พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๙ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๑-๓๑๕
สหัสสสูตร
การบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา
[๑๒๘๕] สมัยหนึ่ง ท่านพระอนุรุทธะ อยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุมากรูปเข้าไปหาท่าน พระอนุรุทธะ ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอนุรุทธะ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ถามท่าน พระอนุรุทธะ ว่า ท่านอนุรุทธะบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา เพราะได้เจริญได้ กระทำให้มาก ซึ่งธรรมเหล่าไหน?
[๑๒๘๖] ท่านพระอนุรุทธะตอบว่า ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย เราบรรลุภาวะแห่ง มหาอภิญญา เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔
สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน? เราย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ ... ย่อมพิจารณา เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ... ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ... ย่อมพิจารณาเห็นธรรม ในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย เราบรรลุภาวะแห่งมหาอภิญญา เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้แล
อนึ่ง เราย่อมระลึกได้ตลอดพันกัลป์ (กัป) เพราะได้เจริญได้กระทำให้มาก ซึ่ง สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้.
จบ สูตรที่ ๑
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๙ สุตตันตปิฎก หน้าที่ ๓๑๑-๓๑๕
อิทธิสูตร
เจริญสติปัฏฐานแผลงฤทธิ์ได้
[๑๒๘๗] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ ฯลฯ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้ เพราะ ได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๒
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทิพโสตสูตร
ว่าด้วยเสียง ๒ ชนิด
[๑๒๘๘] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมได้ยินเสียง ๒ ชนิด คือ เสียงทิพย์ และมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพโสตอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์ เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๓
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เจโตปริจจสูตร
ว่าด้วยการกำหนดรู้ใจผู้อื่น
[๑๒๘๙] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมกำหนดรู้ใจ ของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะก็รู้ว่า จิตมีราคะ ฯลฯ จิตหลุดพ้นก็รู้ว่า จิตหลุดพ้น เพราะได้เจริญได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๔
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฐานาฐานสูตร
ว่าด้วยการรู้ฐานะอฐานะ
[๑๒๙๐] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้ฐานะ โดยความเป็นฐานะ และอฐานะโดยความเป็นอฐานะ ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๕
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิปากสูตร
ว่าด้วยการรู้วิบากของกรรม
[๑๒๙๑] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้วิบาก ของการกระทำกรรม ทั้งที่ เป็นอดีตอนาคต และปัจจุบัน โดยฐานะ โดยเหตุ ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้.
จบ สูตรที่ ๖
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สัพพัตถคามินีปฏิปทาสูตร
ปฏิปทาอันให้ถึงประโยชน์ทั้งปวง
[๑๒๙๒] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้จักปฏิปทา (ข้อปฏิบัติ) อันให้ถึงประโยชน์ ทั้งปวงตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่ง สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๗
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
นานาธาตุสูตร
ว่าด้วยการรู้ธาตุต่างๆ
[๑๒๙๓] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้ธาตุเป็นอเนก และโลกธาตุ ต่างๆ ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๘
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
อธิมุตติสูตร
ว่าด้วยการรู้อธิมุติต่างๆ
[๑๒๙๔] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้อธิมุติ (ความโน้มไป) อันเป็น ต่างๆ กัน ของสัตว์ทั้งหลาย ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๙
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
อินทริยสูตร
ว่าด้วยการรู้ความยิ่งหย่อนแห่งอินทรีย์
[๑๒๙๕] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อม รู้ความยิ่ง และหย่อน แห่ง อินทรีย์ ของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่น ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่ง สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๑๐
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สังกิเลสสูตร
ว่าด้วยรู้ความเศร้าหมองความผ่องแผ้ว
[๑๒๙๖] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมรู้ความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้ว ความออกแห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ และสมาบัติ ตามความเป็นจริง เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๑๑
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิชชาสูตรที่ ๑
ว่าด้วยการระลึกชาติได้
[๑๒๙๗] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมระลึกถึงชาติก่อน ได้เป็นอันมาก คือ ระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง ฯลฯ เราย่อมระลึกถึงชาติก่อน ได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการพร้อมทั้งอุทเทศ ด้วยประการ ฉะนี้ เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๑๒
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิชชาสูตรที่ ๒
ว่าด้วยการเห็นจุติและอุปบัติ
[๑๒๙๘] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติกำลังอุปบัติ ฯลฯ ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ผู้เป็นไปตามกรรม ฯลฯ เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๑๓
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิชชาสูตรที่ ๓
ว่าด้วยการทำอาสวะให้สิ้นไป
[๑๒๙๙] ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มาก ซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้
จบ สูตรที่ ๑๔ |