เว็บไซต์ อนาคามี เผยแพร่คำพระศาสดา เผยแพร่คำสอนตถาคต เว็บไซต์เผยแพร่พระสุตรคำสอนของพระพุทธเจ้า คลิปคำสอน คลิปสาธยายธรรม
ค้นหาคำที่ต้องการ            

อกุศลสูตร สาวัชชสูตร วิสมสูตร อสุจิสูตร กายกรรม วจี.. มโนกรรม กุศล-อกุศล ขตสูตร สัตตบุรุษ-อสัตตบุรุษ 2167
 

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐
.
อกุศลสูตร
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นอกุศล ย่อมตกนรก
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นกุศล ย่อมขึ้นสวรรค์
.
สาวัชชสูตร
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่มีโทษ ย่อมตกนรก
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ไม่มีโทษ ย่อมขึ้นสวรรค์
.
วิสมสูตร
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ไม่สม่ำเสมอ ย่อมตกนรก
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่สม่ำเสมอ ย่อมขึ้นสวรรค์
.
อสุจิสูตร
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ไม่สะอาด ย่อมตกนรก
ประพฤติธรรม ๓ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่สะอาด ย่อมขึ้นสวรรค์
.
ขตสูตรที่ ๑
อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นฝ่ายอกุศล ต้องประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก
สัตบุรุษผู้ฉลาดเฉียบแหลม ประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่เป็นกุศล
เป็นผู้ไม่มีโทษ ได้ประสบบุญเป็นอันมาก
.
ขตสูตรที่ ๒
อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลม ประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่มีโทษ
สัตบุรุษผู้ฉลาด เฉียบแหลม ประพฤติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ไม่มีโทษ
.
ขตสูตรที่ ๓
อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่ไม่สม่ำเสมอ
สัตบุรุษผู้ฉลาด ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ที่สม่ำเสมอ
.
ขตสูตรที่ ๔
อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่ไม่สะอาด
สัตบุรุษผู้ฉลาด ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ คือ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่สะอาด
.
วันทนาสูตร
การไหว้ ๓ อย่างเป็นไฉนคือ ไหว้ทางกาย ไหว้ทางวาจา ไหว้ทางใจ
.
สุปุพพัณหสูตร
สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริต ด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาใด เวลานั้นก็เป็นเวลาที่ดีของสัตว์เหล่านั้น

เรื่องสำคัญของพระพุทธเจ้า
การบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติ
การประสูติ แสงสว่าง แผ่นดินไหว
แสวงหาสัจจะบำเพ็ญทุกรกิริยา
ปัญจวัคคีย์หลีก สิ่งที่ตรัสรู้
ตรัสรู้ แสดงเทศนาปัญจวัคคีย์
ปลงสังขาร ปรินิพพาน
ลำดับขั้นการปรินิพพาน
เทวดาแสดงฤทธิ์ขณะถวายเพลิง
แบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วน
 
รวมพระสูตรบุคคลสำคัญ
พระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร
พระเทวทัต
นิครนถ์ปริพาชก
พระมหากัปปินะ
พระอนุรุทธะ
พระอุบาลี
(ดูทั้งหมด)
 
สารบาญพระไตรปิฎก
เล่มที่ ๘-๓๓ (๒๕ เล่ม) ทุกพระสูตร
1. ฉบับหลวง
2. ฉบับมหาจุฬาฯ
3. อรรถกถาไทย
4. ฉบับภาษาบาลี
5. อรรถกถา-บาลี
6. Pali Roman (Roman Script)
7. Atthakatha PaliRoman
 

 


 


พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๒

อกุศลสูตร

            [๕๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำไปฝังไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรม ฝ่ายอกุศล ๑ วจีกรรมฝ่ายอกุศล ๑ มโนกรรมฝ่ายอกุศล ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลายผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำไปฝังไว้ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องได้ขึ้นสวรรค์เหมือนกับเชิญไปวางไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมฝ่ายกุศล ๑ วจีกรรมฝ่ายกุศล ๑ มโนกรรมฝ่ายกุศล ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม๓ ประการนี้แล ต้องได้ขึ้นสวรรค์เหมือนกับเชิญไปวางไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๒

สาวัชชสูตร

            [๕๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำไปฝังไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่มีโทษ ๑ วจีกรรมที่มีโทษ ๑ มโนกรรมที่มีโทษ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำไปฝังไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องได้ขึ้นสวรรค์เหมือนกับเชิญไปวางไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่ไม่มีโทษ ๑ วจีกรรมที่ไม่มีโทษ ๑ มโนกรรมที่ไม่มีโทษ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม๓ ประการนี้แล ต้องได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเชิญไปวางไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๒-๓๓๓

วิสมสูตร

            [๕๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำเอาไปฝังไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑ วจีกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑ มโนกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำเอาไปฝังไว้

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเชิญเอาไปวางไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่สม่ำเสมอ ๑ วจีกรรมที่สม่ำเสมอ ๑ มโนกรรมที่สม่ำเสมอ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเชิญไปวางไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๓

อสุจิสูตร

            [๕๘๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำเอาไปฝังไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่ไม่สะอาด ๑ วจีกรรมที่ไม่สะอาด ๑ มโนกรรมที่ไม่สะอาด ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องตกนรก เหมือนกับถูกนำเอาไปฝังไว้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ต้องขึ้นสวรรค์เหมือนกับเชิญเอาไปวางไว้ ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่สะอาด ๑วจีกรรมที่สะอาด ๑ มโนกรรมที่สะอาด ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ต้องได้ขึ้นสวรรค์ เหมือนกับเชิญเอาไปวางไว้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๓-๓๓๔

ขตสูตรที่ ๑

            [๕๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลมประกอบด้วย ธรรม ๓ ประการ ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ถูกทำลาย เป็นผู้มีโทษ มีข้อที่วิญญูชน จะพึง ติเตียน และต้องประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมฝ่ายอกุศล ๑ วจีกรรมฝ่ายอกุศล ๑มโนกรรมฝ่ายอกุศล ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลมประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ถูกทำลาย เป็นผู้มีโทษ มีข้อที่วิญญูชนจะพึง ติเตียน และต้องประสบกรรมมิใช่บุญเป็นอันมาก

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษผู้ฉลาดเฉียบแหลม ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลาย เป็นผู้ไม่มีโทษ วิญญูชนไม่พึงติเตียน และได้ประสบบุญเป็นอันมาก

            ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมฝ่ายกุศล ๑ วจีกรรมฝ่ายกุศล ๑ มโนกรรมฝ่ายกุศล ๑ ฯลฯ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๔

ขตสูตรที่ ๒

            [๕๙๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลมประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ฯลฯ คือ กายกรรมที่มีโทษ ๑ วจีกรรมที่มีโทษ ๑ มโนกรรมที่มีโทษ ๑ ฯลฯ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษผู้ฉลาด เฉียบแหลม ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ฯลฯ คือ กายกรรมที่ไม่มีโทษ ๑ วจีกรรมที่ไม่มีโทษ ๑ มโนกรรมที่ไม่มีโทษ ๑ ฯลฯ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๔

ขตสูตรที่ ๓

            [๕๙๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลมประกอบด้วย ธรรม ๓ ประการ ฯลฯ คือ กายกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑ วจีกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑ มโนกรรมที่ไม่สม่ำเสมอ ๑ ฯลฯ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษผู้ฉลาด เฉียบแหลม ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ฯลฯ คือ กายกรรมที่สม่ำเสมอ ๑ วจีกรรมที่สม่ำเสมอ ๑ มโนกรรมที่สม่ำเสมอ ๑ ฯลฯ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๔

ขตสูตรที่ ๔

            [๕๙๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสัตบุรุษผู้โง่เขลา ไม่เฉียบแหลมประกอบด้วย ธรรม ๓ ประการ คือ กายกรรมที่ไม่สะอาด ๑ วจีกรรมที่ไม่สะอาด ๑มโนกรรมที่ไม่สะอาด ๑ ฯลฯ

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษผู้ฉลาด เฉียบแหลมประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ฯลฯ คือ กายกรรมที่สะอาด ๑ วจีกรรมที่สะอาด ๑ มโนกรรมที่สะอาด

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษผู้ฉลาด เฉียบแหลมประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลาย ย่อมเป็นผู้ไม่มีโทษ วิญญูชนไม่พึงติเตียน และได้ประสบบุญเป็นอันมาก


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๕

วันทนาสูตร

            [๕๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การไหว้ ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉนคือ ไหว้ทางกาย ๑ ไหว้ทางวาจา ๑ ไหว้ทางใจ ๑

            ดูกรภิกษุทั้งหลาย การไหว้ ๓ อย่างนี้แล


--------------------------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๓๕-๓๓๖

สุปุพพัณหสูตร

            [๕๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริต ด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น

สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดีของสัตว์เหล่านั้น

สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจาประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นก็เป็นเวลา เย็น ที่ดีของสัตว์เหล่านั้น

            สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็น ฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี และบูชาดี ในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย กายกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา วจีกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา มโนกรรมเป็นส่วนเบื้องขวา ความปรารถนาของท่านเป็นส่วน เบื้องขวา สัตว์ทั้งหลายทำ กรรมอันเป็นส่วนเบื้องขวาแล้ว ย่อมได้ผลประโยชน์อัน เป็นส่วนเบื้องขวา ท่านเหล่านั้นได้ประโยชน์แล้ว จงได้รับ ความสุข จงงอกงาม ในพระพุทธศาสนา จงไม่มีโรค ถึง ความสุข พร้อมด้วยญาติทั้งมวล

 

 


 





หนังสือพุทธวจน ธรรมะของพระศาสดา
90 90 90 90
พุทธประวัติ ขุมทรัพย์ อริยสัจ
ภาคต้น
อริยสัจ
ภาคปลาย
ปฏิจจ ปฐมธรรม ตถาคต อนาคามี อินทรีย์
สังวร
สัตว์
สัตตานัง
ทาน
สกทาคามี
ฆราวาส
ชั้นเลิศ
มรรควิธี
ที่ง่าย
อริยวินัย เดรัจฉานวิชา กรรม สมถะ
วิปัสสนา
โสดาบัน นา
ปานสติ
จิต มโน
วิญญาณ
ก้าวย่าง
อย่างพุทธะ
ตามรอย
ธรรม
ภพ ภูมิ
พุทธวจน
สาธยาย
ธรรม
สังโยชน์