พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๒๑๒-๒๑๔
เขตตสูตร
ว่าด้วยนาดีนาเลว
[๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ไม่มีผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก นาประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาในโลกนี้
๑ เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
๒ เป็นที่ปนหินปนกรวด
๓ เป็นที่ดินเค็ม
๔ เป็นที่ไถลงลึกไม่ได้
๕ เป็นที่ไม่มีทางน้ำเข้า
๖ เป็นที่ไม่มีทางน้ำออก
๗ เป็นที่ไม่มีเหมือง
๘ เป็นที่ไม่มีคันนา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างนี้ไม่มีผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก
ดูกรภิกษุทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกันแล ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ ผู้ประกอบด้วย องค์ ๘ ประการ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่รุ่งเรืองมาก ไม่เจริญแพร่หลายมาก สมณพราหมณ์ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ในโลกนี้
๑ เป็นมิจฉาทิฐิ
๒ เป็นมิจฉาสังกัปปะ
๓ เป็นมิจฉาวาจา
๔ เป็นมิจฉากัมมันตะ
๕ เป็นมิจฉาอาชีวะ
๖ เป็นมิจฉาวายามะ
๗ เป็นมิจฉาสติ
๘ เป็นมิจฉาสมาธิ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่รุ่งเรืองมากไม่เจริญแพร่หลายมาก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนพืชที่บุคคลหว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ มีผลมาก มีความดีใจมาก มีความเจริญมาก นาประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ อย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นาในโลกนี้
๑ ไม่เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
๒ ไม่เป็นที่ปนหินปนกรวด
๓ ไม่เป็นที่ดินเค็ม
๔ เป็นที่ไถลงลึกได้
๕ เป็นที่มีทางน้ำเข้าได้
๖ เป็นที่มีทางน้ำออกได้
๗ เป็นที่มีเหมือง
๘ เป็นที่มีคันนา
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ย่อมมีผลมาก มีความดีใจมาก มีความเจริญมาก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความเจริญแพร่หลายมาก สมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ในโลกนี้
๑ เป็นสัมมาทิฐิ
๒ เป็นสัมมาสังกัปปะ
๓ เป็นสัมมาวาจา
๔ เป็นสัมมากัมมันตะ
๕ เป็นสัมมาอาชีวะ
๖ เป็นสัมมาวายามะ
๗ เป็นสัมมาสติ
๘ เป็นสัมมาสมาธิ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความเจริญ แพร่หลายมาก ฉะนี้
พืชอันหว่านลงในนาที่สมบูรณ์ เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ธัญชาติย่อมงอกงาม ไม่มีศัตรูพืช ย่อมแตกงอกงาม ถึง ความไพบูลย์ให้ผลเต็มที่ ฉันใด โภชนะที่บุคคลถวาย ในสมณพราหมณ์ผู้มีศีลสมบูรณ์ ก็ฉันนั้น ย่อมนำมาซึ่งกุศล อันสมบูรณ์ เพราะกรรม ที่เขาทำนั้นสมบูรณ์แล้ว
เพราะฉะนั้น บุคคลในโลกนี้ผู้หวังกุศลสัมปทา จงเป็นผู้มีประโยชน์ ถึงพร้อม พึงคบหาท่านผู้มีปัญญาสมบูรณ์ ปุญญสัมปทา ย่อมสำเร็จได้อย่างนี้ ท่านผู้ถึงพร้อมด้วย วิชชาและจรณะ ได้จิตสัมปทาแล้ว กระทำกรรมให้บริบูรณ์ ย่อมได้ผล บริบูรณ์ รู้โลกนี้ ตามเป็นจริงแล้ว พึงถึงทิฐิสัมปทา อาศัย มรรคสัมปทา มีใจบริบูรณ์ ย่อมบรรลุ อรหัต เพราะกำจัด มลทินทั้งปวงได้แล้ว บรรลุนิพพานสัมปทาได้แล้ว ย่อมหลุดพ้น จากทุกข์ ทั้งปวง การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงนั้น จัดเป็นสรรพสัมปทา |