ่งกุศล อันสมบูรณ์ เพราะกรรม ที่เขาทำนั้นสมบูรณ์แล้ว

            เพราะฉะนั้น บุคคลในโลกนี้ผู้หวังกุศลสัมปทา จงเป็นผู้มีประโยชน์ ถึงพร้อม พึงคบหาท่านผู้มีปัญญาสมบูรณ์ ปุญญสัมปทา ย่อมสำเร็จได้อย่างนี้ ท่านผู้ถึงพร้อมด้วย วิชชาและจรณะ ได้จิตสัมปทาแล้ว กระทำกรรมให้บริบูรณ์ ย่อมได้ผล บริบูรณ์ รู้โลกนี้ ตามเป็นจริงแล้ว พึงถึงทิฐิสัมปทา อาศัย มรรคสัมปทา มีใจบริบูรณ์ ย่อมบรรลุ อรหัต เพราะกำจัด มลทินทั้งปวงได้แล้ว บรรลุนิพพานสัมปทาได้แล้ว ย่อมหลุดพ้น จากทุกข์ ทั้งปวง การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงนั้น จัดเป็นสรรพสัมปทา

 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์